รัฐบาลตู่ภาค 2 เริ่มสตาร์ตเครื่องอย่างเป็นทางการด้วยความคึกคักเหมือนม้าแข่งออกจากซองฉลองเทศกาลเข้าพรรษา พอดี
บรรดารัฐมนตรีหน้าเก่ายุค คสช. 10 คน ผสมกับรัฐมนตรีใหม่จากพรรคการเมือง 25 คน ประกาศจะทะลุ่มทะลุยเดินหน้าทำงานด้วยความปลาบปลื้มยินดีสามัคคีกลมเกลียว
“แม่ลูกจันทร์” ร้างสนามไปร่วม 3 เดือน ก็ได้เวลากลับมาเกาะติดการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ คอยสอดส่องท่านรัฐมนตรีแต่ละคนอย่างใกล้ชิดถึงลูกถึงคน
โดยยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ถ้าประเมินภาพรวมของ ครม.ชุดนี้ อย่างตรงไปตรงมา ก็ต้องกราบเรียนว่า ครม.ชุดใหม่ “ขี้ริ้ว” กว่า ครม.รัฐบาล คสช.ของนายกฯลุงตู่
และขี้เหร่กว่า ครม.หลายๆรัฐบาล ที่ผ่านมา
รัฐมนตรีใหม่หลายคนมีภาพติดลบ แถมประวัติลายพร้อยเป็นปลากระทิง
รัฐมนตรีบางคนมีเรื่องอื้อฉาวค้างท่ออยู่ใน ป.ป.ช.
รัฐมนตรีบางคนล่อแหลมขาดคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
บางคนได้เป็นรัฐมนตรีแทนพ่อ บางคนได้เป็นรัฐมนตรีแทนพี่ บางคนได้เป็นรัฐมนตรีแทนเมีย
เก้าอี้รัฐมนตรีกลายเป็นมรดกตกทอดในครอบครัว
สวนทางกับแผนปฏิรูปการเมืองที่นายกฯลุงตู่ฉายหนังโฆษณาเต็มเปา
แต่เอาเถอะ ถึงแม้ภาพลักษณ์ ครม.ชุดนี้จะเป็นสีเทาๆ
เพื่อความเป็นธรรมก็ควรให้โอกาสรัฐมนตรีใหม่ (และเก่า) ได้โชว์ฝีมือการทำงานช่วงเทศกาลเข้าพรรษาซัก 3 เดือน
รอออกพรรษาหน้ากฐินก่อนค่อยชำแหละเป็นรายกระทรวงให้ชัดๆกันไปเลย
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อยิ่งกว่าเชื่อว่า “นายกฯลุงตู่” ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า ครม.ชุดใหม่มีรัฐมนตรีเต้าหู้ยี้อยู่หลายคน
ที่ต้องกลั้นใจใส่ชื่อคนเหล่านี้เป็นรัฐมนตรี เพราะเป็นโควตาพรรคการเมือง
...
แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้แต่งตั้ง ครม.ชุดนี้เอง
พล.อ.ประยุทธ์ต้องกำกับควบคุมสอดส่องการทำงานรัฐมนตรีทุกคน อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
คุมเข้มรัฐมนตรีไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง
อย่าให้เกิดอัปยศอื้อฉาวในรัฐบาลเป็นอันขาดเชียว!
หรือมองอีกแง่...การสืบทอดอำนาจ คสช.กลายเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยครึ่งใบ ถือเป็นความท้าทายของ “ลุงตู่” เหมือนกัน
เพราะการเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่มีนักการเมืองหลายพรรคร่วม ผสมข้ามสายพันธุ์ แตกต่างจากรัฐบาลเบ็ดเสร็จยุค คสช.
จะสั่งรัฐมนตรีซ้ายหันขวาหันไม่สะดวกโยธิน
ถือเป็นหลักสูตรทดสอบความสามารถ “นายกฯลุงตู่” ว่ามีวิทยายุทธ์ในการบริหารงานและบริหารคนเก่งหรือไม่? แค่ไหน? อย่างไร??
“แม่ลูกจันทร์” มั่นใจว่า “นายกฯ ลุงตู่ภาค 2” จะฉีกแนวจากบทบาทเดิม
ไม่พูดจาด่าทอ เอะอะมะเทิ่ง โมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด เหมือน “นายกฯ ลุงตู่ภาคแรก” แน่นอน
ไม่งั้น “ลุงตู่” คงไม่เอ่ยปิยวาจาว่ามีความยินดี เป็นเกียรติ และมีความสุข ที่ได้มีโอกาสทำงานกับพี่ๆ (นักการเมือง) ทุกคน
ห้องประชุม ครม.แห่งนี้ รอคอยทุกท่านมาแล้วหลายปี
โอ้แม่เจ้า...หวานเจี๊ยบเป็นทองหยิบฝอยทอง.
“แม่ลูกจันทร์”