ส.ส.ทิ้งที่ประชุมหารือนโยบาย โร่ไปสภา-ออกเสียงให้ฝ่ายรัฐ "ธรรมนัส" โต้ไม่ค้ายาแต่ติดคุก
“วิษณุ” ย้ำ ครม.ใหม่ไร้ปัญหาคุณสมบัติ แต่ความเหมาะสมควรหรือไม่ควรเกิดขึ้นได้กับทุกคน แจงเจ้าหน้าที่ชงข้อมูลคดีติดตัว รมต.เสนอนายกฯรับทราบแล้ว “สมคิด” ชูนโยบายรัฐบาลเรียกความเชื่อมั่นแทนโฉมหน้า ครม. “ธรรมนัส” โต้วุ่นโอละพ่อไม่เคยค้ายาโวยลั่นสื่ออวตารกลุ่มตรงข้ามกุข่าวตีตราบาป โจมตีเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงหัวใจรัฐบาล “พุทธิพงษ์” ไม่หวั่นข้อหากบฏ กปปส. กอดแน่นไม่เลิก พ.ร.บ.ไซเบอร์ “อนุทิน” ไม่ห่วงเสถียรภาพรัฐบาล ขอแค่พรรคร่วมอย่าอิจฉาขัดขากันเอง “จุรินทร์” โยนนายกฯคุมเข้ม รมต.มีมลทิน “เสรีพิศุทธ์” ยี้ ครม.ประยุทธ์2 ไม่เข้าท่า “ปิยบุตร” ขยี้แค่ต่อท่อสืบอำนาจ เสียงปริ่มน้ำเริ่มพ่นพิษ แกนนำ พปชร.หารือร่างนโยบายนัดแรกสะดุด บิ๊ก ปชป.รีบบึ่งกลับไปโหวตเสียงในสภาฯ แก้ รธน.ใน 1 ปี ไม่จบต้องคุยอีกที
คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต่างแสดงความพร้อมปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่ โดยที่ยังคงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เหมาะสมกรณีรัฐมนตรีหลายคนมีปัญหาภาพลักษณ์และจริยธรรม บางรายมีคดีติดตัว โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ พร้อมจัดทำข้อสังเกตคดีความที่ค้างอยู่เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบแล้ว
“วิษณุ” ชี้ความควรไม่ควรเกิดขึ้นได้
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 ก.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ กรณีถูกศาลออสเตรเลียพิพากษาให้จำคุกว่า ข้อกฎหมายเป็นเรื่องหนึ่ง ความเหมาะสมความควรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องตรวจสอบจริยธรรมในตัวรัฐมนตรีก็ได้ ถือเป็นสิทธิของเขา หากไล่ดูรัฐธรรมนูญมาตรา 98 เรื่องลักษณะต้องห้ามการสมัคร ส.ส. มาตรา 101 เรื่องการสิ้นสุดสมาชิกภาพของ ส.ส.และมาตรา 160 คุณสมบัติของรัฐมนตรี ถือว่าไม่กระทบอะไร ส่วนความควรไม่ควรเป็นเรื่องที่เกิดได้กับทุกคน
...

จนท.ชง “บิ๊กตู่” รับทราบ รมต.คดีติดตัว
นายวิษณุกล่าวอีกว่า เช่น กรณีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นเรื่องของนายกฯ ในชั้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบตรงนั้นได้ แต่ถ้ามีปัญหาจะทำเป็นข้อสังเกต เป็นสองช่องคือช่องตามกฎหมาย และกรณีที่เป็นปัญหาในสังคม เช่น มีคดีค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.แต่ยังไม่ถูกชี้มูล ไม่ถือว่าขาดคุณสมบัติ แต่ให้รู้ว่ามีคดีค้างอยู่ รัฐมนตรีคนไหนมีคดีค้างไว้เขาทำส่งไปหมดเลย เพื่อให้รู้ไว้หากชี้มูลจะได้รู้ล่วงหน้า นายกฯทราบดีว่ารัฐมนตรีทั้ง 35 คนมีคุณสมบัติอย่างไร เมื่อถามว่าหากเกิดอะไรขึ้นนายกฯต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่รู้ว่าต้องรับผิดชอบหรือไม่ แต่ได้รับทราบแล้ว นายวิษณุกล่าวและว่า เข้าใจว่ามีการทำหนังสือขอพระราชทานวันเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯไปแล้ว และการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกจะยังไม่มีการแบ่งงาน เพราะการแบ่งงานจะเกิดขึ้นหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา การประชุมวันแรกจะพูดเพียงเรื่องนโยบายเท่านั้น เพื่อเตรียมการแถลงนโยบาย
อำนาจ ม.44 หมดหลังถวายสัตย์
นายวิษณุยังกล่าวถึงอำนาจ คสช.ตามมาตรา 44 จะหมดไปภายหลัง ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณหรือไม่ว่า แม้อำนาจการออกมาตรา 44 จะหมดไป แต่สิ่งที่ออกไปแล้วยังอยู่ต่อไปจนกว่า ครม.หรือสภาฯจะยกเลิกหรือแก้ไขแล้วแต่ว่าสถานภาพเป็นอะไร ถ้าเป็นคำสั่งบริหาร ครม.ยกเลิกได้ แต่หากมีฐานะเท่ากับกฎหมายต้องออกเป็น พ.ร.บ.เพื่อยกเลิก ขณะนี้ประกาศ คสช. คำสั่ง คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ต้องดำเนินการในสภาฯเหลืออยู่เพียง 10 กว่าฉบับ ส่วนการยกเลิกหรือแก้ไขโดยสภาฯ จะพิจารณา 3 วาระรวดหรือไม่เป็นเรื่องของเขา บางอย่างอาจต้องใช้เวลายาวเกินกว่าจะทำใน 3 วาระก็ได้ และยังต้องพึ่งวุฒิสภาด้วยเช่นเดียวกับการออก พ.ร.บ.

“สมคิด” ชูนโยบายฟื้นเชื่อมั่นแทน ครม.
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่คิดว่าเป็นรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ เพราะมีรองนายกฯหลายคน จะแบ่งเบากันกำกับดูแลกระทรวง และรายงานตรงต่อนายกฯ ส่วนการประเมินตัวเลขจีดีพีต่ำลงในภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เราโดนคนเดียว ทุกคนลำบากกันหมด รอถวายสัตย์ปฏิญาณคิดว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าจะคิดว่ามันจะรอดพ้นจากเศรษฐกิจโลกคงไม่ไหว ต้องพยายามประคองกันไป เมื่อถามว่าโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่จะเรียกความเชื่อมั่นจากต่างประเทศหรือนักลงทุนได้หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า อยู่ที่นโยบาย ถ้าทุกคนร่วมกันผลักดันนโยบาย อย่าให้มีอะไรติดขัด ความมั่นใจคงเหมือนเดิม เราต้องมั่นใจ ถ้าไม่มั่นใจแล้วจะให้ฝรั่งมามั่นใจเราได้อย่างไร ครึ่งปีแรกอย่าคิดอะไรมาก เพราะมันว่างมาครึ่งปี แต่ครึ่งปีหลังเมื่อรู้ว่าเศรษฐกิจโลกไม่ดี ต้องหันมาเน้นภายในประเทศ โครงการลงทุนต่างๆอย่าให้ติดขัด เวิลด์แบงก์ประเมินจีดีพีไว้ที่ 3.5 ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกแบบนี้ถือว่าดีแล้ว ถ้าช่วยกันอาจดีกว่านี้ก็ได้ใครจะไปรู้ งานด้านเศรษฐกิจคงไม่มีเซอร์ไพรส์ แต่เป็นความพยายามสร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนให้เดินหน้าต่อ ไม่อยากให้เสียโอกาส

“ธรรมนัส” โต้โอละพ่อไม่เคยค้ายา
เมื่อเวลา 17.00 น. ที่หอประชุมบริษัท ทีโอที ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ข้อกล่าวหาเรื่องค้ายาที่โดนจับในออสเตรเลียเป็นเรื่องโอละพ่อ ตนไม่ใช่คนนำเข้าหรือผลิตหรือผู้จำหน่ายเฮโรอีนเข้าออสเตรเลีย ตนเดินทางไปเที่ยวนครซิดนีย์ จากคำเชิญของพี่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ใน ป.ป.ส.ของสหรัฐฯ เข้าออสเตรเลียโดยผ่านการตรวจค้นถูกต้องทุกขั้นตอน ไม่ได้เป็นไปอย่างที่สื่อมวลชนรับข้อมูลมาจากสื่ออวตารที่พยายามโจมตี แต่โชคร้ายเพราะคนไทย 2 คนที่ถูกจับกลับอยู่ในที่เดียวกับที่ตนอยู่ด้วย จึงโดนข้อหารู้ว่ามียาเสพติดแต่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ ไม่ได้โดนข้อหาผลิตและนำเข้ายาเสพติด และถูกคุมขังประมาณ 8 เดือน จนปล่อยออกมาใช้ชีวิตตามปกติในนครซิดนีย์ 4 ปีเต็มๆ ก่อนจะถูกส่งตัวกลับมาไทยเพราะนโยบายของนายกเทศมนตรีนครซิดนีย์ ไม่ต้องการให้คนเอเชียตั้งตัวเป็นกลุ่มก้อน และไม่ได้มารับโทษด้วย
สื่ออวตารจ้องล้ม รบ.กุข่าวตราบาป
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวอีกว่า ถือเป็นตราบาปที่ไม่เคยพูดมาตลอด 30 ปี แต่สื่ออวตารกลับโจมตีว่า ตนกลับมารับโทษในประเทศไทย ตอนนี้รู้หมดแล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังความพยายามที่จะล้มตนให้ได้ เพราะเป็นกำลังหลักจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากล้มตนได้รัฐบาลก็สั่นคลอน เพราะหลายเรื่องที่ได้ประสานงานไว้นั้นถือเป็นความลับที่ตนรู้เพียงคนเดียว เขารู้ว่าตนเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่จะเอาเลือดไปหล่อเลี้ยงในหัวใจของรัฐบาล จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อล้ม เรื่องนี้ต้องปล่อยให้กฎหมายบ้านเมืองจัดการต่อไป คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ใช่คนในพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าเป็นกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ในประเทศตนไม่มีประวัติอาชญากรรมใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่จะพิสูจน์คือ อนาคตตนจะทำอะไรให้แผ่นดินบ้าง ไม่ใช่เอะอะกล่าวหากันว่า มาเฟียนักเลง คนใจนักเลงอย่างตน ลองให้ได้ทำงานดูก่อน หากทำไม่ได้เรื่องแล้วจะพิจารณาตัวเอง

“บี” ไม่หวั่นข้อหากบฏอุ้ม ก.ม.ไซเบอร์
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หรือบี รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า จะเร่งผลักดัน พ.ร.บ.ต่างๆที่วางแนวทางไว้ พ.ร.บ.ไซเบอร์ที่หลายฝ่ายกังวล จะเฝ้าระวังใช้ให้เป็นประโยชน์ต้องรู้เท่าทัน แต่คงไม่รื้อกฎหมายนี้ เพราะบังคับใช้ได้หลากหลายมิติ หากใช้ในทางที่ถูกต้องจะเป็นประโยชน์มาก ส่วนคดีที่ถูกอัยการฝ่ายคดีพิเศษฟ้องคดีต่อศาลอาญาข้อหากบฏอั้งยี่ซ่องโจร ขัดขวางการเลือกตั้ง สืบเนื่องจากการชุมนุมของ กปปส. อยู่ในศาลชั้นต้น เข้าสู่กระบวนการตามปกติไม่ได้ใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. พร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรมของศาลเต็มที่ ส่วนฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี ทุกคนต้องเตรียมพร้อม ทำงานอย่างระมัดระวัง

“สมศักดิ์” โอ่สร้างยุติธรรมเท่าเทียม
วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า จากนี้ขอทำหน้าที่ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และจะใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ทุกอย่างที่มีมาพัฒนาบ้านเมืองให้เกิดความยุติธรรมอย่างเสมอภาคในทุกชนชั้น #เดินหน้าเพื่อประเทศชาติ #ยุติธรรมเพื่อความเสมอภาคทุกชนชั้น
“อนุทิน” ขอพรรคร่วมไม่อิจฉาขัดขากัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หากทุกคนเข้ามาทำหน้าที่ตัวเอง ยึดประโยชน์บ้านเมืองเป็นที่ตั้งจะเป็น 19พรรค 100 พรรค หรือ 3 พรรค ทำได้ทั้งหมด เพียงแค่อย่าอิจฉาหรือขัดขวางประโยชน์ต่างๆที่ประชาชนจะได้รับ พรรคภูมิใจไทยยอมรับนโยบายพรรคอื่นๆ ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ในส่วนกระทรวงคมนาคมจะเข้าไปสานต่อระบบสาธารณูป– โภคการเดินทาง งานสำคัญคือการแก้ไขปากท้องประชาชนต้องแก้ไขเร่งด่วน ตามที่ประชาชนคาดหวัง พรรคจะติดตามผลการทำงานทุก 3 เดือน
“จัตุมงคล” ไขก๊อก “ทวีศักดิ์” ขึ้น ส.ส.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็น รมว.แรงงาน จะลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขยับนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 ขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน

ปชป.ย้ำปลดล็อกแก้ รธน.ต้องทำใน 1 ปี
เมื่อเวลา 11.35 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับรัฐมนตรีของพรรคว่า พรรคยังยึด 3 เงื่อนไขหลัก 1.การประกันรายได้เกษตรกร 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างน้อยสุดต้องแก้หมวดการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แก้ไขในอนาคตง่ายขึ้น จากเดิมต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภาและยังต้องใช้เสียงฝ่ายค้านไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และต้องทำประชามติด้วย ให้เหลือแค่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาเท่านั้น โดยได้เสนอให้กำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำภายใน 1 ปี ถ้าไม่เริ่มต้นปลดล็อกจะนำไปสู่การฉีกรัฐธรรมนูญอีก 3.ยังเสนอเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้กำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาลด้วย
โยนนายกฯกำกับดูแล รมต.มีมลทิน
เมื่อถามถึงกรณีกระแสวิจารณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯที่เคยถูกถอดยศและถูกศาลออสเตรเลียพิพากษาจำคุกในคดียาเสพติด ทำให้ภาพ ครม.รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมลทินหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เมื่อเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนมีหน้าที่บริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต นายกฯต้องกำกับดูแลให้เป็นไปตามนั้น การทำหน้าที่สำคัญอย่างยิ่ง หากทุกคนตั้งใจทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ประชาชนจะเป็นที่ยอมรับได้ งานในกระทรวงพาณิชย์เรื่องเร่งด่วนที่ต้องผลักดันคือ นโยบายประกันรายได้เกษตรกรเป็นเป้าหมายหลัก

“ถาวร–นิพนธ์” นัดถกเอกชนสงขลา
นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม กล่าวว่า จะเริ่มเชิญหอการค้าและภาคเอกชน จ.สงขลามาหารือร่วมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยและคณะ ส.ส.สงขลา ที่โรงแรมบุรีศรีภู บูติก อ.หาด– ใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 12 ก.ค. เวลา 10.00-12.00น. เปิดใจรับฟังแนวทางการพัฒนาและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน อาทิ ข้อเรียกร้องให้สร้างถนนมอเตอร์เวย์จาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ที่ จ.สงขลา หรือปัตตานี และการเร่งแก้ไขราคาสินค้าพืชผลการเกษตร จากนั้นจะเชิญหอการค้าภาคเอกชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และใน 5 รัฐของมาเลเซียมาร่วมพูดคุย สานต่อนโยบายสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ
“สาธิต” เล็งกรมอนามัย–ควบคุมโรค
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่าจะหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ต้องเร่งรณรงค์ให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ลดความแออัดของการใช้บริการสาธารณสุขทั้งระบบ อยากให้ประชาชนเป็นเจ้าของข้อมูลทางการแพทย์ของตัวเอง มีข้อมูลทางสาธารณสุขออนไลน์จากโรงพยาบาลปฐมภูมิไปโรงพยาบาลชั้นตติยภูมิ ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ ส่วนงานที่สนใจจะรับผิดชอบคือกรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และกรมควบคุมโรค

“นิพิฏฐ์” ฝาก ส.ส.บี้คดี “แรมโบ้–นาที”
เมื่อเวลา 07.00 น. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความยุติธรรม กรณีแรมโบ้ สุภรณ์ อัตถาวงศ์กับนาที รัชกิจประการ” ว่า กรณีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ บุกรุกและล้มการประชุมอาเซียนซัมมิทที่พัทยา จ.ชลบุรี ฟ้องไม่ทันจนคดีขาดอายุความ กรณี นาที รัชกิจประการ ป.ป.ช.ฟ้อง 2 ข้อหา ศาลพิพากษาว่าข้อหาที่ 1 ขาดอายุความ ข้อหาที่ 2 เพิกถอนสิทธิ เลือกตั้ง 5 ปี นับแต่ 9 ธ.ค.2556 เลยระยะเวลาเพิกถอนสิทธิไปแล้วในวันพิพากษา (ดีว่ารัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 98 (9) บัญญัติไว้เรื่องสิทธิการลงรับสมัครเลือกตั้งว่าแม้เลยเวลาเพิกถอนสิทธิแล้ว ผู้ที่เคยถูกพิพากษาจำคุกตามกฎหมาย ป.ป.ช.ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง)
จี้เลขาฯ ป.ป.ช.ตอบทำไมขาดอายุความ
“คำถามคือนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่ตำรวจหรืออัยการ ทำให้คดีขาดอายุความ เป็นผู้สมัคร ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และปัญหาคือนางนาที รัชกิจประการ ที่คดีขาดอายุความ ก็เป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ผมว่าท่านเลขาธิการ ป.ป.ช.ลองอธิบายหน่อยไหมครับว่า ทำไมคดีขาดอายุความลงโทษไป 1 ข้อหา ควรเป็นหน้าที่ของท่าน ส.ส.ถามในสภาฯเพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง แต่ยังวุ่นๆ เถียงกันเรื่องการจะแต่งกายอย่างไรเข้าสภาฯ ไม่ว่าอะไรท่าน ผมเป็นราษฎรเต็มขั้นไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เอาเป็นว่าเรื่องนี้ราษฎรผู้เสียภาษีสงสัยก็แล้วกันครับ” นายนิพิฏฐ์ระบุ
“ปิยบุตร” ถล่ม ครม.สืบทอดอำนาจ
ที่หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ครม.ชุดใหม่มีลักษณะ 3ข้อ คือ 1.การสืบทอดอำนาจ หลายคนรับตำแหน่งจากรัฐบาลชุดที่แล้ว บางคนนั่งติดเก้าอี้มายาวนานหลายปี 2.ย้อนยุคไป 41 ปีเหมือนย้อนไปสมัยรัฐธรรมนูญ ปี 2521 สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค แต่ศิลปะการบริหารของ พล.อ.เปรมประคับประคองรัฐบาลไปได้ ต้องดูว่า พล.อ.ประยุทธ์จะบริหารประเทศไปได้หรือไม่ 3.เป็นรัฐบาลที่มีคราบไคลของทหารยังครอบงำรัฐบาล อยู่ แม้มาจากการเลือกตั้ง โดยนำกลไกของ คสช.เข้าไปฝังอยู่ในรัฐธรรมนูญ
มีพรรค ส.ว.ลากยาวยื้ออายุรัฐบาล
นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า ไม่กล้าประเมินว่ารัฐบาลใหม่จะอายุสั้นหรือไม่ เพราะแม้จะมีเสียงปริ่มน้ำ ไม่น่าจะอยู่ได้นาน แต่มีความพยายามจะลากรัฐบาลไปเรื่อยๆให้นานที่สุด โดยมีพรรคส.ว.ช่วยสนับสนุน ไม่ใช่แค่โหวตเลือกนายกฯ แต่จะมีบทบาทออก พ.ร.บ.เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศด้วย อยากให้รีบแถลงนโยบายรัฐบาลโดยเร็ว ฝ่ายค้านจะได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ ไม่ตีรวน
“เสรีพิศุทธ์” เฉ่งยับ ครม.ไม่เข้าท่า
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ว่า กว่าที่จะได้มาก็ทะเลาะเบาะแว้ง แย่งชิงตำแหน่ง บางคนมีข่าวเคยถูกต้องโทษ พ้นออกจากราชการ บางคนมีข่าวคดีโกงกรุงไทย การที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศต้องใช้คนมีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ถ้าถามถึง ครม.ชุดนี้ขอบอกว่า “ไม่เข้าท่าเลย” เช่น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯบอกว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ที่เคยถูกศาลออสเตรเลียสั่งจำคุก แต่นายวิษณุบอกว่าไม่ขัดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามได้อย่างไร ฝ่าย ค้านจะหารือกันว่าจะทำอะไรได้บ้าง กกต.ที่รับรอง ร.อ.ธรรมนัสเป็น ส.ส.ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน รวมถึงยังมีเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง ถามว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ นี่คือเรื่องจริยธรรมที่จะแต่งตั้งใคร ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ
“เจ๊หน่อย” จี้แจงคนสังคมไม่รับเต็มครม.
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ซอยเพชรบุรี 21 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ย่านประตูน้ำ พบปะรับฟังปัญหาจากผู้ค้า โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนว่ายอดขายสินค้าตกลง 80% กำลังซื้อน้อยค่าเงินบาทแข็ง อีก 2 สัปดาห์พรรคจะจัดสัมมนาหาทางแก้ปัญหากลุ่มผู้ค้า พร้อมเสนอให้รัฐบาลนำไปใช้ประโยชน์ ส่วนหน้าตา ครม.ชุดใหม่นายกฯต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเหตุใดจึงตั้งรัฐมนตรีที่ไม่เป็นที่ยอมรับมาทำงาน และขอให้เข้าใจด้วยว่าระบอบประชาธิปไตยฝ่ายค้านและรัฐบาลจะต้องทำงานร่วมกัน ไม่ได้ติเพื่อล้มรัฐบาล แต่นำเสนอแนวทางให้นำไปใช้แก้ไขปัญหา หากนโยบายของเราดีสามารถลอกไปใช้ได้
“เรืองไกร” ยื่น กกต.สอบ 6 ส.ว.ถือหุ้นสื่อ
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงาน กกต.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบกรณี 6 ส.ว.ถือครองหุ้นสื่ออาจเข้าข่ายทำให้ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง ส.ว. ประกอบด้วย นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล นางศิรินา ปวโรฬารวิทยา นายสม จาตุศรีพิทักษ์ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และนายอนุมัติ อาหมัด คนเหล่านี้ถือครองหุ้นในบริษัทที่ระบุวัตถุประสงค์ประกอบกิจการ โรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย ออกหนังสือพิมพ์หรือบริการจัดเก็บรวบรวม จัดทำ จัดพิมพ์และเผยแพร่สถิติ ข้อมูลในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชย– กรรม การเงิน การตลาด รวมทั้งวิเคราะห์และประเมินผล ในการดำเนินธุรกิจ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องของ ส.ส. 32 คนถือหุ้นสื่อไว้วินิจฉัย รวมทั้งมีคำ พิพากษาศาลฎีกาตัดสิทธิ์นายคมสันต์ ศรีวนิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 อ่างทอง พรรคประชาชาติ จากเหตุถือหุ้นในลักษณะเดียวกันมาแล้ว จึงเห็นว่า กกต.ควรจะพิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
จี้ส่ง “นาที” ให้ศาล รธน.สั่งยุติหน้าที่
นายเรืองไกรกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังร้องขอให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งให้นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปียุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ช่วงที่ยื่นอุทธรณ์คดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพราะมีความเห็นแตกต่างกันทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯว่าจะยังปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ได้หรือไม่ แต่เห็นว่าสมาชิกภาพ ส.ส.นางนาทีสิ้นสุดลงแล้วเพราะต้องคำพิพากษา แม้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ แต่ในชั้นการพิจารณาของศาลนางนาทีให้การรับสารภาพ จึงควรต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
ไล่จิกแผล รมต.สอบ “วิษณุ–สมคิด”
นายเรืองไกร ยังกล่าวด้วยว่า หลังโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่แล้ว ได้ตรวจสอบรัฐมนตรีพบว่ามีหลายคนอาจมีปัญหาคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่ง เช่น นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ฯ มีปัญหาถือหุ้นสัมปทานรัฐ แต่อยู่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารวมอดีต รมต.อีก 3 คน อาจถือว่าพิจารณาล่าช้า เมื่อเทียบกับกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แต่หากศาลเห็นว่านายสุวิทย์มีความผิด ต้องเว้นวรรคการเมืองเป็นเวลา 2 ปี หรือกรณีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง มีคำพิพากษาศาลฎีกาคดีกรุงไทยจะตรวจสอบต่อ รวมถึงนายวิษณุ เครืองาม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯกำลังตรวจสอบว่าได้อยู่ร่วมใน ครม.ชุดนายทักษิณ ชินวัตร ออก พ.ร.ก.แปลงสัญญาสัมปทานโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต ที่มีผลลามถึงรัฐมนตรีถูกยึดทรัพย์ จะมีปัญหาด้วยหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตโดยประจักษ์ ต้องไม่ฝ่าฝืนจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรง
ถกนโยบายสะดุด ส.ส.ติดโหวตในสภา
ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำร่างนโยบายรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. ที่โรงแรมสุโกศล ถนนศรีอยุธยา ทีมงานร่างนโยบายรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำรัฐบาล อาทิ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้นัดหารือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค อย่างพรรคประชาธิปัตย์ มาพูดคุยถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของนโยบายแต่ละด้าน ก่อนสรุปกับพรรคร่วมรัฐบาลช่วงเย็น แต่ขณะที่แกนนำประชาธิปัตย์ นำโดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายธนา ชีรวินิจ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เดินทางมาถึงเวลา 11.30 น. ยังไม่ทันเข้าไปในโรงแรม ได้รับแจ้งว่าที่ประชุมสภาฯจะลงมติตั้งกรรมาธิการพิจารณายกร่างข้อบังคับการประชุม ทำให้ต้องรีบเดินทางไปที่สำนักงานทีโอทีเพื่อร่วมลงมติ ต้องเปลี่ยนไปหารือทีเดียวในเวลา 15.00 น. นายสนธิรัตน์เผยว่า การร่างนโยบายรัฐบาลจะพยายามทำให้เสร็จและให้เรียบร้อยภายวันที่ 12 ก.ค. เหลือแค่ฟังพรรคร่วมรัฐบาลว่ามีอะไรต้องแก้ไขก่อนส่งให้นายกฯพิจารณา สภาตั้ง กมธ.พิจารณาข้อบังคับการประชุม
ฝ่ายค้านจวก “ชวน” ไม่เป็นกลาง
ขณะที่เมื่อเวลา 11.30 น. ที่หอประชุมใหญ่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาลงมติร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ก่อนลงมติ ส.ส.ฝ่ายค้านพากันท้วงติงการทำหน้าที่ของนายชวนที่ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ทำให้ล่าช้ามาถึงการประชุมในวันที่ 11 ก.ค. โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตว่า หากตั้ง กมธ.ไม่ทันปีนี้ งบฯตั้ง กมธ.คณะละ 14 ล้านบาทจะเป็นงบฯเหลือจ่าย เป็นอำนาจของประธานสภาฯพิจารณาว่าจะนำไปใช้อย่างไร นายชวนจึงชี้แจงว่าไม่มีผลประโยชน์เรื่องงบประมาณ ตนมาจากการเลือกตั้งที่ไม่ซื้อเสียง ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ ทุกอย่างทำด้วยความปรารถนาดี ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ยืนยันทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง รู้สึกเสียดายที่มองเจตนาดีเป็นเรื่องผลประโยชน์ จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาด้วยคะแนน 242 เสียง ต่อ 232 งดออกเสียง 1 เสียง
“สนธิรัตน์” เร่งปั่นนโยบายส่งนายกฯ
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ชั้น 14 หอประชุมทีโอที นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล 19 พรรค หารือกำหนดนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา มีแกนนำพรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้รวบรวมนโยบายของพรรคต่างๆมาระยะหนึ่ง และจัดทำเป็นโครงร่างนโยบายเบื้องต้น นำเสนอให้ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา พยายามบรรจุนโยบายของพรรคต่างๆที่มีทิศทางเดียวกัน จะเร่งพิจารณาให้ได้โครงร่างนโยบายที่เห็นพ้องต้องกันนำเสนอให้นายกฯพิจารณาใช้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ข้อเสนอรื้อ รธน.ใน 1 ปี ต้องคุยอีกที
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันที่ 12 ก.ค.จะประชุมอีกครั้ง หากไม่มีฝ่ายใดติดใจ คาดว่าจะส่งให้นายกฯได้ทันที แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ 1.ระยะเร่งด่วน 1 ปี เช่น ปัญหาปากท้องสวัสดิการต่างๆและปัญหาเฉพาะหน้า 2.การดำเนินการในระยะเวลา 4 ปี ส่วนนโยบายแก้รัฐธรรมนูญภายใน 1 ปีของพรรคประชาธิปัตย์เราจะพูดคุยกันอีกครั้ง
คาดแถลงนโยบาย รบ.สิ้น ก.ค.
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯกล่าวว่า คาดว่ารัฐบาลจะแถลงนโยบายในสิ้นเดือน ก.ค.ใช้สถานที่หอประชุมใหญ่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพราะห้องประชุมจันทรา ที่รัฐสภาใหม่มีเพียง 350 ที่นั่ง เสริมให้ได้ 500 ที่นั่งชั่วคราวให้ประชุมสภาฯได้ ไม่เพียงพอกับการประชุมร่วมรัฐสภา 750 ที่นั่ง ส่วนนางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย สมาชิกภาพหมดไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ประกาศไปแล้วองค์ประชุมสภาฯเหลือเพียง 498 คน

“บิ๊กตู่” รับ รมว.กห.อาเซียนงดจ้อสื่อ
สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ได้เดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยเมื่อเวลา 08.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ได้นำรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน 10 ประเทศ และเลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสมาเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM) ครั้งที่ 13 ทั้งนี้ หลังการหารือ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรได้ลงมายืนส่งรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนพร้อมกันที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะไหว้ พล.อ.ประวิตร ที่ก้าวขึ้นรถเพื่อเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนครั้งที่ 13 ต่อไป จากนั้นนายกฯจึงกลับขึ้นไปทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า และช่วงบ่ายออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอก โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆต่อสื่อมวลชน