“จิรายุ” ส.ส.เพื่อไทย ตั้งกระทู้สดในที่ประชุมสภา กรณี “จ่านิว” ถูกทำร้าย ด้าน รมช.กลาโหม เป็นตัวแทน “บิ๊กป้อม” แจง เร่งรัดดำเนินการอยู่ตลอด หวังคดีกระจ่างไร้ข้อกังขาในเร็ววัน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 8 โดยที่ประชุมจะมีการพิจารณาญัตติด่วน 16 เรื่อง และญัตติที่เสนอใหม่ 5 เรื่อง โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ก่อนที่จะเข้าสู่ญัตติ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดโอกาสให้ ส.ส. 86 คน อภิปรายในประเด็นต่างๆ ในพื้นที่ของตนเอง

กระทั่งเวลา 16.30 น. จึงได้เริ่มการตอบกระทู้สดซึ่งมีรัฐมนตรีเป็นผู้ตอบคำถามจาก ส.ส. โดยหนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว โดยทำร้าย โดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มาตอบแทน

นายจิรายุ อภิปรายว่า พล.อ.ประวิตร มีบ้านอยู่ในเขตคลองสามวา ไม่ห่างจากบ้านจ่านิว แต่กลับยังหาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ อีกทั้งนักเคลื่อนไหวก็ถูกทำร้ายหลายคน มองว่าเป็นเรื่องสำคัญระดับชาติ การกระทำนี้เลวร้ายกว่ายุค 2499 อันธพาลครองเมือง และเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ปากซอยบ้านบ้านของตนด้วย จึงถาม พล.อ.ชัยชาญ เรื่องการดูแลความปลอดภัยบ้านจ่านิว ว่าจะให้การดูแลอย่างไร โดยในขณะนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานสภา บอกให้ นายจิรายุ ระวังตัวด้วยความเป็นห่วง และบอกว่าไม่ใช่การขู่อย่างที่ นายจิรายุ เข้าใจ

ต่อมา พล.อ.ชัยชาญ ตอบว่า เรื่องการสร้างความรุนแรง รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงระบุว่าต้องไม่เกิดกับใครเป็นอันขาด และเรื่องของจ่านิว พล.อ.ประวิตร ก็มีความห่วงใยสั่งการเร่งรัดดูแลและจับกุมคนร้ายโดยไว พร้อมสั่งการเพิ่มเติมตำรวจท้องที่ สายตรวจ สน.บางชัน เข้าไปดูแล รวมถึงบ้านนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองคนอื่นๆ ด้วย ซึ่งหากนักกิจกรรมคนใกรู้สึกไม่ปลอดภัยก็สามารถขอการคุ้มครองสิทธิ์ได้

...

จากนั้น นายจิรายุ ถามต่อว่าจะให้กำลังใจประชาชนอย่างไร สั่งการหน่วยงานความมั่นคงอย่างไร และสั่งการตำรวจอย่างไร พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนว่าเกิดจากสาเหตุใด ไม่อยากให้ด่วนตัดสิน ตอนนี้สอบพยานไปแล้ว 8 ปาก สืบประจักษ์พยานอีก 3 ปาก รวมถึงตรวจสอบเส้นทางคนร้ายจากกล้องวงจรเพื่อกำหนดอัตลักษณ์บุคคล ยืนยันว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ถ้าจะให้กำหนดเวลาในระยะสั้นอาจจะทำให้ความไม่รอบคอบเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้ให้ตำรวจแจ้งประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง และจะให้ความเป็นธรรม คดีต้องกระจ่างให้ทุกคนเลิกกังขาในเวลาอันใกล้นี้.