“เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล แง้ม 2-3 วันได้เห็นหน้ารัฐบาลใหม่ เผย พรรคเช็กรายบุคคล รัฐมนตรีคนไหนต้องลาออกจาก ส.ส. เชื่อ ปัญหาภายในสงบแล้ว ทุกคนพร้อมฟังคำบัญชา “บิ๊กตู่”
วันที่ 3 ก.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ / นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. ร่วมกัน เปิดหลักสูตรอบรมคนรุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อ Palungpracharat Internship Program หรือ PiP 1 โดยนายณัฏฐพล กล่าวว่า หลักสูตรนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เป็นการส่งเสริมประสบการณ์ให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยโครงการรุ่นที่ 1 ถือว่ามีโอกาสดีกว่าคนอื่น เพราะจะได้เห็นรุ่นพี่ที่เข้าไปทำงานในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เกษตร การท่องเที่ยว พลังงาน และการศึกษา ซึ่งตอนนี้พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าตอนนี้จะยังจัดตั้งรัฐบาลไม่เสร็จ แต่อีก 2-3 วัน น่าจะตั้งได้ หวังว่าทุกคนจะได้เห็นว่าประเทศไทยจะขับเคลื่อนเดินไปข้างหน้าอย่างไร
ด้านพุทธิพงษ์ กล่าวว่า แม้ว่าโครงการนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง แต่ก็จะเป็นเวทีที่ทำให้ทุกคนได้ต่อยอดการทำงานของตัวเองไปในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้ว่าพรรคพลังประชารัฐเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าได้มามีบทบาททางการเมือง มีหลายคนได้เป็น ส.ส. โครงการนี้ไม่มีใครเซ็นสัญญาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้บังคับให้พรรคนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ส่วนในอนาคตจะเลือกพรรคการเมืองไหน เราเชื่อในคุณสมบัติ และคุณภาพของทุกคน ว่าจะสามารถนำพาประเทศเดินหน้าไปได้ในอนาคต
ต่อมานายณัฏฐพล ให้สัมภาษณ์ให้ภายหลังว่า เหตุการณ์เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้เห็นความสงบเกิดขึ้นแล้ว ทั้งในพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ เพื่อเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป โดยส่วนตัว คิดว่าอีก 2-3 วันการตั้งรัฐบาลจะเรียบร้อย
...
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากภายหลังโปรดเกล้าฯ แล้วตำแหน่งไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันจะเกิดความวุ่นวายอีก นายณัฏฐพล บอกว่า จากเมื่อวานที่หลายฝ่ายออกมาแสดงจุดยืน ทำให้เห็นว่า ทุกคนเห็นประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ซึ่งคงรับในการตัดสินใจของนายกฯ และมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีจะนำพาบริหารประเทศในแนวทางที่เหมาะสมได้
นายณัฏฐพล ยังเชื่อมั่นว่า เหตุการณ์ขณะนี้ ไม่ได้เป็นความสงบชั่วคราว เพราะในการประชุม ส.ส. เมื่อวานนี้ได้เปิดให้แสดงความเห็น และปรับการทำงานในบางส่วน โดยทางกรรมการบริหารพรรค ก็มานั่งวิเคราะห์ว่าอะไรสามารถปรับปรุงได้ ซึ่งมีหลายอย่างที่สามารถทำให้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคที่มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า นายณัฏฐพลจะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ก็ยืนยันว่า ไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้ และเป็นการคาดเดาของสื่อมวลชน ส่วนตัวในฐานะกรรมการบริหารพรรคก็มีหน้าที่รับฟังและแก้ปัญหาเรื่องภายในพรรคอยู่แล้ว
นายณัฏฐพล ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐต้องลาออกจาก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่พรรคได้มีการหารือกันมาระยะหนึ่ง และอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด เพราะการทำงานในสภาก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ต้องดูว่าใครสามารถบริหารเวลาในการทำหน้าที่ได้ทั้ง 2 ส่วน ซึ่งยอมรับว่า ใครที่จะต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไป