ปมร้าวพรรคร่วมรัฐบาล จากความไม่ลงรอย กรณีกลุ่มสามมิตรออกมาประกาศขับไล่แม่บ้านพรรค อย่าง "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกจากตำแหน่งและเตรียมพร้อมขับไล่ออกจากพรรค หากยังขืนแทรกแซงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตรจองเข้ามาดูแล

และสำหรับกระแสข่าวที่ออกมา เชื่อมโยงความแตกร้าวรุนแรงถึงขั้นที่ว่า "นายอนุชา นาคาศัย" แกนนำกลุ่มสามมิตร ออกมาประกาศกร้าวจะก้มลงกราบเท้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อ้อนวอนคืนเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ เขต 2 เพชรบูรณ์ เปิดข้อมูลถึงเรื่องดังกล่าวว่า "วันก่อนน้ำเสียงของกลุ่มสามมิตรแข็งกร้าว ยืนยันถ้าไม่ได้ตามข้อตกลงจะขอแยกทางกับพลังประชารัฐ แต่เมื่อวานช่วงแถลงข่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีน้ำเสียงที่เปลี่ยนเป็นอ่อนลง พร้อมยืนยันไม่เรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ ทุกอย่างให้ขึ้นอยู่กับพลเอกประยุทธ์ และยกเลิกการออกมาขับไล่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ 

...

นางสาวตรีชฎา บอกด้วยว่า ที่ผ่านมา กลุ่มสามมิตรเป็นกลุ่มเบิกฤกษ์ให้พลเอกประยุทธ์ เดินหน้าเริ่มต้นพรรคพลังประชารัฐ กระทั่งมีพรรคพลังประชารัฐชิงจัดตั้งรัฐบาล คนอื่นๆ กลับได้รับตำแหน่งแห่งหน้าเกินหน้า โดยเฉพาะกลุ่มพรรคร่วมอย่างพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา และพรรคอื่นๆ กลับได้กระทรวงดีๆ การออกมาเรียกร้องของกลุ่มสามมิตรวันนี้กลายเป็นการทวงบุญคุณที่ถูกกระแสตีกลับเจ็บตัวกันระนาว

"การออกโรงของกลุ่มสามมิตร และการไม่สมประสงค์ในครั้งนี้ จะเป็นชนวนแตกร้าวภายในพรรคพลังประชารัฐที่รอวันปะทุ ขณะที่ความเป็นจริง ตัวนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในวันแถลงข่าวร่วมกับนายสุริยะและนายสมศักดิ์ แทนที่จะถือโอกาสแถลงเรื่องของตัวเองเพื่อให้เคลียร์และคลีน กลับทำหน้าที่เคลียร์รอยร้าวของสามมิตรเท่านั้น เรียกว่าใช้โอกาสไม่เป็น เพราะสังคมยิ่งเห็นรอยร้าวของการแย่งผลประโยชน์อยู่นั่นเอง" 

นางสาวตรีชฎา ทิ้งท้ายว่า หน้าตาของโผคณะรัฐมนตรีที่เต็มไปด้วยหน้าตาของคณะรัฐมนตรีหน้าเดิมของ คสช. มีแนวร่วมเป็นทีมจากชุดเดิมจากประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทย ซึ่งเคยทำหน้าที่บริหารประเทศมาก่อนหน้านี้ ซึ่งประชาชนคงจำได้ดีว่าเศรษฐกิจในยุคนั้นเป็นอย่างไร แก้ปัญหาให้กับประชาชนได้มั้ย ท้ายที่สุดบรรดารัฐมนตรีของรัฐบาลชุดลุงตู่ 2 ก็น่าจะเป็นของหวานให้ฝ่ายค้านได้ตั้งเป้าตรวจสอบด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ดุเด็ดเผ็ดมัน

"อย่าลืมว่าอดีตในยุคของ คสช.ไม่มีฝ่ายค้าน แต่ยุคนี้ฝ่ายค้านแต่ละคนล้วนถูกลับคมลับฝีมือและมีข้อมูลเตรียมสับอย่างเต็มที่ รอยร้าวภายในของพลังประชารัฐและรอยร้าวในใจของสมาชิกพรรค ท่ามกลางคะแนนปริ่มน้ำแบบนี้ ลุงตู่ก็อาจจะเอาไม่อยู่ เพราะยิ่งครบ 100 วันในการจัดตั้งรัฐบาลอาการจะหนักยากเยียวยา".