“ราเมศ” เผย สู้ 8 ปม หักล้างคดีส.ส.ปชป.ถือหุ้นสื่อ ยันไม่มีใคร ดำเนินกิจการสื่อสารมวลชน มั่นใจ ไร้ ส.ส.ปชป.เข้าข่ายคุณสมบัติต้องห้าม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 2562 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะทนายความผู้รับผิดชอบคดี เปิดเผยความคืบหน้า ถึงการเตรียมต่อสู้คดีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ถือหุ้นสื่อ อาจเข้าข่ายขัดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.หรือไม่ ว่า ได้ขอให้ ส.ส.เข้ามาให้ข้อมูลเพื่อเตรียมคดีวันละ 2 คน ซึ่งโดยส่วนใหญ่เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว โดยในช่วงเช้าของวันที่ 2 ก.ค.นี้ ตนจะเรียกประชุมทีมทนายความที่ดูแลคดีนี้ทั้งหมด
ทั้งนี้ การเตรียมข้อต่อสู้ในคดีมี 7-8 ประเด็น อาทิ หลักเรื่องคุณสมบัติรัฐธรรมนูญมาตรา 98 วงเล็บ 3 เกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อ หรือข้อความเรื่องวัตถุประสงค์ที่เขียนไว้ว่า กิจการทำสื่อสารมวลชนจริงหรือไม่ และบริษัทที่เปิดทำกิจการสื่อมวลชนจริงรือไม่ รวมถึงประเด็นการเตรียมหลักฐานราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อยืนยันว่า ส.ส.ของพรรคที่ถูกร้องทั้ง 7 คน ไม่ได้ดำเนินกิจการสื่อสารมวลชน รวมทั้งกรณีที่มารายได้และการเสียภาษี การแสดงบัญชีงบดุลต่างๆ ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ประกอบการเพื่อยืนยันว่า ไม่ได้ทำกิจการเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน ซึ่งรวมถึงภาพถ่ายกิจการหลักฐานต่างๆ ตลอดที่ผ่านมา ตนย้ำว่า พรรคจะต่อสู้ตามหลักฐาน โดยใช้รายละเอียดข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายให้มากที่สุด
เมื่อถามว่า บรรทัดฐานของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ที่เคยวินิจฉัยตัดสิทธิ์ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.บางคนไปแล้ว จากกรณีระบุวัตถุประสงค์ให้บริษัทประกอบกิจการสื่อได้ นายราเมศ กล่าวว่า ในการต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกา ไม่อาจทราบได้ถึงวิธีการต่อสู้คดีและรายละเอียดการพิจารณาคดี แต่การสู้คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญเป็นการตั้งต้นใหม่ทั้งหมด โดยใช้ระบบไต่สวน ซึ่งวางหลักการไว้ว่า ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนจะต้องไม่ได้ทำกิจการสื่อสารมวลชนจริง เช่น การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ หรือสื่ออื่นๆ โดยย้ำถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ระบุการถือหุ้นสื่อเป็นคุณสมบัติต้องห้ามของส.ส. เพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง แต่สุดท้าย ส่วนตัวเชื่อว่า ประเด็นทั้งหมดที่ตั้งเตรียมไว้จะเป็นข้อต่อสู้ในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อยืนยันว่า ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มีพฤติกรรมเข้าองค์ประกอบคุณสมบัติต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 วงเล็บ 3 กำหนด
...