บิ๊กโจ๊ก ยอมรับว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี จึงเดินสายตระเวนไหว้พระขอพรไม่มีทำพิธีกรรมใดๆ ส่วนตำแหน่ง อนุกรรมการ ก.ตร.เป็นรายชื่อตอนคณะกรรมการชุดเดิม ยันไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใดพร้อมทำงานเพื่อบ้านเมือง
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนยังเป็นคณะอนุกรรมการ กตร.เป็นชุดทำงานชุดเดิมเพียงแต่เปลี่ยนประธานเพราะเกษียณอายุราชการ ยอมรับว่าช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี จึงเดินสายตระเวนไหว้พระขอพรไม่มีการทำพิธีกรรมใดๆ หลังจากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ก.ตร. โดยมีการเสนอชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล เป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดดังกล่าว เพื่อพิจารณาข้อกฎหมาย โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกว่า คำสั่งที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้ เป็นการแต่งตั้งในคณะทำงานชุดเดิม ซึ่งประธานคณะมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเกษียณอายุราชการ จึงต้องมีการลงนามคำสั่งใหม่อีกครั้งไม่ใช่การแต่งตั้งตำแหน่งใหม่
ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่าไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ตนพร้อมที่จะทำงานเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล ส่วนกรณีที่มีสื่อมวลชนจำนวนไม่น้อยพบว่า ชอบตระเวนเดินสายไหว้พระ ส่วนตัวนั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง เพราะผมเป็นชาวพุทธ นับถือในพระพุทธศาสนา ที่ผ่านมาก็มีโอกาสเดินสายทำบุญเช่นนี้มาตลอด เพียงแต่ช่วงก่อนหน้านี้ภาระงานค่อนข้างหนักหน่วง จึงทำให้เวลาในการตระเวนไหว้พระมีน้อยแต่หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการพลเรือน ไม่ได้ออกไปปราบปรามปัญหาอาชญากรรมเหมือนที่ผ่านมา จึงพอมีเวลามากขึ้นในการปฏิบัติธรรม
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนและภรรยา ออกเดินสายไหว้พระเพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นภาคอีสานภาคใต้ หรือแม้แต่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีโอกาสเข้าไปกราบสักการะพระแก้วมรกตในพระบรมมหาราชวัง ด้วยหัวใจเลื่อมใสศรัทธา เหมือนเช่นประชาชนคนหนึ่ง ที่พอมีโอกาสก็ไม่พลาดที่จะได้ไปกราบขอพรสักครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่คิดจะประกอบพิธีกรรมใหญ่โต ประกอบกับช่วงนี้ทั้งคุณพ่อ และคุณแม่ สุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง โดยเฉพาะคุณแม่หกล้ม ต้องพักฟื้นอยู่เป็นสัปดาห์ จึงคิดว่า น่าจะหาโอกาสที่เหมาะสมไปไหว้พระขอพรเพื่อให้คุณแม่หายป่วย
...
ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ผมยืนยันได้เลยว่าการทำงานในช่วงนี้ก็เป็นเหมือนข้าราชการคนหนึ่ง เมื่อได้รับมอบหมายภารกิจก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ และมุ่งหวังว่างานที่ทำจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งจะยืนหยัดทำหน้าที่ เป็นข้าราชการเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน.