ส.ส.หญิงพลังประชารัฐ ตบเท้าติวเป็นนักการเมืองหญิงแถวหน้า สู่การเปลี่ยนแปลง เดินหน้าทำการเมืองสร้างสรรค์ร่วมกับทุกพรรค ชี้หญิงชายเท่าเทียม วัดกันที่ผลงานในสภา
วันที่ 23 มิ.ย. 2562 ที่สถาบันพระปกเกล้า น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. เขตบางซื่อ-ดุสิต และประธานคณะกรรมการด้านนโยบายสตรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.หญิงของพรรครวม 7 คน ประกอบด้วย นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ และ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ “นักการเมืองหญิงผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ สถาบันพระปกเกล้า และ International Republican Institute (IRI) เพื่อเสริมพลังให้ ส.ส. สตรีรุ่นใหม่ ได้พัฒนาและแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างมืออาชีพ
น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า ตนเองสนใจและนำเสนอประเด็นความปลอดภัยสตรี จึงได้มีโอกาสร่วมปรึกษาหารือและทำงานกับองค์กรภาครัฐและประชาสังคมด้านสตรีมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือ สร้างเครือข่ายระหว่าง ส.ส.สตรีรุ่นใหม่ และภาคประชาสังคมต่างๆ เพื่อผลักดันนโยบายและกฎหมายที่จะช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาผู้หญิงไปข้างหน้า โดยเฉพาะการให้องค์ความรู้ สร้างความเข้าถึง เข้าใจ เพื่อที่ผู้หญิงทุกคนจะดูแลตนเองและได้รับการดูแลจากภาครัฐได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย

...
ทั้งนี้ ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่ได้ ส.ส.หญิงเข้าสู่สภามากที่สุด จำนวน 23 คน รวมถึงให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสตรี มีคณะทำงานรับผิดชอบโดยตรง ซึ่งตนเองนั่งเป็นประธานอยู่ จึงขอยืนยันว่า จะเป็นแกนนำในการทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ร่วมมือกับ ส.ส.สตรีจากพรรคอื่นๆ สร้างความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ด้านนโยบายเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนเตรียมความพร้อมสำหรับบทบาทของการมีส่วนร่วมในฐานะ ส.ส.สตรี ที่จะยืนหยัดเป็นผู้นำขับเคลื่อนพัฒนาสังคมส่งต่อสู่รุ่นต่อไป
ทางด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า สังคมปัจจุบันเปิดกว้างทางความคิด เรื่องเพศไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้ามาทำงานด้านการเมือง เพราะสุดท้ายวัดกันที่ผลของงานมากกว่าจะมาตัดสินเรื่องเพศ ส่วนตัวตั้งใจเข้ามาทำงานการเมือง เพื่อเปลี่ยนแปลงและแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศ ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง และปัญหาปากท้องประชาชน นำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า
นอกจากนี้ อยากให้ผู้หญิงวางตัวให้ดี แม้จะเป็นพฤติกรรมเดียวกันกับผู้ชาย แต่ผู้หญิงจะถูกตำหนิมากกว่า เพราะถูกคาดหวังจากสังคม ดังนั้นการทำหน้าที่ในสภาของผู้หญิงก็อาจจำเป็นต้องคำถึงจุดนี้ ที่สำคัญการแสดงออกต้องน่านับถือ ต้องแข่งกันทำงานเพื่อประชาชน.