ในห้วงรอยต่อรัฐบาล คสช.กับรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน ปี 2562ต้องเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอาเซียน
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงชะลอคันเร่งการจัดตั้ง ครม.ของรัฐบาล “ประยุทธ์ 2” ไว้หนึ่งขยักในช่วงตรวจคุณสมบัติ รัฐมนตรีที่แต่ละพรรคเสนอมา เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์
ปล่อยให้รัฐบาล คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. รับผิดชอบการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนให้เสร็จสรรพ แบบม้วนเดียวจบ
ตามฤกษ์งามยามดี วันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน เป็นเจ้าภาพจัดประชุม “สุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34” ที่โรงแรม ดิ แอทธินี ถนนวิทยุ
โดยมีผู้นำประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม มาเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ นายกฯประยุทธ์ในฐานะผู้นำรัฐบาลไทย รับหน้าที่เป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียนแบบเต็มคณะช่วงเย็นวันที่ 22 มิ.ย. และมีพิธีเปิดประชุมสุดยอดอาเซียน เช้าวันที่ 23 มิ.ย.
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดประชุมภายใต้แนวคิดหลัก คือ ความร่วมมือ ความยั่งยืน นำมาสู่เป้าหมายการประชุม “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล อย่างยั่งยืน”
เพื่อเป็นการวางรากฐานให้ในอีกครึ่งศตวรรษ หรือ 50 ปีข้างหน้าให้กับประชาชนกลุ่มอาเซียน ได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีความมั่นคง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความเป็นมนุษย์ อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ผู้นำทั้ง 10 ประเทศ ต้องให้การรับรองเอกสารสำคัญ 17 ฉบับ โดยในจำนวนนี้จะมี 4 ฉบับ ที่มีความสำคัญระดับสูงสุด คือ
1.วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน เป็นการแปลวิสัยทัศน์ของไทยในฐานะประธานอาเซียน ในแง่ความมั่นคงอย่างยั่งยืน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
...
แบบที่นายกฯประยุทธ์พูดอยู่บ่อยๆในทุกเวทีนั่นแหละโยม!!!
2.การตั้งเครือข่ายสมาคมอาเซียน สร้างการรับรู้และคุณประโยชน์ภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน
3.ปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ปัญหาขยะทางทะเล ที่กลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศไทย มีชื่อติดอันดับ 6 ประเทศที่ปล่อยขยะลงทะเลจำนวนมากในโลก ต้องร่วมกันปฏิบัติการ เพื่อจะลบชื่อออกจากลิสต์นั้นให้ได้
4.แนวคิดอาเซียน เกี่ยวกับ “อินโด-แปซิฟิก” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
รวมทั้งจะมีการเปิดตัวศูนย์ DEALSA ที่เป็นคลังเก็บสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติของอาเซียนในประเทศไทย ที่ จ.ชัยนาท และศูนย์การแพทย์ทหารอาเซียน ที่กรมการแพทย์ทหารบก
แน่นอน การที่ไทยเป็นประธานอาเซียน และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นอกจากการประสานประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคอาเซียนแล้ว ยังเป็นเกียรติภูมิหน้าตาของประเทศ
ดังนั้น คนไทยทุกคนถือว่ามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกต่างประเทศ ทั้งระดับผู้นำ เจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม ด้วยอัธยาศัยไมตรี และรอยยิ้มสยาม
ช่วยกันลบฝันร้ายม็อบบุกล้มการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่พัทยา เมื่อ 10 ปีที่แล้วกันหน่อยนะโยม!!!
“พ่อลูกอิน”