สดๆ ร้อนๆ กับผลโพลคนผิดหวังกับพรรคประชาธิปัตย์ ในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ จนดูเหมือนว่าอุดมการณ์เดิมๆ ของพรรคจะหายไป
- การตัดสินใจครั้งล่าสุดของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจาก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่เห็นด้วยในการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หลังลาออกจากหัวหน้าพรรค เพราะจำนวนที่นั่ง ส.ส.ได้ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง
- วิกฤติที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงความแตกแยกในพรรค อาจถึงคราวอวสาน และสูญพันธุ์หรือไม่? ในอนาคต
จากประเด็นเหล่านี้อาจจะฉายภาพในอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ได้ชัดเจนมากขึ้นในหลายๆ มุมมอง โดย “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” พูดคุยกับ "รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย" รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- พรรคประชาธิปัตย์ จะสูญพันธุ์อย่างสิ้นเชิงคงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากแต่ละพื้นที่ยังเป็นฐานเสียงของพรรค เช่น จ.ตรัง เป็นพื้นที่ของ ชวน หลีกภัย แม้การเลือกตั้งครั้งนี้โดนพรรคพลังประชารัฐ เจาะไข่แดงไปก็ตาม หรือ จ.พังงา เป็นของจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และอีกหลายๆ พื้นที่ ซึ่งมีบิ๊กเนมของพรรค ยกเว้นไอคอนของพรรค คือ ชวน หลีกภัย จะประกาศวางมือ อาจทำให้ประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ได้
- ที่นั่ง ส.ส.ใน กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ล้มเหลวอย่างหนัก ดังนั้นพื้นที่ กทม. มีโอกาสสูงที่ประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ยาว เนื่องจากคนมีทางเลือกจากพรรคการเมืองมากมาย และคนกทม. มีนิสัยเบื่อง่าย จึงเป็นพื้นที่สวิงโหวต ไม่แปลกที่ประชาธิปัตย์เสียที่นั่งให้กับพรรคอนาคตใหม่
- ที่นั่ง ส.ส.ทั้งประเทศของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้ฐานเสียงเฉพาะพื้นที่ ดังนั้นในอนาคตการจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นจาก 53 ที่นั่ง คงยากมาก หรือแม้มีการแก้รัฐธรรมนูญ แก้ระบบเลือกตั้งก็ตาม แต่ไม่มั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่ง ส.ส.จำนวนมาก เหมือนในอดีต
- กรณีมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป หากที่นั่ง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ต่ำกว่า 30 ที่นั่ง ถือว่าวิกฤติ แม้ไม่สูญพันธุ์ก็เกือบเหมือนสูญพันธุ์ หากย้อนไปในปี 2529 กลุ่ม 10 มกราในพรรคถอนตัวจากรัฐบาล ซึ่งกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะฟื้นวิกฤติความเชื่อมั่นกลับมา ต้องใช้เวลากว่า 10 ปี มองว่าท้ายสุด ชวน หลีกภัย ต้องเข้ามาแก้ไขอีก หรืออาจไม่เข้ามากอบกู้ก็เป็นไปได้
- เมื่อกลุ่มนิวเดม ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นคนในพรรคจะเหลือเพียงคนวัยกลางคนและผู้อาวุโส ซึ่งจะโรยราตามวัย ในประเด็นนี้เป็นสิ่งน่าคิดว่าใครจะมาสานต่อพรรคประชาธิปัตย์ในอนาคต
- ปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์ยังคงดำเนินงานทางการเมืองแบบล้าหลัง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเคยเป็นพรรคการเมืองที่ดำเนินการทางการเมืองได้ดีเยี่ยม แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่เคยปรับเปลี่ยนบุคลากร ยังดำเนินการเมืองแบบเก่าๆ เดิมๆ ท้ายสุดคนรุ่นใหม่ในท้องถิ่นจะขยับไปพรรคอื่น
- ส่วนอนาคตของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะหมดเวลาในการเป็นหัวหน้าพรรคอีกต่อไป เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างเกินเยียวยา แม้ล่าสุดได้ประกาศลาออกจาก ส.ส. แต่พบว่ามีทั้งเสียงชื่นชมและด่าพอๆ กัน แสดงให้เห็นว่าการลาออกไม่ได้ทำให้คนหยุดวิจารณ์ คาดว่าอภิสิทธิ์ จะรอดูสถานการณ์สักระยะ อาจตัดสินใจวางมือทางการเมือง
- ประเด็นอนาคตทางการเมืองของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจไปเป็นที่ปรึกษาพรรคของกลุ่มนิวเดม ซึ่งในอนาคตอาจมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่การวางมือทางการเมืองของอภิสิทธิ์ ดูจะสวยงามมากกว่า
...
รศ.ดร.ยุทธพร ทิ้งท้ายในประเด็นร้อนกับการล้มดีลเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ โดยมองว่าท้ายสุดแล้วทั้งพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย จะสามารถต่อรองได้ลงตัว ส่วนพรรคเล็กๆ จะเกิดโดมิโนทางการเมืองมีการเลียนแบบ เคลื่อนไหวต่อรองตำแหน่งเช่นกัน เพราะเกิดจากรัฐธรรมนูญ ทำให้โครงสร้างในรัฐสภาบิดเบี้ยว พร้อมแสดงความเป็นห่วงพรรคการเมืองในไทย พบว่ามีจำนวนไม่น้อยทำการเมืองแบบล้าหลัง
"มีการต่อรองโควตาผูกติดกับระดับแกนนำของพรรค โดยเฉพาะพรรคขนาดกลางเห็นได้ชัดมาก เพราะการตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่สมาชิกพรรค หรือเชื่อมโยงเจตจำนงของประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าในอนาคต จะเกิดพรรคการเมืองใหม่ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย เพื่อทำการเมืองเหมือนๆ กับพรรคอนาคตใหม่ โดยใช้การตลาดนำ".