ธนาธร ยัน หากไม่มี 250 ส.ว.โหวตนายกฯ ทุกพรรคการเมืองจะมีอิสระ เชื่อ ผลลัพธ์ไม่มีทางออกมาแบบนี้ ย้ำรัฐบาลบริหารงานยากแน่ จากนี้พร้อมเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ยินดีเพื่อไทยไม่ว่าจะส่งใครเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
วันที่ 8 มิ.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงทิศทางการทำงานในฐานะฝ่ายค้าน โดยยืนยันว่า จะร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็ง ตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาล และให้เกียรติพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งฝ่ายค้าน มองว่า การส่ง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน มีความเหมาะสมดี อีกทั้งพรรคเพื่อไทย ยังได้คะแนนสูงสุด ทางพรรคอนาคตใหม่ ไม่ติดขัด เพราะตัวมองว่า การทำงานของฝ่ายค้านเป็นการทำงานร่วมกัน และพรรคได้เตรียมไว้หลายประเด็น ที่พร้อมผลักดันเป็นญัตติ และบางนโยบายผลักดันให้เป็นกฎหมาย
ส่วนกรณีที่เคยออกมาระบุว่า คะแนนถูกปล้นไปนั้น นายธนาธร กล่าวว่า หลายคนยังเข้าใจผิด ซึ่งตัวเองเข้าใจถึงแม้ไม่มีเสียงจากฝั่ง ส.ว. 250 คะแนน ก็ไม่อาจเอาชนะพรรคพลังประชารัฐได้ แต่ความหมายที่แท้จริง คือ ทุกอย่างมันผิดไปจากหลักการเดิมไปหมด ซึ่งผลลัพธ์จะไม่ออกมาแบบนี้ หากรัฐธรรมนูญที่ถูกเขียนโดย คสช. ไม่เอื้อประโยชน์แบบนี้ ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ว่า หากมองในความเป็นจริง อย่างไรฝั่งที่ต่อต้าน คสช. ก็ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งการที่ทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ตัวเองมองว่า ทุกพรรคการเมืองเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ มีเสียงส.ว. 250 เสียงอยู่แล้ว ทำให้เห็นว่า ทุกอย่างได้ถูกบิดเบือนการตัดสินใจ รวมถึงความชอบธรรมของ ส.ว. 250 เสียง ไม่ควรมีสิทธิออกเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี หากสภาวะปกติตัวเองจะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ต้องประเมินอีกครั้ง โดยยืนยันว่า ฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลได้ต้องเป็นฝ่ายที่ต่อต้านอำนาจ คสช. แน่นอน ส่วนใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมาพูดคุยหารือกันอีกครั้ง
...
สำหรับความคาดหวังในรัฐบาลชุดใหม่นั้น นายธนาธร กล่าวว่า การบริหารงานจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทุกขั้นตอนการโหวตนโยบายหรือผ่านกฎหมายต่างๆ ให้ผ่านนั้น จะเป็นไปได้ยาก ด้วยเสียงที่ห่างกันเพียง 4-5 เสียง จะต้องมีการซื้อเสียง เกิดขึ้นอย่างแน่นอน "งูเห่า" จะเกิดขึ้นตลอด
ส่วนกรณีที่ผู้สนับสนุนและแฟนคลับของพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงฝั่ง 7 พรรคการเมืองโจมตีฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล นายธนาธร มองว่า อาจเกิดจากอารมณ์ความไม่พอใจ ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นใจเสียงที่เลือกไปไม่ได้รับการตอบสนอง การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจไม่ใช่สิ่งที่คาดหวัง และก่อนหน้าวันโหวตนายกฯ มีหลายฝ่ายออกมายืนยันให้มั่นใจ และเชื่อมั่นในเสียง ส.ว. ที่มีอิสระในการตัดสินใจ แต่ 249 เสียง โหวตไปในทิศทางเดียวกัน ชัดเจนว่า ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจ
สำหรับประเด็นเรื่องการถือครองหุ้น ที่ศาลรัฐธรรมนูญ กำลังพิจารณาอยู่นั้น ตัวเองขอยืนยัน และจะเดินหน้าให้มีการตรวจสอบ ส.ส. อีก 40 คน ของพรรคพลังประชารัฐด้วย เพราะหากพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว ต้องมีความผิด และหยุดปฏิบัติหน้าที่แบบที่ตัวเองโดนกระทำอยู่ พร้อมขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันตรวจสอบและติดตามในเรื่องนี้ เพื่อพิสูจน์ความโปร่งใสในการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ
"ส่วนเรื่อง "งูเห่า" ภายในพรรค สมาชิกพรรคของตัวเองพยายามที่จะหลีกเลี่ยงในการพาดพิงชื่อพรรคหรือตัวบุคคล แต่เชื่อว่า หลายคนรับทราบดีอยู่แล้ว และกรณีการจัดเก้าอี้ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังไม่ลงตัวนั้น ส่วนตัวไม่ขอตอบเพราะเป็นเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐ" นายธนาธร กล่าว...
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างไร ภายใต้ข้อจำกัดตามรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ในทุกวันนี้ นายธนาธร กล่าวว่า ทุกอย่างต้องผลักดันไปเป็นขั้นเป็นตอน ผ่านกลไกของรัฐสภาที่มีอยู่ เพราะตัวเองเชื่อมั่นว่า การตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา เป็นวิถีทางที่สันติที่สุดในการต่อสู้ เชื่อมั่น ในกระบวนการเปลี่ยนผ่านโดยกลไกของรัฐสภา ที่สามารถเปลี่ยนผ่านได้อย่างสันติที่สุด หากไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผ่านกระบวนการรัฐสภา เท่ากับว่า ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงโดยสันติ