รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ เชื่อ รัฐบาลใหม่อยู่ยาวแม้เสียงปริ่มน้ำหาก กองทัพหนุน ระบุ 5 ปี คสช. สร้างเครือข่ายอำนาจทุกองค์กร ลั่น บางกอกสปริงเท่านั้นประชาธิปไตยเต็มใบจึงจะกลับมา
วันที่ 7 มิ.ย. 2562 ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงกรณีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลชุดนี้จะบริหารประเทศได้ไม่นาน เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากหลายพรรคการเมืองและมีเสียงปริ่มน้ำนั้น ส่วนตัวมองว่า ตราบใดที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความขัดแย้ง และยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ก็ย่อมจะเป็นหลักประกันความปลอดภัยของรัฐบาลได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นมาตลอด และในอนาคตหากมีการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้บัญชาการเหล่าทัพ หรือหน่วยงานที่คุมกำลังสำคัญ ก็เชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็ย่อมต้องส่งคนที่ไว้วางใจไปกำกับดูแล
ขณะเดียวกันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การปกครองประเทศภายใต้รัฐบาล คสช. องค์กรอิสระต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานของรัฐอื่นๆ คสช. ย่อมได้สร้างเครือข่ายและวางกลไกต่างๆ ไว้อยู่แล้ว ยังไม่รวมถึงปัจจัยอำนาจรัฐหรืออำนาจอื่นๆ ที่มองไม่เห็น ดังนั้น เรื่องจำนวน ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร จึงมองว่าไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะชี้วัดถึงความอยู่รอดของรัฐบาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะท้ายสุด ส.ว. 250 คน ก็ยังสามารถเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในตลอด 5 ปีนี้ หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดเกิดขึ้น
ดร.รยุศด์ ยังกล่าวอีกว่า แม้วันนี้พรรคฝ่ายที่อ้างตนเป็นประชาธิปไตยจะแพ้เกมในสภา แต่ในเชิงสัญลักษณ์ถือว่าชนะใจประชาชน ประวัติศาสตร์การเมืองครั้งนี้คงต้องจารึกไว้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกฎกติกาที่ผิดเพี้ยนเอื้อประโยชน์บางพรรค ส.ว.เพื่อนพ้องน้องพี่ที่เลือกนายกรัฐมนตรีได้ พรรคชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่งไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้เกิดคำถามจากสังคมว่าการเข้าสู่อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ มีความชอบธรรมและสง่างามหรือไม่ และคิดว่าจากนี้ต่อไปรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ คงจะต้องใช้ทุกวิถีทางและทุกองคาพยพเพื่อทำให้สามารถบริหารประเทศได้
...
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลอาจจะอยู่ได้ยาวจนครบวาระด้วยซ้ำไป จะมีเพียงเหตุผลเดียวที่อาจจะทำให้รัฐบาลนี้อยู่ไม่ได้ คือการลุกขึ้นของประชาชนและคนรุ่นใหม่ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี พ.ศ. 2516 และ 2535 และภายใต้บริบทสังคมที่การสื่อสารโซเชียลมีเดียมีบทบาทอย่างสูง โอกาสของการเกิด “บางกอกสปริง” หรือฤดูใบไม้ผลิในกรุงเทพฯ นั้น คิดว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องยากและมีความเป็นไปได้ เหมือนเคยเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศอาหรับมาแล้ว ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงก็เชื่อว่าประเทศไทยคงจะมีประชาธิปไตยเต็มใบอย่างแท้จริง.
(ภาพจากเฟซบุ๊ก ดร.รยุศด์ บุญทัน)