ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย เผย โหวตนายกฯ ครั้งนี้ไม่ใช่งานสบาย ชี้ “ประยุทธ์” ดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. อาจเข้าข่ายลักษณะต้องห้าม

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2562 นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย การเลือกครั้งนี้เป็นพิเศษแตกต่างจากอดีต เพื่อการสืบทอดอำนาจหรือไม่คงไม่ต้องเถียงให้เมื่อยปาก เพราะกติกาที่เห็นกันชี้ชัดอยู่แล้ว

การโหวตนายกฯ ครั้งนี้ ภาพที่เห็นดูเหมือนจะเป็นงานสบายหมูๆ แต่ส่วนตัวเห็นว่าเป็นงานหิน เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้ถูกเสนอต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที่จะเป็นรัฐมนตรี แสดงว่าบุคคลที่รัฐสภาจะพิจารณามีมติให้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องพิจารณาก่อนว่ามีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม คงไม่ใช่ถึงเวลาก็โหวตกันเลยว่าจะเลือกใคร

ทั้งนี้ ปัญหาการดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ต้องห้ามไม่ให้เสนอให้เป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นปัญหาที่ยังไม่ได้ฟันธงมีข้อยุติชัดเจน ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ แล้วจะเป็นอะไร มีอำนาจหน้าที่ เรื่องนี้รัฐสภาจะต้องวินิจฉัย ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ใช่องค์กรวินิจฉัยตีความรัฐธรรมนูญที่จะเป็นข้อยุติสิ้นสุดผูกพันองค์กรอื่นๆ ได้ 

นายชูศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาต่อมาคือการที่ ส.ว. ชุดปัจจุบันที่จะไปใช้สิทธิเลือกนายกฯ ในรัฐสภา มีปัญหาการสรรหาที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กรรมการสรรหาไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ใช่ผู้เป็นกลางทางการเมือง เรื่องใหญ่มากๆ คือการที่หัวหน้า คสช. มาเป็นผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ โดยพรรคการเมือง จึงเกิดปรากฏการณ์ไม่ยอมเปิดเผยกรรมการสรรหา มีผู้เป็นกรรมการสรรหาเองไปเป็น ส.ว.เสียเอง การที่ ส.ว. จะเป็นผู้เลือกหัวหน้า คสช. ให้เป็นนายกฯ ตามบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอ เข้าทำนองผลัดกันเกาหลัง ชงเองกินเอง จึงมีปัญหาว่า ส.ว. ผู้โหวตได้กระทำการอันขัดกันแห่งผลประโยชน์ มีสิทธิถูกร้องว่ากระทำผิดทั้งรัฐธรรมนูญและมาตรฐานทางจริยธรรม

...

ดังนั้น จึงฟันธงว่าไม่หมู งานยาก อย่าคิดว่าเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจไว้ดีแล้ว อะไรที่มันผิดธรรมชาติ ดึงดันจะเอาแบบนี้ ที่สุดคืออวสาน เป็นกำลังใจให้ประธานการประชุม หวังว่าคงจะไม่รวบรัดให้โหวตกันไปแบบไม่ต้องพิจารณาประเด็นเหล่านี้เลย เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบแค่ใครจะได้เป็นนายกฯ