นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปัดข่าวลือ ปชป.เคาะจับมือ พปชร.ร่วมรัฐบาล เหน็บคนเจรจาต้องดูหมากทั้งกระดาน คิดแบบทหาร มีแต่ทางตัน ชี้ทางออกยังมีอีกเยอะ
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ตกลงจะร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว ว่า ไม่เป็นความจริง พรรคประชาธิปัตย์ ยังรอรับแจ้งผลสรุปจากพรรคพลังประชารัฐอยู่ ซึ่งหลังจากที่เขามาเชิญเรา เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ติดต่อแจ้งผลอะไรมาให้เราทราบ เราจึงยังไม่ได้ประชุมใดๆ เพราะเขายังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน
เมื่อถามว่า คิดว่าพรรคพลังประชารัฐ อาจรอให้มีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จไปก่อนหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า “เขาคงจะรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน หรืออาจรอให้มีการเลือกนายกฯ เสร็จไปก่อน จึงจะให้คำตอบเรา เพราะตอนนี้เขาถือว่าเป็นผู้กำหนดเกม เป็นแกนหลัก แต่การจะให้เลือกนายกฯเสร็จก่อน แล้วจึงจะจบข้อตกลงตั้งรัฐบาลนั้น ในอดีตเขาไม่เคยทำกัน แต่ถ้าเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ ต้องบอกกันอย่างเป็นทางการว่า มีเหตุผลความจำเป็นอะไร ตนคิดว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ต้องเคารพและให้เกียรติกันซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ บางครั้งท่าทีหรือการให้เหตุผลเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกมาพูดกันถึงเรื่องบ้านเมือง ผู้ทำหน้าที่เจรจาต้องมีศาสตร์และศิลป์ ต้องมีวุฒิภาวะมากพอ ในการทำเรื่องอย่างนี้ ไม่ใช่ใครก็มาทำได้ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ ต้องเป็นผู้ให้ความชัดเจนทั้งเรื่องตัวคนที่มีอำนาจในการเจรจาอย่างแท้จริง และคำตอบในการประสานงานกับเรา จึงขอย้ำว่า ให้เขาแก้ปัญหาของเขาให้จบก่อน
เมื่อถามว่า ถ้าคนที่มาเจรจาใช้วิธีคิดแบบทหาร จะทำให้การตกลงร่วมจัดตั้งรัฐบาลทำได้ยากใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า มันมีความเสี่ยงที่ปลายทางว่าถ้าเขาทำอย่างนั้น แสดงว่าเขากำลังจะพาการเมืองเข้าสู่ทางตันใช่หรือไม่ มันมีทางเลือกว่า ถ้าเราไม่ร่วมด้วย เขาจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แล้วจะเดินไปอย่างไร เขาจะเสนอกฎหมายอย่างไร จะเอาองค์ประชุมมาจากที่ไหน จะทำให้การเมืองไปสู่การยุบสภาใช่หรือไม่ เวลาสภาจะพิจารณาออกกฎหมาย ส.ว.ไม่ได้มาประชุมด้วย ถ้าฝ่ายรัฐบาลมี ส.ส.ร้อยกว่าคน ทั้งที่ ส.ส.ทั้งหมดมี 500 คน แล้วองค์ประชุมจะเดินหน้าอย่างไร เรื่องอย่างนี้มันต้องดูให้ตลอดทั้งหมด แต่ถ้าจะคิดเพียงแค่ให้ได้เสียงลงมติเลือกนายกฯ แต่ต่อไปฝ่ายรัฐบาลไม่มีเสียงข้างมาก จะเกิดทางตันขึ้นทันที
...
“ดังนั้นผู้ที่จะเป็นผู้บริหารต้องดูหมากทั้งกระดาน ไม่ควรดูทีละตา การจะเดินหมากในกระดานไม่ควรคิดเพียงว่าเดินตรงนี้เท่านั้น แต่ต้องดูว่าหมากเกมนี้จะจบลงอย่างไร ผมคิดว่า ประเทศไม่ใช่อยู่ที่อารมณ์ของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนจึงต้องมีสติในการแก้ปัญหา ผมไม่เชื่อว่าการตัดสินใจอย่างนั้นจะเป็นทางออกที่ดีต่อประเทศ มันยังมีทางออกอีกเยอะ” นายนิพนธ์ กล่าว...