"ชวน หลีกภัย" ไม่ปฏิเสธ ประชาธิปัตย์ เคาะชื่อ ส่งชิงเก้าอี้ ปธ.สภาฯ ในการประชุม วันที่ 25 พ.ค.
วันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า จากเดิมที่พรรคนัดประชุมคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ ในเวลา 16.00 น. แต่ต้องเลื่อนไปเป็นเวลา 18.30 น. เนื่องจากการจราจรติดขัด มี ส.ส. ที่เดินทางกลับจากไปร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภา มาไม่ทันนัดหลายคน
กระทั่งเวลา 18.30 น. จึงได้เริ่มการประชุม โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ผู้รับมอบหมายให้ไปเจรจากับพรรคอื่นๆ รายงานความคืบหน้าถึงการหารือ พร้อมแจ้งข้อเสนอว่า พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอให้แยกการเลือกตำแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ออกจากการจัดตั้งรัฐบาล และไม่เกี่ยวกับการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เริ่มยึดหลักการประชาธิปไตย
โดยระบุขอให้บุคคลที่จะเป็นประธานสภาฯ ต้องเป็น นายชวน หลีกภัย หรือ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เท่านั้น ถึงจะสนับสนุน แต่เนื่องจากบุคคลทั้งสองได้แสดงเจตนา ที่จะไม่รับตำแหน่งดังกล่าวแต่ต้น โดยเฉพาะนายบัญญัติ ที่ยืนยันว่า ไม่รับตำแหน่งดังกล่าวแน่
กระทั่ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ซรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้กล่าวขอร้องให้ นายชวน ยอมรับเป็นตัวแทนของพรรคที่จะชิงเก้าอี้ดังกล่าว ในการประชุมสภาฯ วันที่ 25 พ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับ ส.ส.พรรคอื่น ที่เข้ามาสนับสนุน นายชวน ตอนที่ไปร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาที่กระทรวงการต่างประเทศ อีกทั้งเป็นมติพรรค ที่ให้มีการเสนอชื่อตัวแทนพรรคให้เข้าชิงตำแหน่งดังกล่าว และเพื่อวางหลักในการปฏิบัติถึงการเลือกประธานสภาฯ ที่แยกออกจากการตั้ง ครม. ซึ่งนายชวนก็ไม่ปฏิเสธ
โดยนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าภารกิจพรรคประชาธิปัตย์ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเวลา 20.00 น. วันเดียวกันว่า ที่ประชุมกรรมการบริการพรรค มีมติเสนอชื่อ ประธานสภาฯ "ท่านชวน หลีกภัย" จากนั้นจึงได้มีการเชิญ ส.ส.พรรคให้เข้าประชุมร่วมกับ กก.บห. ต่อ
...
ต่อมา นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงผลการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ประชุมมีมติเสนอชื่อ นายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และเป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง ซึ่งถือเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งที่ประชุมให้เหตุผลว่า ต้องมีบุคคลที่เป็นหลักให้กับบ้านเมือง และมีความซื่อสัตย์สุจริต และมั่นใจว่าสมาชิกทุกคนจะยึดถือตามมติพรรค แต่ยังไม่มีการหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในที่ประชุม