“แม่นแล้ว”
สั้นๆแปรนัยได้ชัดๆกับคำตอบของคนระดับบิ๊กรัฐบาล หัวขบวนพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถูกถามเชิงสนทนาประเด็นที่ว่า หากปล่อยให้เป็นไปตามกระแสข่าวกดดัน พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์แท็กทีมกันยื้อคำตอบร่วมรัฐบาล เดินหมากต่อรองให้ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทีมพลังประชารัฐ ยอมคายกระทรวงเกรดเอ
โดยเฉพาะเก้าอี้หุ้มทองฝังเพชร คมนาคม คลัง ให้กับพรรคตัวแปร
ในเครื่องหมายคำถาม ถ้ายอมให้ขี่คอตั้งแต่แรก พรรคพลังประชารัฐอาจเป็นแค่เบี้ยล่าง “นายกฯลุงตู่” ก็คงเป็นแค่ “ม้าใช้” ให้เสือหิว เสือโหย ขี่คอ “ปล้น” กันสนุกสนานหรือไม่
ที่สำคัญต้นทุนหน้าตักโปร่งใสที่ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อุตส่าห์ออกหน้าการันตีให้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่โกง
มีหวังนำไปสู่สถานการณ์ “ผิดจากที่ป๋าพูด”
โอกาสเสี่ยงติดเชื้อคอร์รัปชัน อันตรายต่อภูมิคุ้มกันที่สั่งสมมา 4–5 ปี
สไตล์ทหารอาชีพอย่าง “ลุงตู่” เดาได้ “ยอมหัก” ยังไงก็ไม่ยอมงอให้นักการเมือง
เอาเป็นว่าก่อนหน้านั้นก็มีกระแสข่าวพรรคตัวแปร “ต่อรอง” กดดันไม่ให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ร่วมรัฐบาล
อ้างกระแสสังคมไม่ยอมรับพี่น้อง “ป้อม-ป๊อก”
แต่ “ลุงตู่” ก็ยังกล้าประกาศเปรี้ยงกลางวงกินเลี้ยงนักข่าวทำเนียบรัฐบาล รถไฟขบวนที่ไปต่อจำเป็นต้องมี “พี่ป้อม” กับ “พี่ป๊อก” ตีตั๋วต่อร่วมขบวนด้วย พี่น้อง 3 ป.ขาดกันไม่ได้
...
ยึดความแน่นปึ้กของทีมเดิมที่รู้มือกันมาก่อนกระแส
นับประสาอะไรกับข่าวพรรคตัวแปรอย่างภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ แท็กทีมกดดันให้ “คาย” กระทรวงเกรดเอ แถมฟาดหางใส่ “บิ๊กตู่” ผิดมารยาททางการเมือง ที่ประกาศล็อก กระทรวงกลาโหม มหาดไทย คลัง คมนาคม ไว้เป็นโควตาพรรคพลังประชารัฐ
ชัดเจน สังคมทั่วไปยังรู้ว่าเป็นแค่เกมการต่อรองผลประโยชน์
น้ำหนักความเป็นเหตุเป็นผลมันยิ่งน้อยกว่าคิวปล่อยข่าวเจาะยางพี่ใหญ่ พี่รอง
เรื่องของเรื่อง จับทิศทางลมกระแสข่าวภูมิใจไทยแท็กทีมประชาธิปัตย์ ที่อ้างแหล่งจากประชาธิปัตย์
ไม่รู้ใครแอบอ้างใคร ฉวยแห่ชื่อเพื่อนตีกินกันหรือไม่
ที่แน่ๆตามสภาพของค่ายประชาธิปัตย์ที่เห็นกันตรงหน้า สถานการณ์ภายในแตกเละเทะ
“เอกภาพ” ยังไม่มี จะเอากำลังที่ไหนไปแห่เกมต่อรองกับภูมิใจไทย
ในอารมณ์แบบที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โพสต์ด่าออกอากาศ ผิดหวังกับผู้มากบารมีที่มีพฤติการณ์ “ตอกลิ่ม” ทำให้พรรคแตกแยก เสียดายที่หลงนับถือมา 30 ปี
อาการต่อเนื่องแบบที่ “มือปราบจำนำข้าว” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้บอกปัดคำเชิญนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ให้เป็นคณะกรรมการนโยบายพรรค
และตามเค้าลางส่อ “หักดิบ” กับการที่ทีม ส.ส.ที่หนุนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายกรณ์ จาติกวณิช และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นัดกินหารือก่อนประชุม ส.ส.พรรค ผนึกกำลังวัดพลังภายในกับทีม “ชวน หลีกภัย–อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ก่อนยกเลิกคิวเพราะอีกฝั่งไป
ดักรอ “ตีกัน” ในร้านกาแฟ
ตามรูปการณ์ ประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาล “ลุงตู่ 2” แน่ แค่จะมาหมดทั้งพรรคหรือไม่เท่านั้น
ทีมหนุน “ลุงตู่” เลยนิ่งพอ “วัดเขี้ยว” กับเกมกดดันของตัวแปร
ปล่อยให้ขั้วเพื่อไทยไล่ตามแห่ “ขั้วที่ 3” หงายไพ่หมดสำรับแล้ว ขนาดที่ยอมสละทั้งเก้าอี้นายกฯ รัฐมนตรี ประธานสภาฯ ทูนหัวใส่พานให้หมด แต่พรรคภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ก็ยังไม่โดดงับ
นั่นก็จับไต๋ได้ง่ายๆ “ตัวแปร” ไม่กล้าเสี่ยง “พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน”
ขณะที่ขั้วพลังประชารัฐถึงตรงนี้จับอาการยังนิ่ง ไม่เต้นตามแรงกดดัน รอได้จนถึงหยดสุดท้าย อย่าว่าแต่เช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ก่อนโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเลย
ทีมหนุน “ลุงตู่” สามารถลากเวลารอไปถึงคิวโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
เพราะถึงจะเจอไฟต์บังคับเสียงโหวตขั้วพลังประชารัฐยึดเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ แต่ “ลุงตู่” ที่มีแต้มต้นทุนหน้าตัก 137 เสียง ส.ส. บวกกับ 250 ส.ว. เกินกึ่งหนึ่งที่ประชุมร่วมรัฐสภาตามกติกาบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าประธานสภาฯจะมาจากฟากไหน นายกฯต้องชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ดี
รอแค่ล็อกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไว้ได้อย่างเป็นทางการก่อน
การเมืองเรื่องการจับขั้วรัฐบาล โควตารัฐมนตรีจะชัดเจน เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยลากไปยุบสภา หรือเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก มีแต่ ส.ส.วิ่งเข้าซบ ตามธรรมชาติ “นักเลือกตั้งอาชีพ” ไม่อยากเหนื่อยบ่อย
ถึงตอนนั้นใครแสดงความจริงใจล่มหัวจมท้ายกับ “ลุงตู่” ตั้งแต่ต้น
ก็ต้องได้ “จิ้ม” รัฐมนตรีก่อน
ส่วนพวกเขี้ยวลากเกมกดดัน นาทีนั้นอาจไม่จำเป็น.
ทีมข่าวการเมือง
อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562
https://www.thairath.co.th/election