เสียงวิจารณ์ที่มาของ ส.ว.สรรหา 250 คน ชักจะดังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ คุณสมบัติของ ส.ว.ชุดนี้ ก็เริ่มจะมีปัญหาตั้งแต่กระบวนการที่มาจนถึงคุณสมบัติส่วนตัวของ ส.ว.แต่ละคน ซึ่ง ได้รับการแต่งตั้งไปแล้ว จำเป็นต้องกลับมาทบทวนกันใหม่
ยกตัวอย่าง กรณีที่ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิด ชยุต สืบตระกูล อดีตเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ปี 2551 คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินตาบอด ใช้เป็นที่จอดรถขยะของ กทม. ปัจจุบันนี้คดีอยู่ระหว่างฎีกา จะทำให้มีผลต่อคุณสมบัติต้องห้าม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยที่มาของ ส.ว. หรือไม่อย่างไรเป็นอีกเรื่อง
แต่ด้วยความไม่รอบคอบ ในการนำรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ส.ว.ของ คสช.ขึ้นทูลเกล้าฯ ทำให้เกิดผลกระทบอย่างไม่สมควรอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ยังมีข้อร้องเรียนอีกมากมายตั้งแต่การ ขอให้มีการเปิดรายชื่อของคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ทั้งหมดอันเนื่องมาจาก มี ส.ว.บางคนยังมีตำแหน่ง คสช. ในระหว่างที่มีการสรรหา
มี ส.ว.ที่เป็นญาติพี่น้องกับคณะกรรมการสรรหาและ คสช.โดยตรง ถือเป็นการเหมาะสมหรือไม่ แม้ในทางข้อกฎหมายอาจ มีการหลีกเลี่ยงได้ แต่ถ้ายึดหลักประเพณีและจริยธรรมแล้วไม่เป็นการสมควร
ตลอดจนข้อร้องเรียนการเสนอชื่อผู้ที่ได้รับการพิจารณาเป็น ส.ว.ของ คสช.เกินกว่าเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เนื่องจากพบว่ามี รมต.หลายคนลาออกจาก ครม.เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ก่อนที่จะประกาศรายชื่อ ส.ว.เพียงไม่กี่วัน
รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม ได้ตอบคำถามเหล่านี้ โดยยืนยันว่า หากพบว่า ส.ว.คนไหนขาดคุณสมบัติก็เลื่อน ลำดับสำรองขึ้นมา และที่พูดกันว่าใช้ งบประมาณในการสรรหา ส.ว. ถึง 1,300 ล้านบาทนั้น เป็นส่วนของ กกต. แต่ในส่วนของส.ว. 194 คน ใช้งบประมาณไปไม่กี่พันบาทเท่านั้น
กรณีที่มีการพิจารณาในส่วนของ คสช. ถ้าพิจารณาถึงรายชื่อของใคร ถ้าผู้นั้นไม่ออกจากที่ประชุมก็จะไม่ออกความเห็นใดๆ
...
เหตุผลค่อนข้างจะว้าเหว่
ทำให้ถูกครหาว่าทั้งหลายทั้งปวงที่อุบัติขึ้นกับการเมืองไทยเวลานี้ ล้วนแต่ด้วยเหตุผลประการเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเป็นนายกฯเท่านั้น
การเข้าร่วมรัฐบาลของ ภูมิใจไทย กับ ประชาธิปัตย์มีข้อจำกัดด้วยเรื่องของโควตาบางกระทรวงที่ยอมกันไม่ได้ มี รมต.บางคนที่ยอมรับกันไม่ได้ และอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเปลี่ยนจุดยืน ดันทุรังกันจนสุดซอย มีทางเลือกสำหรับรัฐบาลในอนาคตอันใกล้นี้ อยู่แค่ว่า จะเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ หรือรัฐบาลปรองดองขั้วที่สาม
บนผลประโยชน์ประเทศหรืออคติส่วนตัว.
หมัดเหล็ก