"อุเทน" ห่วงคำวินิจฉัยศาล รธน.ทำกฎหมายเพี้ยน เหตุเปิดทางให้ กกต. ใช้เป็นช่องให้พรรคมีเสียงไม่ถึงครึ่งของค่าเฉลี่ยได้ที่นั่ง ส.ส. ซัด กกต.ทำงานไม่เอาอ่าว ถามเบิกเบี้ยเลี้ยง-โอทีมากมายขนาดไหน เหตุใดงานอืดเป็นเรือเกลือ เดือนเศษปิดได้แค่คดีเดียว เตือนระวังผิด ม.157 ละเว้นหน้าที่ ฐานปล่อยผี 349 ส.ส.เขต ทั้งที่มีคดีค้างอื้อ ดักคอเอื้อประโยชน์พรรคไหนชนะเกมตั้ง รบ. ตราหน้าอัปยศ-ไร้สง่างาม...
นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า บทบัญญัติมาตรา 128 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในส่วนของการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ขัดหรือแย้งกับมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ว่า ส่วนตัวเคารพในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ขอสงวนสิทธิ์ในการแสดงความเป็นห่วงผลพวงของคำวินิจฉัยดังกล่าว ทั้งในแง่การบังคับใช้กฎหมาย ที่ดูเหมือนกฎหมายลูกมีศักดิ์เหนือกว่ากฎหมายสูงสุดอย่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต อีกทั้งจากการประกาศรับรองจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต. ที่ปรากฏว่ามีถึง 26 พรรคการเมืองมีที่นั่ง ส.ส.นั้นก็ไม่เป็นไปตามหลักความเป็นจริง เพราะการที่พรรคการเมืองจะมี ส.ส.ได้นั้น ก็ควรที่จะได้รับคะแนนเสียงที่เท่ากับหรือมากกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส.ต่อ 1 ที่นั่ง หรือราว 7.1 หมื่นเสียงในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ที่ผ่านมา แต่สูตรการคำนวณของ กกต.นั้นทำให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงเพียง 3 หมื่นเศษ หรือไม่ถึงครึ่งของค่าเฉลี่ยที่ควรได้ ส.ส. กลับได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย ทั้งๆ ที่อีกหลายพรรคการเมืองมีเศษของคะแนนมากกว่า
นายอุเทน ยังได้กล่าวถึงการทำงานของ กกต.ด้วยว่า ต้องถือว่า กกต.ชุดนี้ทำงานไร้ประสิทธิภาพอย่างมาก ทั้งความไร้หลักการและไร้ความชัดเจนในเรื่องต่างๆ จนเกิดเป็นข้อขัดแย้งในหมู่นักการเมืองและสังคม ไม่เท่านั้นยังทำงานล่าช้าอย่างไม่น่าเชื่อ จากการแถลงมีการกล่าวอ้างว่ามี 400 กว่าคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าผ่านมา 1 เดือนเศษ กกต.สามารถปิดคดีที่เขต 8 จ.เชียงใหม่ ได้เพียงคดีเดียว จนอยากตั้งคำถามว่าที่ผ่านมากรรมการ กกต.และเจ้าหน้าที่มีการเบิกเบี้ยเลี้ยง หรือค่าล่วงเวลาการทำงานหรือไม่อย่างไร เหตุใดงานจึงล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นอย่างมาก ตรงนี้อาจจะเข้าข่ายเบียดเบียนและเบียดบังภาษีของประชาชนไปอย่างไร้ประโยชน์ รวมไปถึงเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 157 โดยเฉพาะการประกาศรับรอง ส.ส.ที่มีเรื่องร้องเรียน โดยอ้างว่ารับก่อนฟันทีหลังนั้น เพราะหากมีการให้ใบเหลือง-ใบแดง-ใบส้ม ในภายหลัง ตามกรอบระยะเวลา 1 ปี ก็เท่ากับทำให้ตัวผู้สมัคร ประชาชนผู้ออกเสียง และประเทศชาติเสียหาย เพราะมีการสูญเสียงบประมาณ และยังต้องเสียงบประมาณเพิ่มอีกในการเลือกตั้งใหม่
"ผมมองว่า เหตุที่ กกต.ต้องปล่อยผี ส.ส. 349 เขตนั้น ก็เพื่อต้องการให้ผลของ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ เป็นประโยชน์ถึงพรรคขนาดเล็กกว่า 10 พรรค ที่ได้คะแนนไม่ถึงค่าเฉลี่ยให้ได้ที่นั่ง ส.ส.ไปด้วย เพื่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เพราะสูตรที่ กกต.คำนวณ นั้นแตกต่างกับสูตรที่หลายพรรคการเมืองคำนวณกันมากถึง 10 กว่าที่นั่ง เพียงพอที่จะชี้แพ้ชนะเกมการตั้งรัฐบาลได้เลย และหากเป็นเช่นนี้คงต้องจารึกไว้ว่า เป็นการเลือกตั้ง และการตั้งรัฐบาลที่อัปยศ ไร้ความสง่างามที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย” ซึ่งถ้าไม่ใช้ตัวช่วยแบบนี้ พลเอกประยุทธ์ฯ ไม่มีทางมีเสียง ส.ส. สนับสนุนเพียงพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล เว้นเสียแต่ใช้เสียง ส.ว.มาช่วย ตามมาตรา 159 วรรค 3 ซึ่งตัวนายมีชัยเองในฐานะประธานร่างฯ ต้องร่วมรับผิดชอบที่ร่าง รธน. มาแบบนี้ อันจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ประชาชนไม่ยอมรับรัฐบาลที่จะตั้งขึ้น แล้วใครล่ะจะรับผิดชอบ ศาลรัฐธรรมนูญ กกต. หรือ คสช." นายอุเทน กล่าว.
...