ธนาธร ร่วมสังเกตการณ์นับคะแนนใหม่ เลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 นครปฐม ไฟดับไป 30 วินาที ชี้ต้องบริสุทธิ์ตั้งแต่แรก ไม่ควรมีข้อกังขา เดินหน้าทวงคะแนนรายหน่วยทั่วประเทศจาก กกต. ย้ำเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนต้องรู้...

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. บริเวณอาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม มีการนับคะแนน ส.ส.จังหวัดนครปฐม เขตเลือกตั้งที่ 1 จำนวน 245 หน่วย ใหม่อีกครั้ง หลังจาก น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.นครปฐม พรรคอนาคตใหม่ ได้ยื่นเรื่องร้องขอ หลังจากที่ผลการเลือกตั้งที่ กกต. ประกาศนั้นไม่ตรงกับคะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้ง โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะเดินทางมาร่วมสังเกตการณ์

น.ส.สาวิกา เปิดเผยว่า ค่อนข้างจะมั่นใจ โดยได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครจากพรรคอนาคตใหม่ มาร่วมกันสังเกตการณ์ทุกหน่วย หน่วยละ 3 คน รวม 250 คน ช่วยกันจับตาเฝ้ามอง และให้รู้ความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคะแนนที่หายไปในเขต 1 หากเป็นคะแนนที่ไม่มีอะไรมาแทรกแซงและไม่มีกลโกงใดๆ ตนเองคิดว่าผลที่ออกมาจะต้องชนะตามที่เคยได้ยื่นเรื่องกับ กกต. เพื่อขอให้มีการนับคะแนนใหม่ในครั้งนี้

ขณะที่นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ต้องรอ กกต.วินิจฉัย และประกาศผลอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจ ดร.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่และทำหน้าที่ผู้สมัครเป็นอย่างดี เราก็ดีใจและต้องพอใจผลคะแนน และถือโอกาสขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวนครปฐมที่ช่วยสนับสนุนผู้สมัครของพรรค ถึงแม้ว่าผลจะออกมาในด้านบวกหรือลบ ก็ต้องเป็นไปตามผลที่ออกมา เพราะ กกต.จะเป็นผู้ชี้ทาง และไม่ขอคาดการณ์ใดๆ รอผลเลือกตั้งออกมาก่อน

...

นอกจากนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และให้กำลังใจกับผู้สมัคร โดยเปิดเผยว่า กว่าจะนับคะแนนเสร็จอาจจะล่วงเลยไปถึงช่วงเย็น อาจจะอยู่ไม่ถึงในช่วงของผลนับคะแนนสิ้นสุด ซึ่งการนับคะแนนใหม่ครั้งนี้ เนื่องจาก น.ส.สาวิกา มีความสงสัยกับการนับคะแนนในครั้งแรก จึงได้ไปขอผลการนับคะแนนในการเลือกตั้งจากหน่วย ก็พบว่าเป็นฝ่ายชนะที่มีคะแนนมากกว่าจำนวน 4 คะแนน ซึ่งไม่ตรงกับผลของ กกต.ที่ประกาศออกมา จึงขอให้ กกต.นับใหม่ อย่างไรก็ตามต้องขอดูผลที่จะออกมา แต่อย่าลืมว่าหลังจากการเลือกตั้งผ่านมาแล้ว 1 เดือน บัตรที่อยู่ในกล่องอยู่มา 1 เดือน ประชาชนไม่สามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้เชื่อว่าประชาชนทุกคนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก ถ้าประชาชนทุกคนไม่เชื่อในผลของการเลือกตั้ง ประเทศชาติก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ อย่างเช่นในจังหวัดนครปฐม เขต 1 ไม่ใช่เป็นเขตเดียว ที่พวกเราทักท้วง มีอีก 2 เขตในนครปฐม ทั้งเขต 2 และเขต 4 โดยเขต 4 พบใช้เงินซื้อเสียง ซึ่งอยู่ในชั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ทางพรรคอนาคตใหม่จะนำกรณีนี้ไปยื่นกับ กกต. เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะอยากเห็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม

ส่วนกรณีนับคะแนนใหม่ในเขต 1 เป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก จริงๆ แล้วควรจะต้องบริสุทธิ์ ถูกต้องตั้งแต่แรก ไม่จำเป็นหรือไม่ควรมีข้อกังขาให้มีการนับคะแนนใหม่ และขอบอกอีกครั้งว่า ผลคะแนนดิบรายหน่วยทั่วประเทศ เป็นสิทธิ์ของประชาชนที่จะต้องรู้ จนถึงวันนี้ กกต. ไม่ยอมเปิดผลคะแนนรายหน่วย ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นหนังสือให้กับ กกต. อ้างอิงสิทธิ์ที่ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ให้ กกต.เปิดผลการนับคะแนนรายหน่วยทั่วประเทศ ตั้งแต่สัปดาห์แรกของการเลือกตั้งแล้ว

"จนถึงวันนี้ กกต. ก็ไม่เปิดเผย จึงต้องช่วยกันกดดัน ทำไม กกต.ไม่เปิด ไม่มีเหตุผลอะไรที่ประชาชนจะรู้ไม่ได้ เพราะข้อมูลตรงนั้นคือ เสียงของประชาชน คือเสียงของพวกเรา ภายในสัปดาห์หน้าพรรคอนาคตใหม่จะขยับเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ เราจะอ้างอิงสิทธิประชาชนผ่าน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของประชาชน เพื่อทวงคะแนนรายหน่วยจากทั่วประเทศ" นายธนาธร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ขณะกรรมการประจำหน่วยนับคะแนน ได้เกิดไฟดับเป็นเวลา 30 วินาที ก่อนกลับสู่ปกติ โดยการนับคะแนนยังคงดำเนินการต่อเนื่อง มีการใช้ไฟสำรองเพื่อให้การนับคะเเนนได้ดำเนินการต่อไปได้.