"นพดล" ยันไม่มีหุ้นสื่อ บอกวาระแห่งชาติ สำคัญกว่ารัฐบาลแห่งชาติ ด้าน"ประยุทธ์" ชี้ รบ.แห่งชาติ เกิดยาก เชื่อนักการเมืองไม่กล้าฝืนมติ ปชช. เตือนอย่าหลงป่า ขณะที่ อ.ด้านรัฐศาสตร์ ระบุ ปชป.อยู่ในทางสองแพร่ง จึงต้องหยิบ รบ.ปรองดองขึ้นมา...

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม กลุ่ม กปปส. เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ตรวจสอบสมาชิกพรรคการเมือง 6 พรรค เนื่องจากยังถือครองหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ว่า ไม่รู้ว่าร.อ.ทรงกลด ไปเอาข้อมูลมาจากไหน ตนไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทที่ ร.อ.ทรงกลดอ้าง และบริษัทดังกล่าวสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไปเกือบ 20 ปี และรายชื่อที่ ร.อ.ทรงกลด ยื่นสอบก็เป็นสมาชิกในพรรคที่ร่วมแถลงเป็นฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตย ที่จะทำงานทางการเมืองด้วยกัน ประชาชนทั่วไปคงตั้งคำถามว่าเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ 

เมื่อถามถึงกรณี นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระบุมีความเป็นไปได้เกิดรัฐบาลแห่งชาติ นายนพดล กล่าวว่า นายยุทธพร เป็นนักวิชาการที่ไม่มีส่วนได้เสียทางการเมือง ความเห็นจึงถือว่าออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจและทุกฝ่ายควรรับฟัง แต่ส่วนตัวยังคิดว่าขณะนี้การตั้งรัฐบาลตามวิถีทางระบบรัฐสภายังทำได้อยู่ ส่วนความชัดเจนคงต้องรอ กกต.ประกาศรับรองจำนวนส.ส.เสียก่อน แต่อย่างไรก็ตามตนไม่ได้กังวลใจเกี่ยวกับประเด็นรัฐบาลแห่งชาติ แต่มีความกังวลเรื่องวาระแห่งชาติ เช่นเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง การเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศ การลดความเหลื่อมล้ำ และปัญหาการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งล้วนเป็นเรื่องสำคัญที่นักการเมืองทุกฝ่ายทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องร่วมกันแก้ปัญหาให้ได้ 

...


ด้านนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระบุมีความเป็นไปได้เกิดรัฐบาลแห่งชาติ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นไปได้ยากเพราะในการเลือกตั้งของประชาชนได้แบ่งข้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งชัดเจน และเป็นประเด็นหลักที่ทุกพรรคใช้ในการหาเสียง เรื่องนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วนักการเมืองทั้งหมดจะฝืนมติประชาชนจึงเป็นไปได้ยาก ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เสนอให้ใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ที่ให้ส.ว.มีส่วนในการออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูป เป็นทางออกกรณีกฎหมายไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรนั้น ต้องแยกแยะระหว่างกฎหมายทั่วไปกับกฎหมายปฏิรูป นักกฎหมายทุกคนเขาเข้าใจกัน การออกมาให้ความเห็นแบบนี้เหมือนกำลังหลงป่าอยากให้คนใกล้ชิดไปเอาออกจากป่าดีกว่าปล่อยให้ตายคาป่า และที่สำคัญนายไพบูลย์ต้องไปอ่านกฎหมายอีกหลายๆ รอบเพื่อได้ทำความเข้าใจด้วยตนเองจะได้ไม่ออกมาให้ความเห็นจนทำให้คนอื่นสับสน 

ขณะที่นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเทพไท เสนพงศ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ชงข้อเสนอการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า เป้าหมายคงต้องการให้เกิดกระบวนการต่อรอง รัฐบาลแห่งชาติในประเทศไทย มีนิยามความหมายหลากหลาย เเต่ไม่เหมือนรัฐบาลแห่งชาติของต่างประเทศ ที่เรียกว่ารัฐบาลแห่งชาติเอกภาพ กรณีประเทศนั้นๆ มีภาวะฉุกเฉินหรือเกิดสงคราม พอนิยามความคิดหลากหลาย แล้วไม่เป็นไปตามหลักสากล สะท้อนเลยว่า รัฐบาลแห่งชาติถูกหยิบยกขึ้นมาทุกครั้งที่เกิดวิกฤติการเมือง ต่อรองการเมือง หลายคนบอกว่าประชาธิปัตย์ถึงทางสองแพร่ง เอาหรือไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ก็ไม่มีทางใดที่เป็นประโยชน์ จึงไม่น่าเเปลกใจว่าทำไมเราจึงได้ยินเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ จากคนของพรรคประชาธิปัตย์ นิยมรัฐบาลของนายเทพไท น่าหมายถึงทุกพรรครวมตัวกัน เพื่อสนับสนุนบุคคล ซึ่งไม่เป็นส.ส.ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติก็จะมีเเต่ส.ส.เท่านั้น ตัวเเบบรัฐบาลแห่งชาติบางแบบบอกว่า ทุกพรรครวมกันไม่มีฝ่ายค้าน ถูกวิจารณ์ว่าขัดหลักประชาธิปไตยขัดรัฐธรรมนูญ บางแบบบอกว่ามีฝ่ายค้านน้อย หรือเป็นรัฐบาลสนับสนุนคนนอกให้ดำเนินการเป็นฝ่ายบริหาร ส่วนส.ส.ก็เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนตัวมองว่า ของนายเทพไท คงจะเป็นตัวแบบสุดท้าย 

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ถึงกระเเสข่าวราคางูเห่ากำลังพุ่งสูงหลายสิบล้านบาท ว่า เรื่องงูเห่าทางการเมืองเป็นปัจจัยเกี่ยวข้องกับเรื่องการตั้งรัฐบาลขณะนี้ที่เสียงปริ่มน้ำของขั้วใหญ่ คงไม่ง่ายนักที่สังคมไทยจะเเก้ไขเรื่องงูเห่า เเม้สังคมอยากจะมีการเมืองในระบบรัฐสภา แต่อีกด้านหนึ่งยังมีการเมืองแบบไม่เป็นทางการ เป็นผลมาจากวัฒนธรรมการเมืองแบบไทยๆ ที่นิยมพูดคุยนอกรอบ การเจรจาใต้ดิน ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงต่อรอง ถ้าสภาพการเมืองเเบบนี้ โอกาสจะแก้ปัญหางูเห่าไม่ง่าย เเม้งูเห่ามีมาหลายสิบปีเเล้วก็ตามแต่กลับไม่เคยหายไปไหน ยิ่งเวลาการฟอร์มรัฐบาลทอดยาวออกไป งูเห่าครั้งนี้จะราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จะไม่ใช่มีราคาเเค่ตัวเงิน ต้องจับตาผลประโยชน์รูปแบบอื่นด้วย เช่น โควตารัฐมนตรี กระทรวงเกรดเอ บี ซี ประชาชนชนลงโทษงูเห่าได้ผ่านการเลือกตั้ง เชื่อว่าวันนี้ชาวบ้านรู้ทัน ใครเป็นงูเห่าให้จดจำเอาไว้ ไม่ต้องเลือกเข้ามาอีก.