เป็นนักการเมืองอีกคนที่ยืนอยู่ระดับแถวหน้าของวงการเมืองไทย สปอตไลต์จับเป็นแคนดิเดตแม่ทัพคนใหม่ในช่วงถ่ายเลือดและปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์

เพื่อเดินตามอุดมการณ์และคติพจน์ประจำพรรคว่า “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”

ทิศทางพรรคเก่าแก่นับจากนี้จะเดินไปอย่างไร ติดตามมุมคิด สะท้อนตัวตนของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งแต่บรรทัดนี้

เริ่มจากการถอดบทเรียนความพ่ายแพ้เลือกตั้งครั้งล่าสุด ที่มีการประชุมแกนนำของพรรค โดยเจ้าตัวบอกว่า มีทั้งจากส่วนที่เป็นภาพรวม และกรณีในแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งมีความแตกต่างกัน บางเขตเสียที่นั่งให้พรรคหนึ่ง บางเขตเสียให้อีกพรรคหนึ่ง แต่ละเขตมีรายละเอียดแตกต่างกันไป

รวมถึงเกิดปรากฏการณ์พรรคการเมืองเกิดขึ้นใหม่ หลายพรรคไม่ประสบความสำเร็จ บางพรรคก็ประสบความสำเร็จ ได้ ส.ส.เข้ามาเป็นกอบเป็นกำ แต่มันยังพิสูจน์ไม่ได้ การเมืองไม่ได้เลือกตั้งครั้งเดียวแล้วเลิก ยังมีการเลือกตั้งครั้งต่อๆไป บนเส้นทางประชาธิปไตยอีกยาวไกล ทุกพรรคการเมืองมีหน้าที่ต้องพิสูจน์

พรรคประชาธิปัตย์พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในระยะเวลาพอสมควร ไม่ล้มหายตายจากไปไหน

เพราะไม่ได้ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ หรือสนับสนุนบุคคลใดบุคคลหนึ่งขึ้นมามีอำนาจ

จนกล้าพูดได้ว่าเราพัฒนาไปสู่ความเป็นสถาบันการเมืองได้ในระดับหนึ่ง

เป็นกลไกหลักในระบอบประชาธิปไตยระยะยาว

แน่นอนไม่ได้แปลว่าต้องชนะทุกครั้ง ต้องได้ที่หนึ่งทุกครั้ง ต้องเป็นรัฐบาลทุกครั้ง

ในยามที่เราได้รับเลือกตั้ง ไม่ว่าอยู่ในสถานะไหน ก็ทำหน้าที่สมบูรณ์บนผลประโยชน์ของประชาชนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต

ทุกพรรคการเมืองถ้าตั้งใจเป็นสถาบันการเมือง ก็ต้องพิสูจน์ในลักษณะนี้ รวมถึงพรรคการเมืองใหม่ที่เริ่มนับหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งเดียวยังไม่ใช่คำตอบ ในระยะยาวประชาชนจะให้คำตอบว่าใช่หรือไม่

...

ฉะนั้น ความพ่ายแพ้ของเราครั้งนี้ ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องไปประเมินอีกครั้งว่า ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกอย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณานำพาพรรคเดินไปข้างหน้า

ขณะนี้กรรมการบริหารพรรคพ้นทั้งคณะ หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ตามข้อบังคับพรรคมีเกณฑ์ว่าต้องจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคภายใน 60 วัน นายอภิสิทธิ์ลาออกวันที่ 24 มี.ค.62 ก็ไปตกวันสุดท้ายวันที่ 23 พ.ค.62

วันที่ 18 เม.ย.62 เวลา 10.00 น. คณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการนัดประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณามอบหมายให้คณะทำงานชุดหนึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ เมื่อได้คณะกรรมการชุดนี้ก็จะไปกำหนดวันเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่

ช่วงเวลาเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยังไม่ชัดเจน แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประกาศผลการเลือกตั้งเป็นทางการวันที่ 9 พ.ค.62 จะมีผลต่อการประกาศเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมรัฐบาลชุดใหม่อย่างไร นายจุรินทร์ บอกว่า กกต.ประกาศเบื้องต้นว่าจะไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.62 เอาเข้าจริงๆจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการวันไหนก็ยังไม่ทราบเช่นเดียวกัน คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ต้องขึ้นอยู่กับคณะทำงานฯว่าจะไปกำหนดวันเลือกตั้งวันไหน

หากถึงเวลาตัดสินใจทางการเมือง แต่ยังไม่มีคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะทำอย่างไร นายจุรินทร์ บอกว่า ตามกลไกของพรรค ทั้งการไปร่วมรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านหรือเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะต้องนำเรื่องเข้าพิจารณาในประชุมร่วมระหว่าง ส.ส.ของพรรคกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อมีมติร่วมกัน

เท่ากับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่และ ส.ส.ของพรรคจะพิจารณาร่วมกัน นายจุรินทร์ บอกว่า ตามหลักควรเป็นอย่างนั้น

เพราะเป็นการตัดสินทิศทางอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์

แต่เราก็ไม่สามารถตอบได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้นหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการก็ไม่ควรตัดสินใจอะไรอยู่แล้ว

ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค แม่ทัพคนใหม่ในยุคปรับโครงสร้างพรรคควรมีภารกิจอะไรบ้าง เพื่อนำพาพรรคให้เป็นทางเลือกใหม่ของประเทศ นายจุรินทร์ บอกว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่มีการบ้านเพิ่มขึ้นหลายข้อ

อย่างน้อยในแง่พื้นที่ทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เดิมมีการบ้านข้อใหญ่เฉพาะภาคอีสาน

เที่ยวหน้าไม่ใช่แล้ว มีการบ้านใหญ่เพิ่ม 4 ข้อที่ภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพฯ และภาคใต้

เพราะภาคเหนือได้ ส.ส.แค่ 1 คน ภาคกลางเหลือ 7-8 คน กรุงเทพฯ ไม่ได้ ส.ส. ภาคใต้จาก 50 คน เหลือ 22 คน

และต้องฟื้นฟูพรรคในด้านต่างๆ เพื่อให้กลับไปอยู่ในความนิยมของประชาชนอีกครั้งในอนาคต

เป็นโจทย์กว้างๆที่เป็นรูปธรรมในเบื้องต้น ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินศักยภาพของคนในพรรค

ในอดีตเคยพิสูจน์มาแล้ว เคยตกต่ำมาหลายรอบ สุดท้ายฟื้นกลับมาได้ทุกครั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล

คราวนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานการณ์บนเส้นทางอันยาวไกลของพรรคประชาธิปัตย์ เราประสบภาวะได้รับเลือกตั้งเข้ามาน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน จาก 161 คน ลดลงเหลือกว่า 50 คน

“มั่นใจว่าเราจะผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้สามารถพลิกฟื้นไปสู่ความนิยมกลับไปนั่งในหัวใจประชาชนได้อีกครั้ง ผมมั่นใจว่าเราทำได้”

ในฐานะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตแม่ทัพคนใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ มองโจทย์การเมืองของประเทศเปลี่ยนไปอย่างไร นับจากที่พ่ายแพ้จนสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นายจุรินทร์ บอกว่า สถานการณ์เปลี่ยนไปชนิดที่นาทีนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

ต้องรอ กกต.รับรองผลเป็นทางการ ขณะเดียวกันก็อยู่ในช่วงแข่งขันตั้งรัฐบาลระหว่าง 2 ขั้ว ซีกหนึ่งมีโอกาสตั้งรัฐบาลได้ แต่โอกาสได้นายกรัฐมนตรีก็ไม่ง่ายอีกซีกหนึ่งอาจได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่โอกาสเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ยังมีเครื่องหมายคำถามอยู่

ประกอบกับสถานการณ์การเมืองอื่นๆที่หลายฝ่ายกังวลอยู่ ในเรื่องความขัดแย้งก็ยังดำรงอยู่ คงต้องรอให้ทุกอย่างนิ่งขึ้นมาอีกระดับ คงบอกได้ว่าการเมืองของประเทศจะเปลี่ยนไปในรูปแบบไหน อย่างไร

วันนี้พร้อมแค่ไหน หลังมีคนเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ บอกว่า ขอบคุณผู้สนับสนุนหลายท่าน คงรอให้ถึงเวลาที่สมควรว่า คณะทำงานที่ตั้งขึ้นจะบริหารจัดการเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่อย่างไร

แคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่จะชูจุดขายอย่างไรให้ที่ประชุมใหญ่ของพรรคเลือกเป็นแม่ทัพคนใหม่ นายจุรินทร์ บอกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เป็นแคนดิเดต เพราะไม่ทราบว่าจะรับสมัครเมื่อไหร่ ในรูปแบบไหน อย่างไร

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะตอบทุกคำถาม ตอนนี้ขอตอบในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค

โจทย์สำหรับผู้นำพรรคอย่างน้อยก็อย่างที่เรียนไว้ตอนแรกในแง่พื้นที่ทางการเมือง 5 ภาค จะต้องนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป และโจทย์ในการพลิกสถานการณ์ให้พรรคกลับไปนั่งในหัวใจประชาชน

ภายใต้อุดมการณ์ของพรรคที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนชาวไทยทุกคน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

จุดแข็งของพรรคไม่ได้มีคนรุ่นเดียว แต่มีคนทุกรุ่นที่หลอมด้วยอุดมการณ์และแบ่งปันประสบการณ์

อย่างน้อยก็รีแบรนด์พรรค ตัวผู้นำพรรคก็มีส่วนสร้างแบรนด์ให้เกิดขึ้นต่อการรับรู้ของประชาชน รวมถึงระบบบริหารจัดการสมัยใหม่ ผสมผสานระหว่างบริหารจัดการพรรคการเมืองกับบริหารจัดการทางการเมืองได้ลงตัว ซึ่งไม่เหมือนการบริหารธุรกิจ

ถ้าเข้าใจจุดนี้ก็นำทัพไปสู่ความสำเร็จได้ง่าย

พร้อมเตรียมสร้างคนรุ่นใหม่ คนที่มีแนวคิดใหม่เข้ามาเสริมทัพ

เพื่อรวมกำหนดทิศทางพัฒนาพรรคและประเทศ

เป็นโจทย์ที่ท้าทายผู้นำพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่.

ทีมการเมือง