"พิชัย"เผย อัยการเลื่อนฟังคำสั่งเป็น 22 พ.ค. ชี้ปมต่างชาติชะลอลงทุนเพราะไม่เชื่อมั่นขนาดมีการเลือกตั้งแล้ว ซัด พิจารณาดีๆ "บิ๊กตู่" กลับมาเป็นนายกฯ อีก รัฐบาลคสช.ทุจริตหรือไม่ ดูหลังเปิดสภาฯ

วันที่ 11 เม.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ กล่าวว่า ตามที่สำนักอัยการได้นัดหมายให้เข้าพบในวันที่ 11 เมษายน นี้ เพื่อฟังคำสั่ง และตนได้มอบอำนาจให้ ทนายความ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความ เข้าพบแทน โดย สำนักอัยการได้เลื่อนการฟังคำสั่งไปเป็นวันที่ 22 พฤษภาคม นี้

นายพิชัย กล่าวว่า การที่รัฐบาล และ คสช. พยายามที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่เห็นต่าง และนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าจะเป็นกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และคนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งกับตนเอง ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งเพิ่งเสร็จสิ้นไป แสดงถึงรัฐบาลและคสช. ยังไม่เลิกนิสัยเผด็จการ แม้จะเข้าสู่ขบวนการประชาธิปไตยแล้ว ถึงขนาดที่รัฐบาลตำหนิ นักการทูต 12 คน จากหลายประเทศที่เข้าไปสังเกตการณ์ การดำเนินคดีในลักษณะนี้ อีกทั้งยังเรียกเข้าพบ ยิ่งแสดงความเป็นเผด็จการอย่างเห็นได้ชัด การที่นักการทูตจากนานาประเทศ 12 คน เข้าสังเกตการณ์ แสดงให้เห็นว่า นานาชาติไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำที่ผิดปกติดังกล่าว แต่แทนที่รัฐบาลจะได้สำนึก กลับแสดงความไม่พอใจ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมกระทรวงการคลังถึงได้ออกมายอมรับและแสดงความกังวลว่า นักลงทุนต่างประเทศชะลอการลงทุนในประเทศไทย เพราะหากรัฐบาลหลังการเลือกตั้งยังคงมีแนวคิดเผด็จการในลักษณะนี้ คงไม่มีใครจะอยากเข้ามาคบค้าสมาคม และคงไม่มีใครกล้ามาลงทุนในไทยแน่ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติได้ลดการลงทุนในประเทศไทยลงอย่างมากมาตลอด 5 ปี หลังเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร โดยย้ายไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีก การลงทุนจากต่างประเทศก็จะยิ่งหายไปเรื่อยๆ มีแต่ราคาคุยจากทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลแต่ไม่มีตัวเลขยืนยัน เพราะตัวเลขแท้จริงต่ำกว่าสมัยก่อนเกิดการปฏิวัติมาก ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องว่า เมื่อเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแล้ว ขบวนการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสมัยเผด็จการควรจะต้องยกเลิกไป อีกทั้งอยากให้พิจารณากันว่า หากพลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ประเทศไทยจะยิ่งเสียหาย เพราะจะไม่สามารถสร้างความมั่นใจจากต่างประเทศได้ และนอกจากจะได้พิสูจน์แล้วว่า เก่งหรือไม่ จากการเจริญเติบโตที่ต่ำมาตลอด ประชาชนเดือดร้อนกันมากแล้ว การทุจริตคอร์รัปชันก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ จะบอกว่า ไม่มีทุจริตคงไม่ได้ ทั้งนี้เพราะจากอดีตถึงปัจจุบันรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติรัฐประหาร หลังจากหมดยุคแล้วจะพบการทุจริตคอ์รัปชันอย่างมากมายในทุกครั้ง และเชื่อว่า รัฐบาลนี้ก็คงไม่ต่างกัน เพียงแต่ยังไม่มีการตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่า หลังจากเปิดสภาฯ แล้ว คงได้มีข้อมูลและเรื่องผิดปกติมาเปิดเผยกัน

...