การทำหน้าที่ของ กกต. บนการต่อสู้ทางการเมืองที่เข้มข้น ไม่ว่าการวินิจฉัยของ กกต.จะออกมาซ้ายหรือขวาก็มีฝ่ายที่ไม่พอใจ โดยเฉพาะมาตรการกดดันทางสังคม ที่โฟกัสไปยัง การทำหน้าที่ของ กกต. พรรคการเมือง นักการเมือง การสร้างสถานการณ์ไปสู่วิกฤติความรุนแรง ท้ายที่สุดแล้วก็จะไปถึงจุดความแตกแยกของคนไทยอีกครั้ง
กฎหมาย ระเบียบ กติกาในรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ผูกมัดกับการทำงานของ กกต.ที่แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิมโดยสิ้นเชิง
กกต.ชุดปัจจุบันทำหน้าที่ออกนโยบายและควบคุมให้มีการปฏิบัติไปตามนโยบาย ซึ่งไม่แตกต่างจากรูปแบบของ คณะกรรมการบริหาร หรือกรรมการบอร์ดนัก
หน้าที่การปฏิบัติทั้งหมดไม่ว่าจะให้มีการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมแค่ไหน อยู่ที่ข้าราชการ กกต.ตั้งแต่ตำแหน่ง เลขาธิการ กกต. ลงไป ถือเป็นผู้ปฏิบัติ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร จึงรายงานให้ กกต.ทราบหรือพิจารณา รวมทั้งการชี้แจงการประชาสัมพันธ์ ระบบจัดการเลือกตั้ง ล้วนแต่เป็นหน้าที่ของข้าราชการ กกต.
นอกจากนี้ กติกาที่ไม่เอื้อให้ กกต.ทำงานได้อย่างเต็มที่ เช่น การประกาศผลการเลือกตั้ง ที่กำหนดว่าจะต้องประกาศผลการเลือกตั้งพร้อมกันเมื่อสามารถที่จะรับรองผลการเลือกตั้งได้ร้อยละ 95 ของการเลือกตั้งทั้งหมด บางจังหวัดมีข้อร้องเรียน ซึ่งปัจจุบัน กกต.รับข้อร้องเรียนเอาไว้แล้วไม่ต่ำกว่า 300 เรื่อง
นำมาพิจารณาตามขั้นตอนตั้งแต่ตั้งฝ่ายสืบสวนร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 200-300 ชุดลงหาข้อมูลในพื้นที่ จากนั้นส่งเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองจำนวน 35 ชุดเพื่อพิจารณากลั่นกรองอีกครั้ง ก่อนจะส่ง เรื่องให้ กกต.ชุดใหญ่วินิจฉัย
ถ้าพบว่ามีการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ ไม่พบว่าผู้สมัครมีส่วนร่วม ก็ให้ใบเหลือง ถ้าพบว่าผู้สมัครมีส่วนรู้เห็น ด้วยก็แจกใบส้ม ซึ่งผู้สมัครจะถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี หมายถึงหมดสิทธิที่จะลงสมัครเลือกตั้งซ่อม แต่ถ้ามีความผิดที่ร้ายแรง กกต.ก็จะส่งเรื่อง ให้ศาลยุติธรรมเป็นผู้พิจารณาให้ใบแดง ไม่ได้อยู่ในอำนาจของ กกต.
...
ถ้ายึด กติกาที่โปร่งใส เชื่อว่าการเลือกตั้งก็จะเป็นไปตามขั้นตอนวันที่ 9 พ.ค.หลังจาก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมที่จะประกาศรับรอง ส.ส.ทั้ง 2 ระบบได้ทันที ไม่มีโอกาสที่การเลือกตั้งเป็นโมฆะแน่นอน
แต่อุณหภูมิการเมืองที่ร้อนขึ้นทุกขณะ ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายกองทัพ จากการที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ถูกหมายเรียกคดีความมั่นคง จากนั้นก็เกิดกระแสสื่อสังคมออนไลน์เรียกร้องให้ เซฟธนาธร พร้อมไปกับกระแสลงชื่อ การถอดถอน กกต. แรงขึ้นทุกขณะ
การเมืองเมื่อปี 2549 ก็เป็นอย่างนี้ การเมืองเมื่อปี 2535 ก็เป็นแบบนี้ มีการปลุกม็อบทางมือถือ แต่ปัจจุบัน สื่อออนไลน์ กลายเป็นอาวุธสำคัญ ที่มีการสื่อสารได้อย่างรวดเร็วเป็นไฟลามทุ่ง ไม่มีอาวุธใดๆที่จะต้านทานแม้แต่ปลายกระบอกปืนก็ตามทีเถอะ
ประเทศไทยกำลังจะเกิด ปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับ ทักษิณ ชินวัตร กำลังจะเกิดกับ ธนาธร และจะกลายเป็นปัญหาของชาติบ้านเมือง ถ้าไม่มีทางออกเอาไว้ล่วงหน้า
ประเทศจะถึงทางตัน.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562
https://www.thairath.co.th/election