หลังโดนกระแสถล่มหนัก เรื่องความผิดพลาดบกพร่องในการบริหารจัดการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.เมื่อ 24 มี.ค.
เจอกระหน่ำจับผิดจากโลกโซเชียล ป้อนข้อมูลปัญหาต่างๆในการเลือกตั้ง ทั้งที่เกิดขึ้นจริง และกุข่าวปล่อยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับปัญหาบัตรเลือกตั้ง การรายงานผลการนับคะแนน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ บัตรดี บัตรเสีย บัตรโหวตโน ที่มีตัวเลขลักลั่น
ตั้งเป้าชี้นำว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่มีความเป็นกลาง จัดการเลือกตั้งไม่โปร่งใส เอนเอียงเข้าข้างพรรคการเมืองที่สนับสนุน คสช.
จุดประเด็น “เลือกตั้งสกปรก” ดิสเครดิตทำลายความน่าเชื่อถือ
ปลุกเร้ากระแสลามขยายถึงขั้นมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอน กกต.
ผสมโรงไปกับการที่นิสิตนักศึกษาพลังบริสุทธิ์จากมหาวิทยาลัยต่างๆออกแถลงการณ์กดดันให้ กกต.ชี้แจงขั้นตอนการเลือกตั้ง ตรวจสอบนับผลคะแนนอย่างละเอียด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตโปร่งใส และแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดบกพร่องที่เกิดขึ้น
แน่นอน ความผิดพลาดบกพร่องในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการรายงานผลคะแนนแบบเรียลไทม์ ที่มีปัญหาระบบรวน จนเกิดความสับสนตัวเลขผู้ใช้สิทธิระหว่างรายงาน ไม่ตรงกับจำนวนผู้ใช้สิทธิเมื่อนับคะแนนครบ 100%
การขนบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่เกิดความล่าช้าจนกลายเป็นบัตรที่ไม่นำมานับคะแนน ปมบัตรเขย่ง จำนวนบัตรที่ใช้ในการเลือกตั้งกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกัน
ปัญหาต่างๆนานาเหล่านี้ ผนวกกับการสร้างกระแสโจมตี กกต. ล้วนทำให้เกิดความหวาดระแวง กระทบต่อความเชื่อมั่นในความเป็นกลางของผู้คุมกฎเลือกตั้ง
ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายใต้การนำของ อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่เป็นมือใหม่ป้ายแดงทั้งชุด ในห้วงแรกๆก็ทำงานแบบอืดอาด เก้ๆ กังๆ
อ้ำๆ อึ้งๆไม่เร่งอธิบายคลายปมข้อสงสัยให้ทันท่วงที ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความเคลือบแคลงเข้าไปใหญ่
กว่าจะฟื้นจากอาการมึนปรับระบบจัดทีมงานออกมาชี้แจงแถลงไข แจกแจงข้อมูลตัวเลขให้สังคมทั่วไปเข้าใจ ก็เกือบสายเกินเพล
ล่าสุด 7 เสือ กกต. คงเริ่มตั้งตัวได้ รีบเปิดฉากไล่สางปัญหากรณีผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. และจำนวน ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน
โดยมีมติ สั่งให้นับคะแนนใหม่ 2 หน่วยเลือกตั้งใน จ.ขอนแก่น เนื่องจากพบว่ามีการขีดคะแนนไม่สัมพันธ์กับการขานคะแนน
พร้อมทั้ง สั่งให้ลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วยเลือกตั้ง ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำปาง 2 หน่วย จ.ยโสธร จ.เพชรบูรณ์ จ.พิษณุโลก และ กทม. จังหวัดละ 1 หน่วย เพราะผลการนับคะแนนมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกับจำนวนผู้มาแสดงตนและไม่ตรงกับลายเซ็นที่ต้นขั้วบัตร โดยจะให้ลงคะแนนเลือกตั้งใหม่หลังสงกรานต์
นี่เป็นแค่ลอตแรกเท่านั้น เพราะยังมีหน่วยเลือกตั้งอื่นๆที่มีปัญหา อยู่ระหว่างการพิจารณาชี้ขาดอีกอื้อ
ยังไม่รวมคิวแจกใบเหลืองใบแดง ที่กำลังจะตามมาอีกกระทอก
เร่งสางปมล้างข้อครหาเลือกตั้งสกปรกให้เห็นกันจะจะไปเลย!!!
“พ่อลูกอิน”
อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562
https://www.thairath.co.th/election