ทีมโฆษก ทบ.โต้ ยื่นชื่อปลด ผบ.ทบ ในโซเชียล ทะลุ 3.8 หมื่นคน เป็นพฤติกรรมไม่สร้างสรรค์ หวังสร้างกระแสชี้นำ ซัด สร้างความแตกแยก ขอปชช.มีสติ แจง กองทัพมีกลไกตรวจสอบ

วันที่ 4 เม.ย. พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การลงชื่อถอดถอนผู้บัญชาการทหารบก ในโซเชียล กว่า 3,8000 รายชื่อ ในเว็บไซต์ เช้นจ์ ดอท โออาร์จี เป็นหนึ่งในกิจกรรมในการแสดงออกถึงความไม่พอใจ หรืออาจจะมองถึงเรื่องความขัดแย้ง ดังนั้นสังคมจะต้องพิจารณา เพราะไม่ใช่ไปทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ หากสิ่งใดคิดว่าไม่ดีต่อส่วนรวมหรือประเทศชาติจะมีช่องทางกระบวนการของนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะบางหน่วยงานหากมีเรื่องที่เกี่ยวข้องก็จะมีกระบวนการทางกฎหมายโดยตรงที่จะดำเนินการอยู่แล้ว การล่ารายชื่อทางโซเชียลฯ จะไม่มีผลทางกฎหมาย

พันเอกวินธัย ย้ำว่า ตั้งแต่ปี 2557 ก็มีเรื่องต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น แม้ตั้งแต่เริ่มการจัดระเบียบประเทศ แต่ก็มีบางส่วนหรือบางบุคคลก็ยังมีพฤติกรรมในลักษณะไม่ต่างจากในปัจจุบัน ฉะนั้นสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่เพียงแต่ว่าวิธีการที่จะดูแลกันเป็นวิธีการใหม่เท่านั้นเอง ส่วนหลักๆ คือจะต้องใช้การทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ ยืนยันว่า การดำเนินการของคสช.ไม่เคยทำร้ายประเทศแน่นอน ทำงานเพื่อสังคมและประเทศชาติส่วนรวมเป็นหลัก

พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก มองว่าการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อขอถอดถอน พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ออกจากตำแหน่งในโซเชียล คือ การเซตอัพสร้างกระแสขึ้นมาเป็นการชี้นำ ไม่ได้เป็นการใช้สื่อโซเชียลเพื่อขอความคิดเห็น แต่การตั้งหัวข้อขึ้นมาทำให้มีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เห็นด้วย และส่วนหนึ่งคัดค้าน และสุดท้ายทั้งสองส่วนก็จะมาถกแถลงในโลกโซเชียล ซึ่งมันจะได้ความคิดเห็นที่แตกแยก และใช้วาทกรรมความรุนแรง ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแตกแยกขึ้น ซึ่งลักษณะแบบนี้มันไม่ใช่การสร้างสรรค์ที่ทำให้สังคมมีการใช้เหตุและผล

...

พันเอกหญิงศิริจันทร์ ย้ำว่า สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นไม่ได้ส่งผลดีกับประเทศเพื่อให้เกิดความสงบความเรียบร้อยจะทำให้เกิดความแตกแยกและทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายลักษณะแบบนี้ประชาชนหรือสื่อมวลชนก็ไม่สบายใจกับการลงชื่อสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน และเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ไม่ใช่ประเด็นสาธารณะ ถ้าเรามาสร้างกระแสเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นก็จะต้องมีการเห็นต่างในเรื่องดังกล่าวและเกิดการกระทบกัน ซึ่งการตั้งประเด็นไม่เกิดประโยชน์กับสาธารณะอย่างแท้จริง

พันเอกหญิงศิริจันทร์ ชี้ว่า การถอดถอน หรือปลดออกจากตำแหน่งมีระบบกลไกขั้นตอนอยู่แล้ว อยากให้ประชาชนใช้สติ และถอยออกมาเห็นว่าไม่เกิดประโยชน์กับสาธารณะ