ธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เผยนาทีรับ รังสิมันต์ โรม ขึ้นรถ จากถนนพระราม 4 ไปส่งสวนเงินมีมา เล่ามีรถเจ้าหน้าที่ขับตาม...

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยถึงกรณีนำรถตู้รับ นายรังสิมันต์ โรม ขึ้นรถ ในรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญว่า “เมื่อพูดถึงผลกระทบหลังจากที่โดนมาตรา 116 ต้องยอมรับว่า ผมเดือดร้อน ในแง่ของความเสียเวลา มีผลกระทบกับการใช้ชีวิต แต่ไม่ได้รู้สึกเป็นกังวล เรารู้อยู่แล้วตั้งแต่ตอนตั้งพรรคว่าวันนี้จะมาถึง มันไม่สนุกหรอกครับกับการตั้งพรรคขึ้นมา ที่เป็นศัตรูกับคนที่มีอำนาจทั้งปืน ทั้งรถถัง ทั้งกฎหมาย ทั้งคุกตะราง มันไม่สนุกแน่นอนที่คุณจะตั้งพรรคขึ้นมาแล้วต้องต่อสู้กับคนพวกนี้ แล้วคุณรู้อยู่แล้วว่าจำเป็นต้องมีพรรคพวกนี้ เพราะไม่มีคนทำ ดังนั้น ไม่สนุกแน่นอน และคุณต้องต่อสู้กับอำนาจไม่เป็นธรรมพวกนี้ โดยที่คุณไม่มีอะไรเลย”

“ตอนนี้ผมมี 3 คดี ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา หากถามว่า เกินความคาดหมายไหม ไม่ได้เกินความคาดหมายนะครับ และผมก็เตรียมใจมาพอสมควร ยืนยันว่าเตรียมใจมาพอสมควรสำหรับคืนวันแบบนี้” 

...

“ผมไม่ใช่คนแรกที่โดน ม.116 เพราะที่ผ่านมา มีคนในสังคมเป็นร้อยที่โดน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และคดีอื่นๆ มีนักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ มีนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยให้แก่คุณ ให้ผม ให้ลูกหลานของเรา ให้คนส่วนใหญ่ในสังคม พวกเขาเหล่านั้นบังเอิญเป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่ใช่หัวหน้าพรรคการเมือง ไม่ใช่คนใหญ่คนโต เพราะฉะนั้น เวลาเขาโดน ม.116 มีใครสนใจเขามั้ย” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่า นึกออกหรือไม่ว่าเหตุการณ์ตอนปี 2558 เกิดเหตุอะไรขึ้น? นายธนาธร ตอบว่า “ตอนแรกผมไม่รู้ว่าหมายเรียกนี้มาจากเรื่องอะไร เพราะในหมายเรียกไม่ได้ระบุว่ามาจากเหตุอะไร กระทั่งมีนักข่าวมาบอกว่า ได้ไปถามมาให้แล้วว่ามาจากเรื่องอะไร ผมจึงได้รู้”

เมื่อถามต่อว่า ใช่เรื่องที่คุณธนาธร ให้ความช่วยเหลือนักศึกษาจำนวนหนึ่งที่โดนหมายจับในเหตุการณ์ปี 2558 ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ รังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ หรือไม่? นายธนาธร ตอบว่า เขาว่าว่าเป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นเรื่องนี้ ผมเล่าให้ฟังได้เลย เพราะสนุกมาก

รังสิมันต์ โรม
รังสิมันต์ โรม

นายธนาธร เริ่มเล่าว่า “เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 มีเยาวชนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า New Democracy Movement (NDM) มาเคลื่อนไหวที่หน้าหอศิลป์ กรุงเทพฯ เพื่อมารณรงค์ให้ทุกคนเห็นถึงการยึดอำนาจ การทำรัฐประหารครบรอบ 1 ปี ณ วันนั้น คำสั่งปลดล็อกการเคลื่อนไหวทางการเมืองยังไม่ได้ยกเลิก การชุมนุมเกินกว่า 5 คน ยังมีความผิด ตามคำสั่งของ คสช.”

“เยาวชนกลุ่มนี้ จึงโดนฟ้อง แต่ท่าไหนยังไงไม่รู้ พวกเขาต้องเข้าไป สน.ปทุมวัน ในวันที่ 24 มิถุนายน และในวันนั้นเอง มีประชาชน 1-2 ร้อยคน ไปนั่งให้กำลังใจอยู่ที่หน้า สน. ในคืนวันที่ 24 มิถุนายน ผมเป็นหนึ่งคนที่เล็งเห็นว่า ในช่วงเวลานั้น เราต้องเข้าไปให้กำลังใจเยาวชนคนกลุ่มนี้”

“ณ วันนั้น ผมไม่ได้สนิทสนมอะไรกับ คุณรังสิมันต์ เห็นหน้าค่าตากันตามงานต่างๆ แต่ว่าไม่ได้สนิทชิดเชื้อ แต่สิ่งที่ไปไม่ใช่ว่ารู้จักกับน้องๆ เยาวชน แต่สิ่งที่ทำให้ผมไปหน้า สน.ปทุมวัน วันนั้น ในเย็นวันนั้น ก็คือความรู้สึกว่า สิทธิเสรีภาพเป็นของประชาชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน”

“ผมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร และเมื่อมีคนรณรงค์ต่อต้านการทำรัฐประหาร แล้วโดนจับกุมด้วยคดีความ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนธรรมดาต้องลุกขึ้น และไปปกป้องพวกเขา นั่นก็คือแรงผลักดันที่ทำให้ผมไปอยู่ที่หน้า สน.ปทุมวัน ในคืนนั้น”

“เมื่อผมไปถึงที่นั่น ฟ้าก็มืดแล้ว มีคนในบริเวณนั้นประมาณ 200 คน ซึ่งมีบางคนที่ผมรู้จัก และก็ไปยืนเป็นหนึ่งใน 2 ร้อยคนนั้น ซึ่งพวกเขาอยู่กับอย่างสงบ ไม่มีเหตุร้ายแรง ไม่ได้มีการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ สุดท้ายก็มีการปล่อยตัวเยาวชนกลุ่ม NDM ออกมา เข้าใจว่าไม่มีการฝากขัง เด็กๆ เหล่านี้ก็เดินออกมาจาก สน.ปกติ ตอนนั้นน่าจะประมาณ 3-4 ทุ่มแล้ว ทุกคนก็เข้าไปแสดงความยินดีกับเยาวชนเหล่านี้ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน”

“วันนั้น ผมมีคนขับรถ ผมก็ขึ้นรถของผมเพื่อจะกลับบ้าน แต่พอขับออกไปตรงถนนพระราม 4 ก็เจอผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ตรงถนนพระราม 4 ผมก็ เฮ้ย นี่มัน รังสิมันต์ โรม ผมก็เลยเปิดกระจกออกไป แล้วถามว่า เฮ้ย คุณจะไปไหน ทำไมมาเดินคนเดียว ซึ่งได้รับคำตอบว่าเขากำลังจะเรียกแท็กซี่ ผมก็อ้าว อย่างนี้คุณจะไปไหน คุณขึ้นมา เดี๋ยวผมจะไปส่งให้ ด้วยความที่เราอยากจะดูแลเขา เพราะเขาเพิ่งออกมาจากโรงพัก หลังจากที่ไปต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพมา และเขาก็บอกว่า เขากำลังจะไปสวนเงินมีมา”

“พอไปถึงสวนเงินมีมา ผมได้เข้าไปนั่งคุยด้านในด้วย แต่ในระหว่างนั้น รถตู้ของผมดันไปจอดตรงทางเข้า คนขับรถก็เข้ามาบอกผมว่า มีรถเจ้าหน้าที่ตามเรามา แต่ไม่แน่ใจว่ามาจากหน่วยไหน รถคันนี้วนอยู่ 2-3 รอบ แต่เข้าไปไม่ได้ เพราะทางเข้ามันแคบ ส่วนผมเอง อยู่ไม่นานก็กลับ” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่า สนิทสนมกับ รังสิมันต์ โรม มาก่อนหรือไม่? นายธนาธร ตอบว่า ในแง่ของเพื่อนสนิทมานั่งคุยงานอะไรกันอย่างนั้น ไม่มี ต้องบอกว่า ความสัมพันธ์ของผมกับรังสิมันต์ ณ วันนั้น ไม่เหมือนกับวันนี้ วันนี้เขาเป็นผู้สมัคร ส.ส. เรารู้จักมักคุ้นกัน.