(ภาพจาก REUTERS)
ปีนี้เป็นปีแห่งการเลือกตั้งจริงๆ วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ยูเครน มีการ เลือกตั้งประธานาธิบดี โดยมีผู้สมัครถึง 39 คน แต่มีตัวเต็งเพียง 3 คน การเลือกตั้งครั้งนี้ชาวยูเครนตื่นตัวออกไปใช้สิทธิกันมาก ผลการเลือกตั้งรอบแรกที่ กกต.ยูเครน ประกาศในวันรุ่งขึ้น (ไม่เก็บดองข้ามวันข้ามคืนแบบ กกต.ไทย) “ดาราตลก” โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี วัย 41 ปี เพิ่งลงเลือกตั้งครั้งแรกและไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองเลย ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 30.4% ชนะ ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครน ซึ่งได้คะแนนเพียง 17.8% อดีตนายกฯยูเครน ยูเลีย ตีโมเชนโก ได้ 14.2%
ต้องถือเป็น ตลกร้าย ที่ ประชาชนชาวยูเครน มอบให้กับ ผู้นำยูเครน ตอกย้ำให้เห็นว่า เขาเบื่อนักการเมืองน้ำเน่ารุ่นเก่าที่เก่งการทุจริตคอร์รัปชัน เต็มทีแล้ว
เซเลนสกี เป็น ดาราตลก ในวงการบันเทิงยูเครน เคยรับบทเป็น ประธานาธิบดียูเครน ในซีรีส์ทีวีเรื่อง Servant of the People ข้ารับใช้ของประชาชน ในเรื่อง เซเลนสกี รับบทเป็น คนธรรมดาสามัญที่กล้าต่อสู้กับการคอร์รัปชันในประเทศ จนได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เขามุ่งมั่นที่จะ “เปลี่ยนจากละครให้เป็นชีวิตจริง”
คนที่เลือก เซเลนสกี ส่วนใหญ่เป็น คนรุ่นใหม่ ที่อยากได้ ผู้นำหน้าใหม่ แทนผู้นำหน้าเดิมๆที่มีข่าวคาวทุจริตคอร์รัปชัน แม้ว่า เซเลนสกี จะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ไม่เคยหาเสียงว่าจะทำอะไรบ้างเมื่อได้บริหารประเทศ แต่หลังชนะการเลือกตั้งรอบแรก เซเลนสกี ได้กล่าวกับผู้สนับสนุนว่า เขาสัญญาว่ายูเครนจะต้องปลอดจากการทุจริตและสินบน
ประธานาธิบดีโปโรเชนโก ยอมรับความพ่ายแพ้ว่าเป็น “บทเรียนอันรุนแรง” จาก “คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่” ยอมรับว่า ประชาชนยูเครนไม่พอใจ เรื่องมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ตกต่ำ การทุจริตคอร์รัปชันที่กลาดเกลื่อน ทำให้คนไปเลือก เซเลนสกี ผลการสำรวจของ แกลลอพโพล เมื่อเดือนมีนาคมก่อนการเลือกตั้งพบว่า ชาวยูเครนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลโปโรเชนโกเพียง 9% เท่านั้น ต่ำที่สุดในโลก
...
เนื่องจาก การเลือกตั้งรอบแรก ไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงเกิน 50% ดังนั้น ผู้ที่ได้คะแนนที่ 1 ที่ 2 จะต้องไปสู้กันในการ “เลือกตั้งรอบ 2” ที่จะมีขึ้นใน วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ผมเชื่อว่า ดาราตลกชนะแน่นอน เพราะคะแนนรอบแรกทิ้งห่างกันมาก
ประเทศยูเครน คนไทยคงได้ยินชื่อในสื่อมาพอสมควร กองทัพไทย เคยไปซื้อ รถถังยูเครน จนเป็นข่าวฮือฮาจากปัญหาต่างๆ การส่งมอบก็ล่าช้า คนซื้อก็ยังเป็นรัฐมนตรีอยู่
ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดียูเครนหนึ่งวัน วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม ก็มี การเลือกตั้งประธานาธิบดีสโลวะเกีย ผลการเลือกตั้งก็ออกมาแบบเดียวกับ ยูเครน คือ ซูซาน ชาปูโตวา ทนายหญิงวัย 45 ปี นักการเมืองหน้าใหม่ที่เป็นนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมจนได้ฉายาว่า “เอริน บร็อกโควิช แห่งสโลวะเกีย” ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน ได้รับเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสโลวะเกีย ด้วย คะแนนเสียงท่วมท้นถึง 58% เอาชนะ มารอส เชฟโควิช รองประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ที่อยู่ในแวดวงการเมืองมานานถึง 25 ปีไปอย่างสบาย
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน ชาวสโลวะเกีย เทคะแนนเสียงให้เธอ อย่างท่วมท้น นักวิเคราะห์มองว่า เกิดจากความเบื่อหน่ายของประชาชน โดยเฉพาะ “กลุ่มคนรุ่นใหม่” และ “กลุ่มคนที่มีการศึกษาสูง” ที่มีต่อ “กลุ่มอำนาจเก่า” ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในสโลวะเกียที่ชะลอตัว สวนทางกับอัตราคอร์รัปชันที่พุ่งสูงขึ้น ฟังดูคล้ายๆกับประเทศแถวนี้
การที่ คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ยูเครน และ สโลวะเกีย ตัดสินใจ เลือกผู้นำรุ่นใหม่ที่สดใหม่ ไม่มีประวัติด่างพร้อยมัวหมองทุจริตคอร์รัปชัน เพราะเขาเบื่อนักการเมืองน้ำเน่ารุ่นเก่าเต็มที เบื่อการหาเสียงด้วยประชานิยมซ้ำซาก เบื่อการทุจริตคอร์รัปชันเดิมๆ จึงตัดสินใจเลือกคนหน้าใหม่ เพื่อ เปลี่ยนสิ่งที่เห็นในละครให้เป็นชีวิตจริง อย่างที่ เซเลนสกี วาดฝัน วันนี้ฝันของชาวยูเครนและสโลวะเกียเป็นจริงขึ้นมาแล้ว.
“ลม เปลี่ยนทิศ”