นิสิต-นักศึกษาขยายวง เพื่อชาติติงคสช.อย่าจุ้น พท.ถกยอด ‘ปาร์ตี้ลิสต์’
กลุ่มนิสิต-นักศึกษาทั่วประเทศเริ่มขยายวงกดดัน กกต. องค์การนิสิต-สโมสรนิสิต ม.เกษตรฯ ทั้ง 15 คณะ ออกแถลงการณ์จี้ กกต. รีบตรวจสอบรับรองผลเลือกตั้งสุจริต-โปร่งใส-เที่ยงธรรม “ศรีสุวรรณ” เริ่มตั้งโต๊ะล่าชื่อถอด ขีดเส้น 8 เม.ย. ส่ง ป.ป.ช.สอบ เพื่อชาติติง คสช.อย่าจุ้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชน ด้านสำนักงาน กกต.โต้ข่าวปลอมโซเชียลจ่อฟ้องคนแชร์ พท.ถกคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ไว้ใจสูตร กกต. ฉะหยุดใช้เล่ห์ สืบทอดอำนาจ “อนุสรณ์” ย้อนแสบ พปชร.ไม่ได้ดังใจจะชัตดาวน์อีกไหม “นิพิฏฐ์” ย้ำจุดจบของนักซื้อเสียงคือคุก มั่นใจพัทลุงได้เลือกตั้งใหม่ ปชป.ทิ้งไพ่รักษาฐานที่มั่นใต้ “สาทิตย์” เนื้อเต้นอยากร่วมหอ “ลุงตู่” กองเชียร์สวนหงายเงิบอยากให้เป็นฝ่ายค้าน โพลชี้ชัดคนผิดหวังจัดเลือกตั้ง ตร.ขวางกิจกรรมหวิดเดือด
กระแสกดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากการบริหารจัดการเลือกตั้งที่ส่อในทางไม่โปร่งใส ยังคงมีต่อเนื่อง ล่าสุด องค์การนิสิตมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ และสโมสรนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้ง 15 คณะ ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เร่งรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม
“ศรีสุวรรณ” เริ่มล่าชื่อถอด กกต.
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ร้าน CHA SRISUWAN ตลาดยิ่งเจริญ ย่านสะพานใหม่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ตั้งโต๊ะให้ประชาชนและผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมเข้าชื่อถอดถอน 7 กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 (1) ข้อหาจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เหตุผลการล่าชื่อถอดถอน กกต.มีหลายประเด็น ทั้งเรื่องบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากประเทศนิวซีแลนด์ โดยไม่ดำเนินการเอาผิดผู้ที่ทำให้บัตรมาถึงล่าช้า การเลื่อนและประวิงเวลาประกาศผลคะแนนเลือกตั้ง ปล่อยให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น 4.4 ล้านใบ โดยไม่สมเหตุ สมผล กรณีบัตรเขย่งเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จึงตั้งโต๊ะให้ประชาชนเข้าชื่อถอดถอนออกจากตำแหน่ง เมื่อได้ 2,000-3,000 รายชื่อ จะยื่นให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนเอาผิดในวันที่ 8 เม.ย. ส่วนที่ คสช.มองว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ กกต.ลาออก เป็นการสร้างความวุ่นวายนั้น ทุกวันนี้ไม่เห็นมีอะไรวุ่นวาย การชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชนบนพื้นฐานกฎหมาย
...
องค์กรนิสิต ม.เกษตรฯ จี้โปร่งใส
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มนิสิต นักศึกษา ที่ออกมาเรียกร้องให้ กกต. เร่งคลายข้อสงสัยต่อกระบวนการจัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มี.ค. องค์การบริหาร องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และสโมสรนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ทั้ง 15 คณะ ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบ และรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 24 มี.ค.โดยเร็ว ด้วยความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม เพื่อให้เกิดความชัดเจน บริสุทธิ์ ยุติธรรม และยังเป็นการรักษาจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้ประเทศไทยสามารถยืนอยู่ได้บนเวทีโลกอย่างมีศักดิ์ศรี ทั้งนี้มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ องค์การบริหาร องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และสโมสรนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ทั้ง 15 คณะ เป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางการเมืองตามหลักการประชาธิปไตย มีนโยบายสนับสนุนให้นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระบนพื้นฐานของความแตกต่างที่ไม่แตกแยก โดยท้ายแถลงการณ์ระบุว่า “ประชาชนคือเจ้าของประเทศ เกษตรศาสตร์คือภาษีของประชาชน”
ขยายวงมหาลัยทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ผ่านมา กลุ่มกิจกรรมคนรุ่นใหม่ องค์การนิสิต นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วประเทศ กว่า 20 แห่ง อาทิ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สภานิสิตจุฬาฯ, สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, สหภาพ นักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย, องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น, องค์การบริหารกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยพะเยา, องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่, องค์การบริหารองค์การ นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เป็นต้น ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการตรวจสอบ กกต. และให้แสดงความรับผิดชอบ
“จ่านิว” มาตามนัดตั้งโต๊ะอนุสาวรีย์
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สกายวอล์ก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม นำโดยนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว น.ส.อรัญญิกา จังหวะ นายธนวัฒน์ วงศ์ไชย นิสิตคณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตประธานสภานิสิตจุฬาฯ นายพริษฐ์ ชิรารักษ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลขาธิการสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย จัดการชุมนุมแสดงพลังในแบบ flash mob พร้อมตั้งโต๊ะแจกแบบฟอร์ม เข้าชื่อถอดถอน กกต. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 (1) โดยมีแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เช่น นายอานนท์ นำภา น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ พร้อมมวลชนคนเสื้อแดงอีกราว 50 คน เข้าร่วม ชูป้ายโจมตีและตะโกนขับไล่ กกต. โดยมีประชาชนที่ผ่านไปมาจำนวนหนึ่งถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน มาร่วม ขณะที่อีกส่วนแสดงความไม่พอใจ
ขู่ยกระดับเคลื่อนไหวกดดัน
ต่อมานายสิรวิชญ์แถลงข้อเรียกร้องต่อ กกต. ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ กกต. มีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองที่ คสช.สนับสนุน ทางกลุ่มขอเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการดังนี้ 1.แสดงออกถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นอิสระ ปราศจากการครอบงำจาก คสช. 2.เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในทุกหน่วยเลือกตั้งโดยละเอียด ภายในวันที่ 1 เม.ย. ถ้าไม่ดำเนินการทางกลุ่มจะยกระดับการเคลื่อนไหว 3.นำบัตรเลือกตั้งนอกเขตที่ส่งไปผิดเขตเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ส่งไปยังสถานที่นับคะแนนไม่ทัน นำมานับเป็นคะแนน ทางกลุ่มยังคงเดินหน้าล่ารายชื่อถอดถอน กกต.ต่อไป ทั้งทาง Change.org และการตั้งโต๊ะในสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ครบ 1 ล้านรายชื่อ ตามที่ประกาศไว้
ตร.สกัดม็อบที่ราชประสงค์
อีกด้านที่บริเวณแยกราชประสงค์ นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง นางสุดสงวน สุธีสร หรือ อ.ตุ้ม อดีตอาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวการเมือง และกลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้ง ได้ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อริเริ่มเป็นผู้ร้องต่อ ป.ป.ช. ยื่นถอดถอน กกต. จากการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่โปร่งใส มีประชาชนทยอยร่วมลงชื่อต่อเนื่อง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สน.ลุมพินี และกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน บกน. 5 รวมกว่า 100 นาย แต่ปรากฏว่าทันทีที่เริ่มกิจกรรมเจอกับการขัดขวางไม่ให้ใช้สถานที่ และยึดเครื่องเสียง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจที่ยังคงมีปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนตามกฎหมาย
ติง คสช.อย่าจุ้นตรวจสอบ กกต.
นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ตามที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ออกมา ตำหนิกลุ่มรวบรวมรายชื่อถอดถอน กกต.นั้น สงสัย พ.อ.วินธัยเป็นโฆษก กกต.อีกตำแหน่งหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ผบ.เหล่าทัพเคยแสดงความคิดเห็นต่อ กกต.ในทำนองเดียวกัน สร้างความน่าสงสัยในความเชื่อมโยงระหว่างกองทัพ คสช. และ กกต. ทั้งที่สังคมมองการทำงานของ กกต.ชุดนี้เห็นข้อผิดพลาดมากมายเข้าขั้นร้ายแรง เกิดข้อสงสัยว่าโกงเลือกตั้งหรือไม่ อาจทำการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาเริ่มตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเป็นการแสดงออกตามช่องทางกฎหมาย มิได้สร้างความวุ่นวายแตกแยก ไม่ควรมาแสดงอาการขัดขวาง เพราะไม่เห็นว่าจะสร้างความวุ่นวายแตกแยกอย่างไร แทนที่กองทัพจะจับตาความเคลื่อนไหวของประชาชน ควรไปตรวจสอบการทำงาน กกต. อย่าให้สังคมสงสัยว่ากองทัพ คสช. และ กกต. คือพวกเดียวกัน ไม่อยากคิดว่า กกต.ช่วย คสช. สืบทอดอำนาจ ตามที่มีการตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย
กกต.โต้ข่าวปลอมโซเชียลจ่อฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีสื่อออนไลน์เผยแพร่ข้อมูลว่าบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไม่ได้ถูกนำมานับรวมเป็นคะแนนส่อไปในทางทุจริตว่า สำนักงาน กกต.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ปรากฏว่าภาพดังกล่าวเป็นถุงเมล์ของกระทรวงการต่างประเทศที่ใช้บรรจุบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรที่คัดแยกไว้เรียบร้อยแล้ว เตรียมนำส่งไปยังสถานทูต สถานกงสุลในประเทศต่างๆ มิใช่เป็นกรณีตามที่กล่าวหา คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการเผยแพร่ หรือแชร์คลิป อาจเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สำนักงาน กกต.เตรียมดำเนินคดีกับผู้โพสต์ภาพและส่งข้อมูลต่อไป รวมถึงกรณีที่มีข่าวทางสื่อออนไลน์พาดหัวว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัด! ไม่ขอปรองดอง ประเทศไทยที่มีผู้นำโกง ดันถอด กกต.ชุดเดิมออก” ตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้รับแจ้งว่าไม่น่าจะเป็นข่าวจริง
สมช.ปูดกลุ่มป่วนกดดัน กกต.
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ไม่น่าจะมีอะไร แม้มีบางกลุ่มพยายามกดดัน กกต. เมื่อถามว่ามองว่ามีอะไรมากกว่าการออกมากดดันการทำหน้าที่ของ กกต.หรือไม่ พล.อ.วัลลภตอบว่า คิดว่าแต่ละฝ่ายอยากให้ กกต.ทำหน้าที่ให้ ดีที่สุด แต่เป็นไปได้ว่ามีบางกลุ่มพยายามใช้เหตุตรงนี้เป็นช่องทางสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวเองสร้างความวุ่นวายปลุกให้เกิดกระแสออกมากดดัน กกต.ให้มาก ต้องรอดูไปอีกระยะ เชื่อว่าช่วงนี้ยังไม่มีอะไร เพราะ กกต.ทำตามขั้นตอนอยู่
พท.ถกสูตรหา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 1 เม.ย. เวลา 10.00 น.แกนนำพรรคและฝ่ายกฎหมายของพรรค นัดหารือข้อกฎหมายเกี่ยวกับวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ขณะนี้ยังเป็นปัญหาอยู่ มองว่าสูตรการคำนวณของ กกต.ที่เป็นประเด็นขณะนี้ อาจไม่ถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้ง ทางพรรคจะหารือกัน พร้อมเอาตัวเลขมาคำนวณตามกฎหมาย เพื่อดูว่าแต่ละพรรคควรจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเท่าไหร่ ขณะเดียวกันต้องรอให้ กกต.ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงก่อน จะมาคำนวณโดยใช้หลักตามอำเภอใจ เพื่อสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่งคงไม่ได้ ในส่วนของ 7 พรรคที่ประกาศจับมือกันตั้งรัฐบาลนั้น ขณะนี้ยังเป็นไปอย่างมั่นคง ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจะมีงูเห่าเกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ยังมีความพยายามจากฝั่งตรงข้ามดูด ส.ส.ของเรา แต่การประชุมพรรคสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ให้ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมดลงนามในคำปฏิญาณตนว่าจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์อีก ดังนั้นหากใครย้ายไปอยู่ฝั่งตรงข้ามจะเสียคนไปเอง
ฉะหยุดใช้เล่ห์สืบทอดอำนาจ
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ระบุว่า การจัดตั้งรัฐบาลควรเป็นการรวมกลุ่มเพื่อทำความดี ขจัดคนไม่ดีออกไปนั้น พรรคเพื่อไทยมอบสิทธิให้ประชาชนตัดสินใจเลือกคน เลือกพรรคการเมืองที่มองว่าดีที่สุด ไปทำหน้าที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ การเลือกตั้งล่าสุดประชาชนมอบฉันทานุมัติเลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทยมากที่สุด 137 คน ทุกคนย่อมเห็นแล้วว่าประชาชนเลือกใครมาบริหารประเทศ แต่ขณะนี้เกิดความผิดปกติมากมาย การกระทำที่กำลังเกิดขึ้นเป็นการไม่ไว้ใจ ไม่เคารพเสียงประชาชน วันนี้รัฐบาล องค์กรอิสระ ตำรวจ อัยการ แม้กระทั่งกระบวนการยุติธรรม ต้องกลับไปมองตัวเองว่ายังได้รับความเชื่อถือจากประชาชนหรือไม่ หากยังฝืนกระทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะเหลือองค์กรใดที่ยึดหลักการให้โอกาสคนดีได้สร้างความเจริญให้บ้านเมือง ป้องกันคนไม่ดีมาสร้างความเสียหายแก่สังคม จะเห็นได้ว่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มีการใช้อำนาจรัฐไร้ขีดจำกัด แต่ยังไม่สามารถทำให้ประชาชนไว้ใจได้ ผู้มีอำนาจและต้องการสืบทอดอำนาจ ควรหยุดเล่ห์เหลี่ยมเอาเปรียบทางการเมือง แล้วกลับมาทำประโยชน์ให้ประชาชนจริงๆจะดีกว่า
ย้อน พลังประชารัฐจะชัตดาวน์อีกไหม
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่าความพยายามจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเป็นการสู้เฮือกสุดท้ายนั้น การประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ มีมาตั้งแต่ก่อนรณรงค์หาเสียง และผลเลือกตั้งพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมีคะแนน 16 ล้านเสียง ขณะที่พรรคพลังประชารัฐได้เพียง 8 ล้านเสียง เป็นสิ่งบ่งชี้ชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางต่อต้านการสืบทอดอำนาจ ปฏิเสธการเข้ามาเป็นนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ ในทางกลับกันต้องถามว่า พรรคพลังประชารัฐเจรจาต่อรองพรรคต่างๆ จนได้เสียงเพิ่มขึ้นจาก 117 ที่นั่งแล้วหรือไม่ ถ้าไม่สามารถนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคพลังประชารัฐจะก่อม็อบชัตดาวน์ประเทศอีกหรือไม่ เพราะแกนนำ กปปส.หลายคน วันนี้เป็นแกนนำในพรรคพลังประชารัฐผสานเสียงกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขู่ประชาชนจะนำม็อบสู่ท้องถนนอีกครั้ง ก่อนนายสมศักดิ์กล่าวหาคนอื่น ลองไปถามพวกตัวเองก่อนดีกว่า เพราะถ้าไม่มีเสียง ส.ว. 250 คน และเสนอแรงจูงใจเพื่อสร้างงูเห่า โอกาสการเป็นรัฐบาลของพลังประชารัฐก็เลือนลางเต็มที
พลังประชารัฐโวกล่อมพรรคเล็กอยู่หมัด
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคมั่นใจว่าจะรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน เพราะพรรคการเมืองที่เราประสานต้องการให้ประเทศสงบเดินไปข้างหน้า เป็นการทำความดีเพื่อบ้านเมืองและประชาชน ไม่ให้คนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายมาปกครองบ้านเมือง มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหัวหน้าพรรคเล็กบางพรรคที่ได้ 1 เสียง ต่างสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ทำงานต่อ ส่วนใหญ่มองสถานการณ์แบบนี้ไม่มีใครเหมาะเป็นนายกฯเท่า พล.อ.ประยุทธ์
“สุวิทย์” ไม่วิตกแกนนำตั้งรัฐบาลชัวร์
ที่ จ.สงขลา แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมกรรมการบริหารพรรคและผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ขึ้นรถแห่ขอบคุณชาวสงขลาที่มอบคะแนนเสียงให้ โดยระหว่างขบวนรถเข้าเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด นายสุวิทย์กล่าวว่า พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขอบคุณชาวสงขลาและชาวใต้ที่สนับสนุนนายกฯลุงตู่เป็นนายกฯต่อ อย่าเพิ่งวิตกกังวลเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลมากเกินไป ช่วงนี้ควรให้ความสำคัญกับพระราชพิธีก่อน หลังจากนั้นจะชัดเจนมากขึ้น อยากให้เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ไม่นิ่งนอนใจ ในช่วง 6 เดือนหลังเลือกตั้ง เมื่อจัดตั้งรัฐบาลต้องสร้างผลงานอย่างรวดเร็ว
“นิพิฏฐ์” ย้ำจุดจบนักซื้อเสียง
วันเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “การทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง หลังผมออกมาเปิดเผยคลิปและหลักฐานการทุจริตปูพรมซื้อเสียงใน จ.พัทลุง ถ้าท่านเป็นนักการเมืองที่มาจากการซื้อเสียงประชาชน ท่านเริ่มต้นอย่างนี้ ท่านก็รู้ว่าถ้าท่านพลาด จุดจบท่านต้องติดคุก และถูกยึดทรัพย์ตามกฎหมายฟอกเงิน อย่าโกรธผมนะครับ ถือว่าเราต่างคนต่างทำหน้าที่ ท่านซื้อเสียงผมก็หาทางจับท่านจนได้ จะหาว่าผมไม่เตือนก็ไม่ได้ ผมเตือนมาตลอด ผมว่าแฟร์นะ”
มั่นใจพัทลุงได้เลือกตั้งใหม่
ต่อมานายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้ (31 มี.ค.) จะเดินทางเข้าไปให้ปากคำกับกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จากกรณีที่ได้ร้องเรียนถึงการทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา มีทุจริตปูพรมในหลายเขตเลือกตั้งในภาคใต้ สำหรับเขตเลือกตั้ง จ.พัทลุง เชื่อมั่นในหลักฐานพยานที่แสดงให้สื่อดูไปแล้วบางส่วน และยังมีอีกที่มอบให้ กกต. เชื่อว่าจะมีผลให้มีการเลือกตั้งใหม่อย่างแน่นอน
“สมชัย” บี้หาต้นตอบัตรเขย่ง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ และอดีต กกต. กล่าว ว่า ขอเรียกร้องให้ กกต.แสดงความชัดเจนตรวจสอบที่มาของบัตรเขย่ง 9 ใบที่สังคมยังคงแคลงใจ ว่ามีปัญหาในหน่วยเลือกตั้งใดใน 9.2 หมื่นหน่วยทั่วประเทศ กกต.สามารถตรวจสอบได้ เพื่อนำมาประเมินว่าการทำหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง มีปัญหาเฉพาะจังหวัด หรือมีกระจายไปทั่วประเทศ หลังมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดจากการเวียนเทียนบัตรเลือกผู้สมัคร ส.ส. ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายการซื้อเสียง เชื่อว่า กกต.กลางสามารถตรวจสอบที่มาของบัตรเขย่งได้ไม่ยาก ไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 2 วัน นอกจากนี้ ควรพิจารณานำบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากประเทศนิวซีแลนด์จำนวน 1,542 ใบ มาเปิดนับคะแนนเพื่อใช้คำนวณจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ หลังจากมีการใช้สัดส่วนจากทุกคะแนนตกน้ำที่มีจุดทศนิยม ทุกพรรคการเมืองจะมีส่วนได้เสียด้วย
ประชาธิปัตย์ทิ้งไพ่รักษาฐานที่มั่นใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า จากการหารือรอบนอกของคณะผู้บริหารและผู้อาวุโสในพรรค เห็นว่าหลักโครงสร้างการบริหาร พรรคในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีจุดอ่อน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ เพราะตำแหน่งหลักคือ หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ไม่ใช่คนในพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่คิดว่าพื้นที่ภาคใต้เปรียบเป็นเมืองหลวงของพรรคประชาธิปัตย์ ส.ส.ในภาคใต้ดูแลกันเองได้ ขนาดส่งเสาไฟฟ้าลงยังสอบได้ โดยไม่ต้องมีแกนนำระดับหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรคมาดูแล แต่หลังความพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ฐานหลักในพื้นที่ กทม.ถูกล้างบางจนสูญพันธุ์ ไม่มี ส.ส.แม้แต่คนเดียว ขณะที่ภาคใต้ก็ถูกพรรคอื่นเจาะฐานจนแตก จาก 50 เขต เหลือ ส.ส. แค่ 22 เขต ผู้ใหญ่ในพรรคจึงชูหลักคิดว่าการเลือกหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคครั้งนี้ ตำแหน่งหลักทั้งสองนี้ อย่างน้อยต้องมีหนึ่งตำแหน่งที่เป็น ส.ส.ใต้ เพื่อเร่งกอบกู้สถานการณ์เรียกศรัทธาให้กลับ คืนมาการปิดจุดอ่อนนี้จำเป็นต้องมีหัวหน้า หรือเลขาธิการพรรค อย่างน้อย 1 ตำแหน่ง อยู่กับ ส.ส.ภาคใต้
“สาทิตย์” เนื้อเต้นร่วมหอ “ลุงตู่”
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ว่าที่ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า พรรคมีเรื่องสำคัญคือเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ อีกเรื่องคือพรรคจะไปทางไหน ระหว่างร่วมรัฐบาลกับ “บิ๊กตู่” หรือเป็นฝ่ายค้านกับพรรคเพื่อไทย-อนาคตใหม่ “ผมได้ให้ความเห็นกับที่ประชุมว่า เราน่าจะสนับสนุนให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้ทำงานได้ เพื่อมาแก้ปัญหาประชาชน และต้องดูแลประเทศจากคนที่คิดไม่ดี แต่ควรเน้นว่าประชาชนต้องการแก้ปัญหา ราคายาง ปาล์ม ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง เป็นหลัก และยังเสนอว่า ผลจากการแพ้เลือกตั้ง พรรคต้องถอดบทเรียนและมาปฏิรูปพรรคกันใหม่ ท่านคิดอย่างไร บอกผมด้วยครับ” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้แสดงความเห็นท้ายโพสต์ดังกล่าวจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต้องการให้ประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบมากกว่าเชียร์ให้ร่วมรัฐบาล
รวมพลังประชาชาติไทย ดิ้นไล่ “ไอติม” ไปอยู่ อนค.
ด้าน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า กรณีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ผู้สมัคร ส.ส. กทม. หลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านดีกว่าเป็นรัฐบาลที่ไม่สง่างามนั้น “การที่ไอติมขอให้ประชาธิปัตย์ยอมเป็นพรรคฝ่ายค้านอิสระ ฟังแล้วเหมือนจะดี แต่เป็นผลทำให้การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองตรงข้ามฝ่ายทักษิณ ตกอยู่ในสภาพที่เป็นไปเกือบไม่ได้ ความยุ่งยากของประเทศจะเริ่มขึ้นทันที ลืมการร้องเพลงชาติหน้าเสาธงตอนเด็กๆแล้วหรือไอติม ว่าเนื้อเพลงมันว่าอย่างไร หรือไม่ก็ออกไปอยู่อนาคตหมดเสียเลย”
โหร คมช.ชี้ภาพนายกฯชัด พ.ค.
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหร คมช. กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้งว่า การฟอร์มทีมรัฐบาลเลือกนายกฯยังไม่ถึงเวลา ยังต้องรอดูใบเหลือง ใบแดง หลังวันที่ 9 พ.ค. ที่งานพระราชพิธี ผ่านไปแล้ว บอกได้เลยในห้วงเวลานี้ก่อนถึงเดือน พ.ค. การชุมนุมใหญ่การเกณฑ์คนเข้ามาเหมือนแต่ก่อนไม่มีแล้ว แต่ถ้าจะมีเดี๋ยวก็ต้องมีเหตุ คนที่ ออกมาเคลื่อนไหวให้ระวังตัวแล้วกัน ชาติบ้านเมืองคนในประเทศต้องมาก่อน ดูตามโหราศาสตร์แล้วทุกอย่างเป็นไปตามเวลา จะเกิดความก้าวหน้า เป็นระเบียบ ไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาทำหน้าที่ต่อ หรือจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติตามที่บางฝ่ายคาดการณ์ นายวารินทร์ตอบว่า ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง ให้รอดูในช่วงเดือน พ.ค. ภาพทุกอย่างจะชัดเจนตอนนั้น เราจะรู้เลยว่าผู้ที่มีหน้าที่ต้องทำหน้าที่ต่อ ผู้ที่ไม่มี หน้าที่ไม่ใช่เวลาที่จะขึ้นมา ส่วนผู้ที่ก่อกรรมต้องรับกรรมใช้กรรมไป บอกแค่นี้
โพลชี้ชัดคนผิดหวังจัดเลือกตั้ง
อีกเรื่อง นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 2562” จากผู้ไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงที่ผ่านมา จำนวน 1,182 หน่วยตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 38.16 เห็นว่าการจัดการเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมระดับปานกลาง มาจนถึงน้อย และน้อยที่สุด เมื่อถามถึงความพึงพอใจ ต่อคะแนนเสียงที่ได้ ส.ส. หรือพรรค การเมืองที่ตนเลือก ส่วนใหญ่ร้อยละ 43.15 ระบุว่าค่อนข้างพึงพอใจ
ด้านสวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,752 คน เรื่องประชาชน คิดอย่างไรกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ส่วนใหญ่ร้อยละ 45.20 เห็นว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น ความไม่โปร่งใส การทำงานของ กกต. และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น รองลงมาเห็นว่าเป็นความตื่นตัวของประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก สำหรับสิ่งที่ประชาชนวิตกกังวลในการเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.47 เห็นว่าเป็นความไม่โปร่งใส ทุจริตการเลือกตั้ง ผลคะแนนไม่ชัดเจน และจากผลเลือกตั้งในภาพรวม ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกผิดหวัง เพราะความไม่โปร่งใส ในการเลือกตั้ง การทำงานของ กกต. การนับคะแนน ประกาศผลล่าช้า ผู้สมัครที่ชื่นชอบแพ้