ช่วงเสวนาหาทางออกทางการเมือง คุณอลงกรณ์ พลบุตร พรรคประชาธิปัตย์ หลุดปากทางทีวีไทยพีบีเอสว่า ในบางครั้ง ความเป็นพวก ก็สำคัญกว่าความเป็นพรรค

เพชรบุรี ขึ้นชื่อเป็นเมืองนักเลง คุณอลงกรณ์เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ก็คงเป็นเพราะความมีใจนักเลง

วิถีชีวิตคนไทยแต่ไหนแต่ไรมา...ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โบราณจึงมีคำกล่าว เมื่อเหลือกำลังลาก ให้ออกปากบอกแขกช่วยแบกหาม...

การบอกแขก มาช่วยงานทำกันเป็นประเพณี มีชื่อเรียกต่างๆ อยู่ 3 อย่าง

แขกขอแรง เป็นผู้ที่มาช่วยเหลือด้วยความสมัครใจ เช่นขอร้องให้มาช่วยมุงหลังคาเรือน เจ้าของเรือนเพียงแต่จัดหาอาหารเลี้ยงดูเท่านั้น ไม่ต้องตอบแทนอะไร

แขกลงแรง เป็นพวกที่แลกเปลี่ยนแรงงานกัน เช่นบ้านหนึ่งทำงานให้อีกบ้านหนึ่ง เมื่อถึงคราวบ้านแรกทำงาน บ้านที่เคยวานเขามาช่วย ก็ต้องไปช่วยตอบแทน

แขกอาสา เป็นแขกพิเศษ เป็นเรื่องเฉพาะหนุ่มสาวที่ชอบพอกัน เมื่อหนุ่มๆไปชอบสาวบ้านใด ทราบข่าวบ้านสาวจะมีงานมีการที่ต้องใช้คนมาก ก็เป็นหัวหน้าชักชวนเพื่อนหนุ่มไปช่วย

ส.พลายน้อย เล่าไว้ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทย (สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ พ.ศ.2553) ว่า ประเพณีบอกแขก บางท้องถิ่นเรียก “ออกปาก”

คนรุ่นเก่านครศรีธรรมราช เมื่อต้องการแรงงานไถนา ปักดำปลูกข้าว เก็บเกี่ยวข้าว หรืองานอื่นๆ ที่ต้องใช้คนมากๆ ก็ใช้ประเพณีออกปาก ผู้ที่ถูกออกปากก็จะมาช่วยด้วยความเต็มใจ พูดกันว่า “ไปกินวาน”

เมื่อไปช่วยทำนา ก็เรียก “กินวานนา” ไปทำสวน เรียก กินวานสวน กินวานยกเรือน

คนภาคอื่นฟังคำ “กินวาน” ไม่เข้าใจ เมื่อนึกถึงคำ “ไหว้วาน” ก็คงพอเข้าใจไม่ยาก

การบอกแขก อีกอย่าง ต่างจากการบอกแขกทั่วไป ก็คือการ บอกแขกในการเผาศพ

...

บอกเพื่อให้โอกาสแก่คนที่เคยรู้จักผู้ตาย ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อนสนิทมิตรสหาย กระทั่งศัตรูคู่แค้น

กรณีศัตรูคู่แค้น ที่มีเรื่องจองเวรจองกรรมมาแต่หนหลัง ก็ได้โอกาสไปขมาศพ เพื่อเป็นการอโหสิกรรม การบอกแขกกรณีนี้ เจ้าภาพเพียงแต่บอกให้รู้ว่า จะเผาศพในวันนั้นๆ

ไม่ควรเชิญ แขกจะไปหรือไม่ แล้วแต่แขกจะตัดสินใจ

ถ้าเป็นเรื่องจำกัดอยู่แค่ “การบ้าน” สถานการณ์เข้าขั้น เมื่อเหลือกำลังลาก ให้ออกปากบอกแขกช่วยแบกหาม นักเลงต่างบ้าน คงพอไปช่วยกันได้

แต่ถ้าเกินขอบเขตการบ้านเป็น “การเมือง” เรื่องแย่งชิงอำนาจ คงจะออกปากให้ไป กินวานการเมือง กันยาก

ยิ่งเป็นการเมืองตอนนี้ ต้องใช้ “คณิตศาสตร์การเมือง” บวกลบคูณหารต้นทุน บวกดอกเบี้ยบวกกำไร...ถ้าแน่ใจว่ามีให้พอ ก็น่าจะคุยกันลงตัว

ผมได้ยินข่าวทำนองว่า งานนี้ประชาธิปัตย์จะขอเป็นช่วงเวลาเลียแผล รักษาตัว รักษาใจ ฟื้นฟูเกียรติศักดิ์ รักของข้า ยอมถอยไปเป็นฝ่ายค้าน...

เปิดช่องให้ฝ่ายที่ประกาศว่าเป็นประชาธิปไตย...ได้แต้มต่อ ตั้งรัฐบาล สู้กับ 250 ส.ว.ของรัฐบาลทหาร ช่วยไล่ทหารกลับกรมกอง ไล่นายกฯประยุทธ์กลับบ้าน

มุกนี้จะติดขัดก็ตรงที่มีผลให้ระบอบทักษิณฟื้นตัว มิตรรักนักเพลงที่หน่ายหนีตีจาก ก็จะยิ่งน้อยลง สร้างศัตรูคู่แค้นกับฝ่ายรักทหาร อาจถึงขนาดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ อโหสิกรรมกันไม่ได้

สรุปว่า งานกินวานการเมือง เป็นเรื่องฝันกลางวัน

ออกปากให้ไปกินวานยกเรือนง่ายกว่า ถ้าอลงกรณ์รักจะเล่นบทนักเลง ก็เล่นบทนักเลงเมืองเพชรไป ผมว่านะ นักเลง
เมืองตรัง นักเลงเมืองพังงา เขาน่าจะสมัครใจไปเล่นบทอื่น.

กิเลน ประลองเชิง