อดีต กกต. ให้ความหมาย บัตรเขย่ง ชี้ไม่เคยมีในตัวบทกฎหมาย หลังถูกคิดค้นใหม่จาก กกต.ชุดนี้ แนะไม่ควรใช้คำว่า บัตรเขย่ง เหตุสร้างความสับสนให้ปชช. ...

จากกรณีการแถลงข่าวของ กกต. วันนี้ (28 มี.ค.) ที่สร้างความสับสนอย่างมาก คือเรื่อง "ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ์กับตัวเลขบัตรที่ถูกใช้ไปไม่ตรงกัน" โดยเหตุดังกล่าวมีที่มาจาก “บัตรเขย่ง” นั้น ต่อมา “บัตรเขย่ง” กลายเป็นคำที่ผู้คนจำนวนมากเกิดความสงสัยในความหมาย เพราะไม่ทราบว่ามีที่มาและมีความหมายว่าอะไร จนเกิดการตั้งคำถามไปยัง กกต.ในที่สุด

กระทั่งต่อมา พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาฯ กกต. ได้ออกมาชี้แจงถึงความหมายของบัตรเขย่งว่า บัตรเขย่ง หมายถึง ในเขตเลือกตั้งนั้นๆ มีผู้ไปรายงานตัวใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่จู่ๆ อาจรอคิวนาน หรือเกิดเหตุกะทันหันอื่นๆ จึงทำให้ต้องออกจากแถวที่ต่อคิวลงคะแนน เลยตัดสินใจ "สละสิทธิ์" จนเป็นที่มาของกรณี "ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิ์กับตัวเลขบัตรที่ถูกใช้ไปไม่ตรงกัน"  

นางสดศรี สัตยธรรม อดีต กกต.
นางสดศรี สัตยธรรม อดีต กกต.

...

ล่าสุด นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ถึงความหมายของบัตรเขย่งว่า บัตรเลือกตั้งที่ กกต.เตรียมไว้ ณ หน่วยเลือกตั้งต่างๆ ถูกใช้ไปไม่ตรงกับจำนวนผู้ที่เข้าคูหาไปลงคะแนน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ คือ การขายตั๋วชมคอนเสิร์ต ขายได้ 700 คน มีบัตร 700 ใบ แต่เมื่อถึงวันแสดงคอนเสิร์ต กลับพบว่ามีคนดูแค่ 690 ใบ ย่อมแสดงว่าบัตรหายไป 10 ใบ โดยไม่ทราบว่าหายไปเพราะเหตุใด

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เคยเจอเหตุการณ์หญิงสาวรายหนึ่ง รับบัตรเลือกตั้งจากเจ้าหน้าที่แล้ว กำลังเดินไปเข้าคูหา เธอคิดว่าคงไม่มีใครมองเธออยู่ เธอเดินเข้าไปในคูหา กาบัตรเลือกตั้ง และเอาบัตรเลือกตั้งเหน็บกระเป๋าหลังกางเกง ทำทีเป็นเดินกลับบ้าน ซึ่งบัตรที่หายไป เรามีที่มาที่ไป และแจกแจงได้เสมอ” นางสดศรี กล่าว

นางสดศรี กล่าวต่ออีกว่า คำว่า บัตรเขย่ง ไม่เคยมีในตัวบทกฎหมาย และไม่มีในพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562

“ประชาชนจะไม่เข้าใจคำว่าบัตรเขย่ง เพราะฉะนั้น กกต.ไม่ควรคิดค้นคำว่า บัตรเขย่งขึ้นมา ซึ่งเป็นการสร้างความสับสนให้กับประชาชน และควรบอกไปเลยว่า บัตรเลือกตั้งที่ กกต.เตรียมไว้ ณ หน่วยเลือกตั้งต่างๆ ถูกใช้ไปไม่ตรงกับจำนวนผู้ที่เข้าคูหาไปลงคะแนน” นางสดศรี กล่าว

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยนั้นๆ เพราะเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องรู้ถึงสาเหตุ และรายงานให้ กกต.ได้ทราบต่อไป” นางสดศรี กล่าว

นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขา กกต. กล่าวว่า จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 100% ไม่ตรงกับวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งต่างกันหลัก 3 หมื่น ว่า เกิดจากส่วนงานที่รับผิดชอบรวบรวม ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าตัวเลขเปลี่ยนแปลง อาจรวมถึงผู้มีสิทธิ์นอกราชอาณาจักร อาจทำให้ตัวเลขไม่ตรงกัน  

ส่วนบัตรเขย่ง เกิดขึ้นกับการเลือกตั้งทุกครั้ง ทำให้จำนวนผู้ใช้บัตรกับผู้ใช้สิทธิ์ไม่ตรงกัน ซึ่งเรารวมจากตัวเลขความเป็นจริงต่างกัน 9 ใบ ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ทำให้โอกาสบัตรเขย่งเกิดขึ้นได้ เป็นไปได้ที่ตัวเลขอาจไม่ตรงกันจากหลายสาเหตุ ประเด็นนี้อธิบายได้ อย่างไรก็ตามเห็นปัญหาตรงนี้จะมีการตรวจสอบหาข้อมูลต่อไป

ส่วนตัวเลขผู้ใช้สิทธิ์แตกต่างจากก่อนหน้า เนื่องจากวันที่ 24 มี.ค.แถลงตามโปรแกรมแรบบิทรีพอร์ต ทำให้ไม่ตรง 100% โดยเป็นตัวเลขจากหน่วยเลือกตั้งปกติ ไม่ได้หมายถึงหน่วยเลือกตั้งกลาง ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งนอกเขตและนอกราชอาณาจักร และเอาเปอร์เซ็นต์ตัวเลขอีก 6-7% จึงเกิดการขยัก.