อีก 3 วันเลือกตั้งแล้ว วันซืน คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สร้างความฮือฮาด้วยการเชิญสื่อไปแถลงข่าว การลงนามเอ็มโอยูกับ บล.ภัทร ให้เป็นผู้บริหารทรัพย์สินเงินทองหุ้นและผลประโยชน์ต่างๆ มูลค่า 5,000 ล้านบาท ในรูปแบบ Blind Trust โดยให้เหตุผลว่า เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับนักธุรกิจที่เข้ามาทำงานการเมือง ประธานาธิบดีสหรัฐฯหลายคนก็นำทรัพย์สินเข้าระบบนี้ ยกเว้น โดนัลด์ ทรัมป์
ที่ฮือฮา เพราะ คุณธนาธร ทำเรื่องนี้ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่วัน
คุณธนาธร กล่าวว่า Blind Trust เป็นมาตรฐานในต่างประเทศ เพื่อให้นักธุรกิจที่เข้ามาทำงานการเมืองได้รับความไว้วางใจ คือ โอนทรัพย์สินให้บุคคลที่สามนำไปบริหารจัดการ ทำให้ตรวจสอบไม่ได้ และมองไม่เห็น กฎหมายกำหนดให้โอนหุ้นและทำให้ไม่สามารถสั่งได้ แต่ตนจะทำให้ไกลกว่ากฎหมาย คือ ทำให้มองไม่เห็น สั่งการไม่ได้ด้วยความสมัครใจ
หนึ่งในข้อสัญญาที่เขียนไว้กับ บล.ภัทร คือ ไม่ซื้อหุ้นไทยทุกตัว เพื่อจำกัดข้อครหาว่านโยบายที่ออกไปจะไม่เอื้อผลประโยชน์ให้ และกำหนดว่า 3 ปีหลังจากออกจากตำแหน่ง จะได้กรรมสิทธิ์กลับมาเป็นของตัวเอง
ส่วน บริษัทไทยซัมมิท อยู่ในตลาดเสรี มีแต่ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน ยืนยันว่าอย่างน้อยที่สุด ขณะที่บริหารอยู่ ไทยซัมมิทไม่เคยเข้าไปเป็นคู่สัญญากับรัฐแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ มีลูกค้าต่างประเทศแทบทั้งสิ้น แต่ในอนาคต หากไทยซัมมิทจะเป็นคู่สัญญากับรัฐในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ขอให้ทุกคนร่วมตรวจสอบและยืนยันว่า หากตนมีอำนาจในขณะนั้น จะไม่เข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้อง
นี่คือข้อมูลหลักๆที่ คุณธนาธร แถลงกับสื่อ ถามว่าเป็นเรื่องดีไหม ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องดีร้อยเปอร์เซ็นต์ มองในแง่การหาเสียงทางการเมือง งานนี้เป็นการหาเสียงร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ความจริงยังไม่จำเป็นต้องทำตอนนี้ก็ได้ เพราะยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี หรือจะไปทำตอนได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แล้วก็ได้ แต่ คุณธนาธร เลือกทำในโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง แม้จะอ้างว่าเพื่อ “สร้างมาตรฐานใหม่” ให้นักธุรกิจเข้ามาเล่นการเมือง แต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ Blind Trust แต่อย่างใด
...
การที่ คุณธนาธร โอนทรัพย์สินในรูปแบบ Blind Trust ไปให้ บล.ภัทร บริหาร ในความเป็นจริงแล้ว คนที่รู้ว่าทรัพย์สินใน Blind Trust มีอะไรบ้าง ก็มีเพียง คุณธนาธร เจ้าของทรัพย์ และ บล.ภัทร ผู้บริหารทรัพย์เท่านั้น ประชาชนทั่วไปก็ไม่มีใครรู้ว่าคุณธนาธรมีทรัพย์สินอะไร จะไปเกี่ยวโยงกับผลประโยชน์ทับซ้อนในอนาคตหรือไม่
ผมเห็นด้วยกับ คุณธนาธร ในเรื่อง Blind Trust จึงอยากเสนอว่า เมื่อมีโอกาสเข้าไปในสภาแล้ว ขอให้คุณธนาธรเสนอกฎหมาย Blind Trust เป็นกฎหมายฉบับแรกของพรรคอนาคตใหม่ เพื่อสร้างความโปร่งใสให้เป็นรูปธรรมจริงๆ บทเรียนจากนักการเมืองไทยในอดีตมีให้เห็นเยอะแล้วกับวาทกรรม “รวยแล้วไม่โกง” แต่ “ยิ่งรวยยิ่งโกง”
ใน สหรัฐอเมริกา เขามี Blind Trust ที่เรียกว่า Qualified Blind Trust (QBT) ที่กำหนดโดยกฎหมาย Ethics in Government Act โดยมีกฎข้อบังคับต่างๆ เช่น Blind Trust ที่จะเป็น QBT ได้ ทรัสตีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สิน จะต้อง ไม่เข้าร่วม ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เชื่อมโยง กับ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของและผู้รับผลประโยชน์ เพราะมีแนวโน้มที่จะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน จนกว่าจะขายทรัพย์สินเหล่านั้นออกไป
แนวคิดของ คุณธนาธร ในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีผมเห็นด้วย ควรจะทำให้เป็นกฎหมาย เพื่อใช้กับนักการเมืองทุกระดับไปเลย เมืองไทยจะได้สะอาดขึ้นเสียที
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่ากฎหมาย คือ “ความซื่อสัตย์” ของ “นักการเมือง” ขนาดมี ศาลอาญานักการเมือง มี ป.ป.ช. ก็ไม่เห็นกลัวกันเลย โดยเฉพาะ การคอร์รัปชันเชิงนโยบาย ทำได้ง่ายแต่จับยาก เมืองนอกเขาจึงมีกฎหมายกำกับดูแลอีกทอด.
“ลม เปลี่ยนทิศ”