"สมศักดิ์" ควง "พรรณสิริ" น้องสาวหาเสียงสุโขทัย โชว์นโยบายข้าว "พลังประชารัฐ" ดีกว่าเดิม รับประกันชาวนาได้ 12,000 ต่อตัน ป้อง "บิ๊กตู่" ไม่ใช่เผด็จการ แต่มาช่วยบ้านเมืองให้สงบตามหน้าที่ หยันพรรคเก่าเอานโยบายบรรพบุรุษแดนไกลมาใช้ ไม่มีของใหม่ อ้อนคะแนนประชาชนเลือก พปชร.บริหารประเทศ

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.62 ที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่และเปิดเวทีปราศรัยเพื่อช่วย นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ น้องสาวของ นายสมศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 12 จ.สุโขทัย หาเสียงใน 4 ตำบล ที่ ต.ราวต้นจันทร์ ต.ละนาขุนไกร ต.บ้านซ่าน ต.บ้านไร่ โดยมีประชาชนเข้ารับฟังการปราศรัย และให้การต้อนรับจำนวนมาก

โดย นายสมศักดิ์ กล่าวปราศรัยว่า นโยบายจำนำข้าวแบบเก่าจะเกิดการทุจริตได้ง่าย เพราะอาจมีการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาสวมสิทธิ์ แต่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐเราให้ตรงๆ กับชาวนา คือ ค่าเกี่ยวข้าว 2,000 บาท และค่าปลูกข้าว 1,500 บาทต่อไร่ ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ รวมแล้วเป็นเงิน 3,500 ต่อไร่ ตกแล้วจะได้ตันละ 12,000 บาทสำหรับข้าวสด แต่หากเป็นข้าวแห้งจะได้ประมาณ 14,000-15,000 บาท ซึ่งได้มากกว่ารัฐบาลในอดีต แถมไม่ต้องกลัวติดคุก นโยบายของเราไม่ซับซ้อนยุ่งยาก พอรู้ว่าเราได้เป็นรัฐบาลสามารถลงมือได้ทันที นโยบายของบางพรรคบอกว่าต้องออกกฎหมาย ต้องรอ 8-10 เดือน แต่ของพรรคพลังประชารัฐไม่ต้องรอ ทำได้ทันทีเลย

...

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่มีคนบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ เป็นเผด็จการนั้น ตนอยากอธิบายว่า ในช่วงปี 2553 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้นมีความวุ่นวาย มีม็อบเสื้อแดง มีการสลายการชุมนุมจนมีคนตายจำนวนมาก ต่อมาในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับลักหลับ ทำให้มีกลุ่ม กปปส.ออกมาชุมนุมยาวนานกว่า 7 เดือน ช่วงนั้นบ้านเมืองวุ่นวาย นักลงทุนและนักท่องเที่ยวหายหมด ร้อนถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็น ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ต้องออกมาไกล่เกลี่ยเรียกทุกฝ่ายไปพูดคุย แต่ตกลงกันไม่ได้ จนต้องปฏิวัติยึดอำนาจ ซึ่งประชาชนก็เห็นด้วย ดังนั้นจะบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเผด็จการไม่ได้ เพราะปัญหาตอนนั้นต้องแก้ ไม่ทำก็ไม่ได้

"การแก้ปัญหาความวุ่นวายของรัฐบาล คสช. เปรียบเป็นมวยก็เหมือนยกแรก พอยกที่สองก็มีการปรับ  ครม.เอาทหารออก เอา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และทีมงานเข้ามาช่วยงานแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ และถือว่าทำได้ดี ภาพรวมเศรษฐกิจระหว่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาถือว่าดีขึ้น อัตราเงินทุนสำรองของไทยพุ่งสู่อันดับ 12 ของโลก ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากที่สุดในรอบ 5-6 ปี การส่งออกดีมาก และไทยยังเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีดุลการค้ากับประเทศกลุ่มประเทศอเมริกาใต้ ส่วนการท่องเที่ยวถือว่าท็อปฟอร์มระดับเวิลด์คลาส โดย กทม.ติดอันดับเมืองน่าท่องเที่ยวของโลก 3 ปีซ้อน สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเก็บภาษีได้เยอะ อัตราเงินเฟ้อเพียง 0.04% เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้บ้านเมืองสงบ ผิดกับคำพูดของนักการเมืองบางคนที่พยายามโจมตีให้เสียชื่อ" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนยกที่ 3 คือ การพัฒนาด้านเกษตรกรรม ที่ถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ วันนี้เราทวงแชมป์การส่งออกข้าวคืนมาจากเวียดนามได้แล้ว ส่วนยกต่อไปคือหลังการเลือกตั้ง ที่จะเป็นยุคทองของเกษตรกรไทย ทั้งนี้เราจะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองใหญ่พรรคเก่า มีนโยบายแต่เก่าๆ เอานโยบายเดิมของบรรพบุรุษมาใช้ ซึ่งบรรพบุรุษวันนี้ก็ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว ดังนั้นหากพี่น้องประชาชนอยากได้นโยบายใหม่และดี สามารถทำได้จริง ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐเข้ามาบริหารประเทศ.