รศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรค 1 เดียว จาก 14 ชีวิต ผู้รอดชีวิตสึนามิยุบพรรคไทยรักษาชาติ เปิดใจ "พักยาวแบบไม่มีกำหนด ยืนยัน ผมไม่มีสี รับการเมืองตอนนี้ค่อนข้างรุนแรงยังไม่ขอคิดเรื่องอนาคต"
พรรคไทยรักษาชาติถึงนาทีนี้ก็ถือเป็นอดีตไปแล้ว เมื่อศาลรธน.มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 สั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมสั่งตัดสิทธิ์เลือกตั้ง กรรมการบริหารพรรคทั้ง 13 คน เป็นเวลา 10 ปี หลายคนใจหาย ขณะผู้ติดตามการเมืองมาก่อนหน้า จะทราบว่า อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติความจริงแล้ว มี 14 คน หากจำได้ก่อนหลังพรรคไทยรักษาชาติ เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกฯ เมื่อวันที่ 8 ก.พ. มีกรรมการบริหารพรรคท่านหนึ่ง ออกมายืนยันว่า ได้ลาออกจากกรรมการบริหารไทยรักษาชาติตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ซึ่งส่งผลใหญ่หลวงในเวลาต่อมา ทำให้เป็นกรรมการบริหารพรรคเพียง 1 เดียว ที่รอดตายทางการเมือง โทษคดีประวัติศาสตร์ ยุบพรรคไทยรักษาชาติ วันนี้ ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปดูกัน ว่าเพราะเหตุใด รศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ ท่านนี้คิดอย่างไรจึงรอดมาได้
...
รศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ หนึ่งเดียวที่รอดจากการถูกยุบพรรคโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี เปิดใจ กับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ว่า ตนเองตอนนี้อยากพักก่อน เพราะความเป็นจริงแล้วตั้งแต่แรก ส่วนตัวไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง
ถามว่า ไม่มีความทะเยอทะยานแล้วเข้าไปรับเป็นกรรมการบริหารพรรคทำไม ดร.รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า ตอนแรกที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ เพราะทางผู้ใหญ่หลายท่าน ขอให้ผมไปช่วยงาน เรื่อง ทำนโยบายเศรษฐกิจให้กับพรรค ซึ่งผมก็เห็นว่า ความรู้ที่มีด้านเศรษฐกิจของผมจะเป็นประโยชน์กับส่วนรวม ประกอบกับผมทราบว่า คุณจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ท่านก็ร่วมงานกับพรรคการเมืองนี้ คุณจาตุรนต์กับผมทำงานร่วมกันมานาน รู้มือกันดี จึงตัดสินใจเข้าร่วม
รศ.ดร.รุ่งเรือง กล่าวอีกว่า ตัวผมเอง ต้องยืนยันก่อนว่า ที่ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ เพราะเห็นว่า เราอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ เพราะเป็นวิชาชีพเป็นงานที่เราชอบ ไม่ได้ทำเพราะเป็นสีนั้น สีนี้ ผมไม่มีสีอะไรทั้งนั้น ผมมีความปรารถนาดีกับทุกคน ไม่อยากทำให้ใครเสียใจ เพราะถ้าคิดว่า จะให้มีความก้าวหน้าจริงๆ ก็คงจะลาออกเฉพาะตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค แต่ยังเป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ก็ได้ แต่นี่ลาออกเลย พร้อมที่จะไป เพราะทำนโยบายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยืนยัน ตอนนี้อยากจะพักแบบไม่มีกำหนด เพราะส่วนตัวรู้สึกการเมืองตอนนี้ ค่อนข้างรุนแรง
ส่วนถามว่า จะมีโอกาสตัดสินใจร่วมทำงานการเมืองอีกหรือไม่หากมีการเชิญชวน ดร.รุ่งเรือง เผยว่า มันต้องอยู่ที่คนที่มาชวน 2-3 คน นั้นพูดคุยกันแล้วจะถูกโฉลกหรือถูกชะตาด้วยหรือไม่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย แต่ตอนนี้ขอพักผ่านไปก่อนแบบไม่มีกำหนด และก็ยังไม่ได้คิดว่าจะไปทำงานด้านไหนต่อด้วย อันนี้ไม่ใช่เฉพาะงานการเมือง แต่หมายถึงงานทั่วๆ ไปด้วยนะ