"อนุทิน" โวกระแสตอบรับดี ประชาชนชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย หวังเลือกตั้งเสร็จได้ร่วมรัฐบาล พร้อมอาสาเป็นแกนนำสลายขัดแย้ง ประกาศลั่นไม่เอานายกฯเสียงข้างน้อย ปลุกว่าที่ ส.ส.อย่าให้ ส.ว. 250 จูงคน 500 คน ต้องได้นายกฯ ที่สง่างาม เตือนคนทำเลือกตั้งโมฆะ เตรียมถูกลอยอังคาร
เมื่อวันที่ 6 มี.ค.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่หาเสียง ว่า จากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนให้การตอบรับอย่างอบอุ่น และพรรคได้รับการตอบรับเกินความคาดหมายในเรื่องนโยบาย ซึ่งเน้นแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนเป็นหลัก โดยการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ตนได้พบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คือ ประชาชนหยิบแผ่นพับนโยบายของพรรคมาอ่านอย่างละเอียด ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ในพื้นที่ที่มีการปลูกข้าวจำนวนมาก ประชาชนต่างชื่นชอบนโยบายข้าวแบ่งปันกำไร รวมถึงการนำบุรีรัมย์โมเดลไปพัฒนาจุดเด่นของแต่ละจังหวัด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายการพักหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 5 ปี เพราะเราไม่ต้องการให้ลูกหลานรับปริญญาพร้อมกับใบแจ้งหนี้ รวมถึงต้องปลดภาระผู้ค้ำประกัน ใครกู้ยืมคนนั้นต้องเป็นคนจ่าย ไม่ใช่ไปติดตามจากคนอื่น ทั้งนี้รัฐเองก็มีส่วนก่อให้เกิดหนี้ดังกล่าวด้วย จึงต้องรับภาระในระดับหนึ่ง ส่วนนโยบายปลูกกัญชาเสรี แม้ว่าจะมีเสียงสะท้อนเป็นจำนวนมาก แต่พรรคยืนยันในนโยบายดังกล่าว ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาได้ เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง ยืนยันไม่ใช่การมอมเมาประชาชน นั่นเป็นวาทกรรมของคนที่คิดไม่ถึงว่า นโยบายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน และในความเป็นจริงทุกอย่างอยู่ที่การควบคุม โดยกฎหมาย ซึ่งตามข้อเท็จจริงกัญชาไม่ต่างจากเหล้าและบุหรี่ คนที่มีสติสัมปชัญญะในการใช้ ก็จะสามารถควบคุมตัวเองได้ แต่ใครที่ใช้มากเกินไปก็ต้องใช้กฎหมายควบคุม อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการที่พรรคเสนอนโยบายดังกล่าว ไม่ได้เป็นการเสนอให้คนมาเสพกัญชา แต่เป็นการให้สิทธิประชาชนปลูกเพื่อสร้างรายได้ อีกทั้งนโยบายของพรรคยังป้องกันการผูกขาดสัมปทานกัญชาจากนายทุน เพื่อให้ประชาชนได้พัฒนาหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์โดยไม่ติดลิขสิทธิ์ทางปัญญา
...
เมื่อถามว่า จากการแลกเปลี่ยนหารือกับทูตหลายประเทศ เขามองสถานการณ์การเมืองไทยอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกชาติเห็นตรงกันว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง จึงจะยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างสง่างาม ไม่ถูกกดดัน ไม่ถูกเอาเปรียบ หรือถูกตั้งเงื่อนไขใดๆ จ้องหน้าใครก็ไม่ต้องก้มหน้าหลบสายตา ดังนั้นรัฐบาลต้องมาจากเสียงของประชาชน
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย ถูกมองว่าใกล้ชิดกับทหาร รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าใกล้ชิดจริง ทำไมจึงถูกด่าว่าเลอะเทอะ โดยเฉพาะนโยบายกัญชา ส่วนหลังเลือกตั้งพรรคจะร่วมรัฐบาลกับใครได้หรือไม่นั้น เราจะยึดประชาชนเป็นหลัก วันนี้พิสูจน์ได้แล้วว่าเราไม่ได้ติดหนี้บุญคุณใคร และไม่มีจับมือกับใครก่อน ต่างคนต่างแข่งขันเหมือนกับการตีกอล์ฟ ที่ต้องทำผลงานของตนเองให้ดีที่สุด และเชื่อว่าจะมี ส.ส.มากพอที่จะเข้าไปผลักดันนโยบายและแก้ปัญหาได้ในรัฐสภา
เมื่อถามว่า พรรคตั้งเป้าได้จำนวน ส.ส.กี่ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ขอเก็บไว้กับตัวเองและผู้บริหารพรรค ทุกคนทราบหมดว่า จะได้ ส.ส.เข้ามากี่คน ซึ่งจะไม่เป็นไปตามผลการสำรวจที่ผ่านมา ทั้งนี้ตนคาดหวังว่าจะได้ทำในสิ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยนำพาประเทศไปข้างหน้าแบบไร้ความขัดแย้ง ตนเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดสิ่งที่ดี ส่วนแนวโน้มรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง จะมีเสถียรภาพหรือไม่นั้น ตนหวังว่าต้องมีพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล จึงจะทำให้รัฐบาลมีความมั่นคง ถ้ามีพรรคภูมิใจไทยจะไม่มีขั้วและจะบอกทุกฝ่ายให้ไปในทางสายกลาง ตนเชื่อว่าทุกพรรคมีความตั้งใจ และอยากเห็นประเทศชาติก้าวหน้า แต่ที่ผ่านมามันไม่มีทางลง ดังนั้นครั้งนี้ก็สามารถผ่านมาทางพรรคภูมิใจไทยได้
"แคนดิเดตนายกฯที่พรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุน ต้องเป็น ส.ส. และมาจากเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร เราไม่ยอมให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มาจากประชาชนมาเป็นผู้กำหนด เรารับไม่ได้ที่จะให้คนที่ไม่ได้มาจากประชาชนมาเลือกนายกฯ และไม่เห็นด้วยกับการที่ให้ 250 ส.ว.มาโหวตเลือกนายกฯ รวมถึงการเป็นนายกฯเสียงข้างน้อยที่มีคะแนนปริ่มๆ ประเทศจะเสียหาย ดังนั้น ส.ส.ต้องตระหนัก ทำให้นายกฯสง่างาม และรัฐบาลสามารถทำงานได้ตามกลไกรัฐสภา ที่มีฝ่ายบริหารและฝ่ายตรวจสอบ ที่ผ่านมาเราเสียโอกาสมามากแล้ว คน 500 คน จะไปเดินตามคน 250 คนได้อย่างไร แต่คน 500 คน ต้องเป็นผู้นำคน 250 คน เพราะพวกเขาเป็นตัวแทนของคนไทย ต้องมีเสียงดังและสิทธิที่มากกว่า" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะไม่ขึ้นเวทีปราศรัย ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ที่ จ.นครราชสีมา นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ละพรรคมีกลยุทธ์กลเม็ด แต่วิธีการสร้างความนิยมนั้น ตนขอให้ทุกพรรคต่อสู้บนความยุติธรรม อย่าชกใต้เข็มขัด และตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใคร อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เล่นกีฬาสีอีกแล้ว และมองว่าสิ่งสำคัญของการทำงานการเมืองนั้น ไม่ใช่การเป็นรัฐบาล แต่คือการที่นักการเมืองต้องนำพาตัวเองไปเป็นผู้แทนราษฎร นี่คือสิ่งที่ถือว่าประสบความสำเร็จในอาชีพนักการเมือง
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ต่อกระแสข่าวที่ว่า หากมีบางคนไม่ชนะการเลือกตั้ง การเลือกตั้งอาจจะเป็นโมฆะได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คนตัดสินคือประชาชน คนสั่งการให้ใครเป็นอะไรคือประชาชน ดังนั้นใครจะมา T.K.O.(แพ้น็อก) หรือจะไปน็อกพี่น้องประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งประเทศ ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า Be my guest(เชิญตามสบาย) ส่วนตนจะเป็นคนลอยอังคารให้