สู้ไม่ถอย “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ” ผู้สมัครส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ ดิ้น ยื่นเอกสารเพิ่ม เพื่อย้ำ “บิ๊กตู่” เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ถาม ไม่เช่นนั้น รับเงินหลวงในฐานะอะไร ชี้ อาจถือเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ของกฎหมาย ใช่หรือไม่
วันที่ 4 มี.ค. เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เดินทางมายื่นเอกสารเพิ่มเติม กรณีที่เคยมาร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ซึ่งจะไม่สามารถยื่นเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐได้ โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า ได้นำเอกสารของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่เคยตอบกลับกรณีที่ตนขอให้หัวหน้า คสช. และคสช.ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน เช่นเดียวกับ สนช. แต่ ป.ป.ช.ตอบกลับมาว่า ตำแหน่ง คสช. เทียบเคียงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่ไม่ได้บอกว่า หัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ใครที่จะเอาหนังสือ ป.ป.ช.มาบอกว่า ป.ป.ช.ตีความแล้วว่า หัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงไม่ถูกต้อง
นายเรืองไกร กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้นำหนังสือของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เคยเสนอต่อนายรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2558 ระบุถึงการใช้อำนาจของคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ที่มาจาก คสช.ว่า สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 11 ของ ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน 2534 ยับยั้งการปฏิบัติราชการใดๆ ที่ขัดต่อมติ ครม. หรือในกรณีที่เป็นเรื่องกรณีสำคัญจำเป็น ซึ่งต้องใช้อำนาจพิเศษเหนือกว่าหัวหน้า คสช. ก็อาจจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการดำเนินการได้ หนังสือดังกล่าวเท่ากับยืนยันว่า หัวหน้า คสช.เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ เมื่อนายกรัฐมนตรียอมรับหนังสือของกฤษฎีกา และได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ที่กฤษฎีกาแนะนำ แล้วจะบอกว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ จะถือว่าเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ของกฎหมาย หรือไม่ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ รับเงินเดือนของหลวงในฐานะอะไร จึงอยากให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยให้ชัดเจน ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ หรือไม่
...