ย้อนกลับไปเมื่อ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2539 คนไทยทั้งประเทศเดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าสู่สนามเลือกตั้ง เพื่อออกไปกาเบอร์ที่ชอบ ส.ส.ที่ใช่ กระทั่งผลการเลือกตั้งออกมาว่า พรรคท่ีได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สามารถเฉือนเอาชนะไปได้เพียงแค่ 2 เสียงเท่านั้น เรียกได้ว่า ฉิวเฉียดแสนน่าเจ็บใจ...

ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ย้อนเหตุการณ์ในสนามเลือกตั้งปี 2539 ที่ทำเอานักการเมืองใจเต้นระทึกตึกตัก คะแนนสูสีไปมา และสุดท้ายต้องพ่ายไปแค่ 2 เสียง...

ยุบสภา จุดเริ่มต้น เลือกตั้ง

27 ก.ย. 2539 นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติไทย ตัดสินใจประกาศยุบสภา ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่แกนนําคนสําคัญของพรรค เนื่องจาก นายบรรหาร หัวหน้าพรรคไม่ได้ปรึกษาและบอกกล่าวแก่สมาชิกพรรคให้ทราบล่วงหน้า

เหตุการณ์นี้ทําให้แกนนําสําคัญของพรรคที่เป็นฐานสนับสนุนให้นายบรรหารขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ร่วมมือกันกดดันให้นายบรรหารลาออกจากตําแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทย แต่ไม่ประสบความสําเร็จ

...

บรรดาแกนนําดังกล่าวจึงนําลูกทีมย้ายพรรค โดยกลุ่มของนายเสนาะ เทียนทอง เข้าพรรคความหวังใหม่ และได้รับความไว้วางใจให้เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนกลุ่มปากน้ําของนายวัฒนา อัศวเหม เข้าพรรคประชากรไทย และกลุ่มเทิดไทของนายเนวิน ชิดชอบ ใน จ.บุรีรัมย์ เข้าพรรคเอกภาพ

มหกรรมย้ายพรรค

ส.ส.พรรคชาติไทยคนหนึ่งกล่าวว่า หากนายเสนาะ เทียนทอง เลขาธิการพรรคชาติไทย เข้าร่วมกับ พรรคความหวังใหม่ ก็คาดว่าจะมีอดีต ส.ส.พรรคชาติไทยไม่ต่ำกว่า 40-50 คน ย้ายพรรคตามนายเสนาะ

29 ก.ย.2539 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีอดีต ส.ส.ย้ายเข้าพรรคจํานวนมากว่า ยินดีที่จะทํางานร่วมกัน แต่ต้องดูว่ามีอุดมการณ์เหมือนกันหรือไม่ และประกาศเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยให้เหตุผลว่า เพราะในอดีตเคยมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์มีลีลาที่ยึดหลักการและทํางานช้า ครั้งนี้น่าจะมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคความหวังใหม่บ้าง

1 ต.ค.2539 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เข้าพบ นายเสนาะ เทียนทอง ที่บ้านพักในหมู่บ้านเมืองทองธานี ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อร่วมกันแถลงข่าวการลาออกจากพรรคชาติไทย และการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่ โดยได้รับตําแหน่งเลขาธิการพรรค

ขณะที่พรรคการเมืองเก่าแก่มาแรงอีกพรรคก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นายชวน หลีกภัย นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

20 ต.ค. 2539 นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตําหนิวิธีการหาเสียงของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ที่ชูประเด็นนายกรัฐมนตรีต้องมาจากคนภาคอีสานว่า เป็นการปลุกม็อบ ถือเป็นการกระทําที่ไม่สมควร

หุ่นผีคล้ายของจริงถูกนำมาวางไว้ไกล้ลานอเนกประสงค์ใกล้ประตูท่าแพ เชียงใหม่ เพื่อชักชวนให้ไปเลือกตั้งไดัรับความสนใจจากชาวต่างชาติจำนวนมากแต่ก็เล่นเอาคนผ่านไปผ่านมายามค่ำคืนผวาไปตามๆ กัน
หุ่นผีคล้ายของจริงถูกนำมาวางไว้ไกล้ลานอเนกประสงค์ใกล้ประตูท่าแพ เชียงใหม่ เพื่อชักชวนให้ไปเลือกตั้งไดัรับความสนใจจากชาวต่างชาติจำนวนมากแต่ก็เล่นเอาคนผ่านไปผ่านมายามค่ำคืนผวาไปตามๆ กัน

ว่าที่ นายกฯ ดีเบตมันส์

25 ต.ค.2539 หอประชุมกิตติขจร กองทัพบกจัดการโต้วาทีหรือการดีเบตว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 22 โดยเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มีการยืนตอบคําถามบนโพเดียมลักษณะคล้ายๆ กับการโต้วาทีชิงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โดยหัวข้อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจถูกนํามาเป็นประเด็นแรกในการโต้วาที หลังการโต้วาทีจบลง ปรากฏว่าบรรดานายธนาคารมีเสียงเป็นเอกฉันท์ชื่นชอบทีมงานเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด แต่ก็ไม่ชอบที่นายชวน หลีกภัย เป็นคนตัดสินใจล่าช้า ในขณะที่การดีเบตครั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มีจุดด้อยทั้งตัวเองและทีมงานเศรษฐกิจ 

โหรฯ ทาย ใครได้เป็นนายกฯ คนต่อไป

1 พ.ย. 2539 นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไปปราศรัยที่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และนมัสการหลวงพ่อคูณ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ โดยหลวงพ่อคูณแนะนําให้นายบรรหารเลิกเล่นการเมือง และหากยังเล่นอยู่ก็ให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ธรรมดา

5 พ.ย. 2539 สมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทํานายดวงว่าที่นายกรัฐมนตรี 3 คน ได้แก่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่, นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ซึ่งผลปรากฏว่า โหรทั้งหมดทํานายว่าคนที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ควงคู่ คุณหญิงพันธุ์เครื่อ ภริยา ไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 21 วัดมหาธาตุ อ.เมือง นครพนม
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ควงคู่ คุณหญิงพันธุ์เครื่อ ภริยา ไปหย่อนบัตรเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 21 วัดมหาธาตุ อ.เมือง นครพนม
นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นางถ้วน หลีกภัย มารดา ไปใช้สิทธิที่หน่วย ร.ร.สภาราชินี อ.เมืองตรัง มีคนมาให้กำลังใจล้นหลาม
นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นางถ้วน หลีกภัย มารดา ไปใช้สิทธิที่หน่วย ร.ร.สภาราชินี อ.เมืองตรัง มีคนมาให้กำลังใจล้นหลาม

นาทีต่อนาที ลุ้นผลเลือกตั้งสุดระทึก

17 พ.ย.2539 วันเลือกตั้งสุดระทึก ณ เวลานั้น ผู้สื่อข่าวได้มีการรายงานจาก จ.ตรังว่า เวลา 20.45 น. หลังจากที่นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เก็บตัวอยู่ภายในห้องพักตามลำพัง เพื่อติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้ง

หลังจากนั้น ได้ลงมาแถลงข่าวจากที่ได้รับผลการเลือกตั้งในเวลา 21.00 น. โดยที่พรรคความหวังใหม่ มีคะแนนนำอยู่ 124 ต่อ 122 ซึ่งนายชวน คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์แพ้แล้ว พร้อมกับกล่าวว่า แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ผลออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ

เมื่อแถลงข่าวได้สักพัก นายชวนได้หันไปมองทีวีจอยักษ์ และมีสีหน้าดีขึ้น เพราะผลคะแนนขยับเป็น 124 ต่อ 123 แต่ไม่ถึง 15 นาที ประชาชนที่เกาะติดอยู่ด้วยนั้นได้ลุกขึ้นไชโยให้กับนายชวน เพราะผลคะแนนได้ตีตื้นขึ้นมาเป็น 124 ต่อ 124 ซึ่งสร้างความชุลมุนพอสมควร และเป็นเหตุให้ นายชวน ไม่สามารถแถลงข่าวต่อไปได้

นายชวน หลีกภัย หน.พรรคประชาธิปัตย์ ขณะอยู่ที่บ้านพัก จ.ตรัง โทรศัพท์สอบถามผลการเลือกตั้งจากลูกพรรคทั่วประเทศตลอดเวลา หลังจากปิดหีบบัตรลงคะแนน
นายชวน หลีกภัย หน.พรรคประชาธิปัตย์ ขณะอยู่ที่บ้านพัก จ.ตรัง โทรศัพท์สอบถามผลการเลือกตั้งจากลูกพรรคทั่วประเทศตลอดเวลา หลังจากปิดหีบบัตรลงคะแนน

เลือกตั้งปี 39 คะแนนฉิวเฉียด ห่างกันแค่ 2 แต้ม

แต่นาทีสุดท้าย เมื่อการนับคะแนนเสร็จสิ้น ผลปรากฏออกมาว่า พรรคความหวังใหม่ที่เพิ่งลงเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ประสบความสำเร็จ สามารถเฉือนเอาชนะ พรรคประชาธิปัตย์ ไปได้ 2 เสียง ด้วยคะแนน 125 ต่อ 123 (ไม่ใช่ 124 เหมือนที่รายงานในทีวี) ทำให้พรรคความหวังใหม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของประเทศไทย

โดยการเลือกตั้งในครั้งดังกล่าว มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 24,070,750 คน จากจํานวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 38,564,593 คน คิดเป็นร้อยละ 62.42 บัตรเสีย 632,502 บัตร คิดเป็นร้อยละ 2.63 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ณ เวลานั้น มีนายตำรวจชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม หลังจากทราบผลการเลือกตั้งว่าได้ ส.ส.เพียง 1 คนเท่านั้น และคนคนนั้นคือผู้หญิงที่ชื่อ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ส.ส.กทม. เขต 7.