"สนธิรัตน์" คาด 1-2 วันนี้ "พลังประชารัฐ" เตรียมประสาน "บิ๊กตู่" ลุยช่วยหาเสียง ยันไม่ทำเสี่ยงผิดกฎหมาย ขอดูเวลานอกราชการนายกฯ ก่อนเคาะ เล็งประเดิมเวทีโคราช ไม่กังวลพรรคอื่นมองได้เปรียบ
เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 3 มี.ค.62 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ช่วย น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ-ดุสิต เบอร์ 4 ขึ้นรถแห่หาเสียง จากนั้นได้ร่วมกินหมูกระทะร้านดัง "จาอูหมูเกาหลี" ย่านบางซื่อ อย่างเป็นกันเอง โดย นานสนธิรัตน์ ประกาศว่า พรรคพลังประชารัฐตั้งใจปักหมุดที่เขตบางซื่อ-ดุสิต และให้รอดูได้เลย เขตไหนที่ตนลงพื้นที่คือเขตที่พรรคเราตั้งใจมาปักธง นอกจากนี้ระหว่างที่กินหมูกระทะนั้น ระหว่างที่คีบหมู นายสนธิรัตน์ ได้เล่นมุกว่า "กินหมูจะได้ชนะแบบหมูๆ"
ต่อมา นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ ถึงกรณีการกำหนดกิจกรรมช่วยพรรคพลังประชารัฐปราศรัยหาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ บัญชีพรรค ว่า พรรคกำลังเตรียมการอยู่ คาดว่า 1-2 วันนี้ผู้บริหารพรรคจะหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติ และจะประสาน พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นคาดว่าต้นสัปดาห์นี้จะได้ข้อยุติทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ได้มีโอกาสหารือกับทีมงานของนายกฯ ไว้บ้างแล้ว หลังจากได้รับคำตอบจาก กกต.ที่จะให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ มาช่วยพรรคของเรา
เมื่อถามว่า จะปักหมุด พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา เป็นที่แรกจริงหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ทางพรรคกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนจะเป็นกิจกรรมลักษณะใดนั้น ต้องดูเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย สิ่งที่พรรคให้ความสำคัญคือ ต้องใช้เวลานอกราชการ ตัวนายกฯ เองก็มีตารางงานค่อนข้างแน่น ก็ต้องดูความเหมาะสม และต้องดูช่วยหาเสียงในกิจกรรมแบบไหน เพราะเหลือเวลาอยู่แค่ 3 สัปดาห์ ต้องใช้เวลาอย่างลงตัว
...
เมื่อถามว่า หวั่นถูกมองหรือไม่ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไปหาเสียงให้พรรคพลังประชารัฐได้ แต่ไปดีเบตไม่ได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ต้องขอความเป็นธรรมเรื่องดีเบต ถ้าพูดจริงๆ เป็นเรื่องของการแสดงวิสัยทัศน์ในทางความคิดเห็น การดีเบตเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะพูดจากัน และขึ้นอยู่กับว่าเป็นการดีเบตในลักษณะอย่างไร หลายครั้งมีโอกาสแสดงความคิดเห็นเต็มที่ และไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ ซึ่งพรรคคงต้องมาดูจะทำอย่างไรให้นายกฯ ได้มีโอกาสที่จะให้พี่น้องประชาชนได้เห็นแนวความคิดของนายกฯ ที่ท่านจะเป็นนายกฯ ในการเลือกตั้ง ตรงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในฐานะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดอย่างไร ซึ่งการสื่อสารกับนายกฯมีหลายรูปแบบ แต่ต้องอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง และอยู่ในสิ่งที่ กกต.ตอบมา นั่นจะเป็นการกำหนดว่านายกฯ ต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อถามว่า การที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเวทีปราศรัย จะทำให้พรรคการเมืองมองถึงความได้เปรียบเสียเปรียบ ความไม่เป็นกลาง หรืออาจจะทำให้ผิดกฎหมายเลือกตั้งได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ถูกต้อง แต่ไม่ได้กังวลใจในสิ่งเหล่านั้น เพราะพรรคทราบว่านายกฯ ทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ทราบว่า ทำได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร และการจะมาครั้งนี้ก็มาในฐานะนายกฯ ที่พรรคเสนอชื่อ มาทำหน้าที่ตรงนั้นในกรอบของหลักการที่สามารถทำได้
เมื่อถามว่า บุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่โผงผางและค่อนข้างตรง จะทำให้กลายเป็นจุดอ่อนของพรรคหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปบอกอย่างนั้น ท่านอาจจะนิ่มนวลก็ได้ อาจจะน่ารักกว่าเดิมก็ได้ ขอให้ติดตาม เมื่อถามว่า ขณะนี้คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ มีมาก แต่ในตัวของพรรคยังไม่มากพอ มีความคิดเห็นอย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อีกตั้ง 3 อาทิตย์ ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง กระแสพรรค กระแสนายกฯ ยังเปลี่ยนแปลงได้อีกเยอะ ในช่วง 3 สัปดาห์สุดท้ายพรรคเองก็มีวิธีการทำงาน และมั่นใจว่าวันที่ 24 มี.ค.นี้ กระแสพรรคจะเป็นไปตามที่เราหวังไว้
เมื่อถามว่า พรรคได้ทำโพลติดตามความนิยมหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคทำตลอดเวลา เอาเป็นว่าผลเป็นที่น่าพอใจขณะนี้งานของพรรคเดินได้ตามแผน กลับจาก จ.สุรินทร์ เมื่อวานก็มั่นใจ และทีมงานก็กระจายทำงานทั่วประเทศ พรรคทำโพลตลอดเวลา และพรรคมั่นใจในโพล
เมื่อถามถึงคำตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์มองว่า คำตัดสินจะเป็นบรรทัดฐานในคดียุบพรรคพลังประชารัฐ ที่มีการร้องเรียนอยู่ที่ กกต.ด้วย นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราคงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย เป็นเรื่องของศาล ตนไม่แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้.