ผมเรียนท่านผู้อ่านไว้แล้วว่าเรื่องการเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด สำหรับอนาคตของประเทศ และตลอดเวลาที่ผมนั่งเขียนหนังสืออยู่ตรงนี้จะเข้าร่วมทำหน้าที่ในการเชิญชวนท่านผู้อ่านไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงตามระบอบประชาธิปไตยไม่เคยขาดสาย
เพียงแต่ว่าภารกิจหลักของคอลัมน์นี้ไม่ใช่อยู่ที่การแสดงความคิดเห็นทางด้านการเมืองอย่างเดียว แท้ที่จริงแล้วเป็นคอลัมน์ประเภททั่วไปที่ต้องเขียนถึงทุกเรื่องที่คาดว่าจะอยู่ในความสนใจของท่านผู้อ่าน
ดังนั้น ผมจึงต้องหันไปเขียนเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆตามหน้าที่หลัก แต่ก็จะแว่บกลับมาเขียนเชิญชวนท่านผู้อ่านไปเลือกตั้งในทันที ที่โอกาสเปิดให้ หรือมีประเด็นที่ควรจะเขียนถึง
อย่างเช่นวันนี้ จันทร์ที่ 4 มีนาคม 2562 ซึ่งถ้านับจากนี้ไป ก็เหลืออีกแค่ 20 วันเท่านั้นจะถึงวันเลือกตั้งทั่วไป 24 มีนาคม 2562 กันแล้ว
ได้เวลาที่ผมจะกลับมาเขียนเชิญชวนท่านผู้อ่านให้เตรียมตัว เตรียมใจไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงสลับฉากบ้างอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ละครับ
ถ้าจะว่าไปแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ค่อนข้างจะคึกคักมากทีเดียวในแง่ของข่าวคราวและการประชาสัมพันธ์ต่างๆ และน่าจะคึกคักมากที่สุดกว่าทุกครั้งด้วยซ้ำไป
หนังสือพิมพ์ทุกฉบับพาดหัวหน้า 1 ทุกวัน แถมยังเพิ่มพื้นที่หน้าใน เสนอข่าวเลือกตั้งอย่างเต็มอิ่ม...โดยเฉพาะ ไทยรัฐ นอกจากจะมีบทวิเคราะห์มันๆทุกวันในหน้า 3 แล้ว ก็ยังเพิ่มพื้นที่เต็มหน้า 4 สี ในหน้า 16 ให้อ่านอย่างจุใจอีกด้วย
ในส่วนของโทรทัศน์ก็มีการนำเสนอข่าว และมีการจัดดีเบตโดยเชิญชวนคนสำคัญของพรรคต่างๆมาแสดงความคิดความเห็นแทบจะทุกสถานี
อย่างไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ก็จัดเต็มไปแล้วหลายครั้ง
ในโซเชียลมีเดียก็มีการนำเสนอเรื่องราวและข่าวคราวเกี่ยวกับการเลือกตั้งเต็มไปหมด ทั้งการแชร์ข่าวที่สำนักข่าวต่างๆเผยแพร่ไว้แล้ว และจากการเผยแพร่ข่าวของพรรคการเมืองโดยตรง
...
รวมไปถึงการขึ้นป้ายให้เห็นหน้าเห็นตาของผู้สมัครเขตต่างๆ และเห็นนโยบายสั้นๆของหลายๆพรรคที่พึ่บไปทั่วทุกถนน
ขณะเดียวกันก็มีการปราศรัยที่โน่น ที่นี่ ใหญ่บ้าง ย่อยบ้าง วันละหลายๆพรรคทั่วประเทศไทย
จนผมรู้สึกว่าน่าจะคึกคักกว่าทุกครั้ง และเป็นไปได้ที่อาจจะมีผู้ไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ หรือหากจะไม่ถึงก็จะขาดเพียงไม่มากนักอย่างที่มีการคาดหมายกันไว้
ในทางหนึ่งก็เป็นไปได้ที่เราเว้นวรรคการเลือกตั้งไปเสียกว่า 5 ปี ดังนั้น เมื่อกลับมาเลือกตั้งใหม่ประชาชนจึงรู้สึกตื่นตัว และขานรับการเลือกตั้งอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันเนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้มีสิทธิ์มีเสียงครั้งแรกถึงกว่า 7 ล้านคน ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งก็ปรากฏว่ามีกระแสจากกลุ่มนี้ค่อนข้างเยอะมาก เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้มีผู้ไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงมากกว่าครั้งก่อนๆ
ผมมีความเชื่อมาตลอดว่า แม้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 จะยังไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ แต่การได้สิทธิ์ในการเลือกตั้งกลับมา แม้จะครึ่งใบ ค่อนใบ หรือเสี้ยวใบ ผมก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเสมอ
เพราะจะนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยเต็มใบได้ในที่สุด ดีกว่าเรายังอยู่ในระบอบเผด็จการเต็มใบอย่างแน่นอน
ที่สำคัญแม้กรอบกติกาชั่วคราวที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เหมือนจะเป็นการกำหนดเส้นทางให้ใครคนใดคนหนึ่งกลับมาอีก
แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้แก่บุคคลที่อาจจะไม่ใช่คนๆนั้นอยู่บ้างพอสมควร...คือยังมีทางเป็นอย่างอื่นได้ อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน
ใครที่อยากได้ท่านผู้นั้นกลับมาก็ไปเลือกพรรคที่สนับสนุนท่านผู้นั้น ใครที่อยากได้คนอื่นใดก็ไปเลือกพรรคที่สนับสนุนคนอื่นๆที่ท่านหมายตาไว้ ค่อยๆคิดกันไปนะครับ
สำหรับวันนี้ตัดสินใจให้แน่วแน่เสียก่อนว่าเราจะไปเลือกตั้งแน่ๆ ส่วนว่าจะเลือกพรรคไหน อันหมายถึงการเลือกใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วยนั้น
คิดไปเรื่อยๆ วิเคราะห์ไปเรื่อยๆ หาเหตุหาผลไปเรื่อยๆก็ยังได้ครับ เพราะยังมีเวลาอีกถึง 20 วัน.
“ซูม”
อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562