"ศักดิ์สยาม" ข้องใจ ก.ม.กัญชา หลังรัฐไฟเขียว 7 กลุ่ม ได้สิทธิปลูก กังขาบทบาท "องค์การเภสัชฯ-อย." ผุดโรงเรือน 10 ล้านบาท หลัง ก.ม.ผ่านไม่กี่วัน ทั้งที่ปลูกระบบเปิดได้...
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.62 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายเกี่ยวกับกัญชา ที่รัฐบาลออกมาอนุญาตให้คน 7 กลุ่ม ได้สิทธิในการปลูก แม้จะมีคำว่าวิสาหกิจชุมชน แต่ประชาชนก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะกำหนดให้ต้องมีการทำผลการวิจัย แล้วใครจะทำประชาชนเราๆ นี่ใครจะทำได้บ้าง พบอีกว่าหลังกฎหมายใหม่เกี่ยวกับกัญชาประกาศใช้เพียงไม่กี่วัน กระทรวงสาธารณสุขไปทำโรงเรือนระบบปิด ปลูกกัญชาได้เลย ในเวลาไม่กี่วัน และสร้างภาพว่าจะต้องมีคนใส่ชุดปลอดเชื้อ เหมือนชุดนักบินอวกาศโรงเรือน 10 ล้าน พื้นที่ 100 ตารางเมตร คุณคิดไหมว่าต้องใช้เวลาขนาดไหน แต่ไม่กี่วันสร้างเสร็จแล้ว
“ผมเห็นว่าสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะนำเอากัญชาไปสกัดเป็นสาร เพื่อเอาไปทดลองในคนป่วย แล้วบอกว่าจะนำมาขายในราคาแบบไทยๆ เห็นบอกว่า ซีซี ละ 100-200 บาท ทั้งที่ขณะนี้มีคนหรือปราชญ์ชาวบ้าน ทำในตลาดล่าง ตลาดมืด ก็ซีซีละ 100 บาท 1 ลิตร 1,000 ซีซี คือ 100,000 บาท แล้วใครจะมาซื้อ ใครเป็นคนซื้อ เป็นการบังคับคนซื้อ เรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นเหมือน พ.ร.บ.เหล้า รัฐบาลมีความพร้อมมีองค์กรเภสัช มี อย. ทำไมรัฐบาลจะมาทำเอง ทำไมท่านไม่เป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกร มาทำเองทำไมครับ? แล้วมาขายให้ชาวบ้านทำไมท่าน แบบนั้นล่ะครับ? ทำไมไม่ให้ชาวบ้านปลูกแล้วขายให้รัฐ รัฐเอาไปแปรรูป ที่เราให้ปลูกได้แค่ 6 ต้น เอาไว้ใช้เองได้ด้วย เหลือก็เอาไปขาย รัฐเป็นพี่เลี้ยงว่าจะให้ปลูกพันธุ์แบบไหน จะให้ปลูกระบบแบบใด ผมว่าอย่าไปดูถูกชาวบ้านว่า ชาวบ้านปลูกไม่ได้ จะมีเศรษฐีเท่านั้นหรือที่ปลูกได้” ศักดิ์สยาม กล่าว
...
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นโยบายการปลูกกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ใช้ทางการแพทย์เชิงพาณิชย์ ใช้สันทนาการที่บ้าน และใช้ประกอบอาหาร อย่างไรก็ดีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอให้ครอบครัวมีการปลูกได้ 6 ต้น ที่เสียค่าใบอนุญาตต้นละ 30 บาท สามารถจะไปรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนและปลูกรวมได้ ซึ่งโครงสร้างนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ได้ทำมาหมดแล้ว เหมือนแคลิฟอร์เนียโมเดลทั้งหมด เช่น ปลูกใช้ในบ้านได้ หรือจะปลูกรวมกันเป็นเชิงพาณิชย์ เพื่อที่จะขายให้กับรัฐ ซึ่งรัฐจะต้องเป็นพี่เลี้ยง เรามีมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมีสถาบันการศึกษาเยอะมาก ยังไม่รวมปราชญ์ชาวบ้าน ที่ทำเรื่องนี้ ตำรับยาแพทย์แผนไทยมี 200-300 ตำรับ แต่ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข รองรับเพียง 20 ตำรับ ซึ่งหายไปเยอะ จึงมีคำถามตามมาว่า เกิดอะไรขึ้น
“ที่จริงประเทศไทยเคยมีการส่งกัญชามาก่อนปี 2505 แล้ว ประเทศไทยสามารถที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้มากมาย โดยใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบ อย่างต่างประเทศมีการใช้ผสมสปาเก็ตตี้ ไอศกรีม ซึ่งจริงๆ ต่างประเทศได้มีการทำมานานแล้ว กัญชาไม่ได้มีพิษ ไม่ใช่ยาเสพติด อย่างที่คนอื่นคิด ถ้าหากเป็นยาเสพติดจริงจะต้องแสดงอาการออกมา อย่างเช่น บุหรี่หรือกาแฟ ที่คนไม่สูบ หรือไม่ได้ดื่มก็จะกระวนกระวาย จากผลการวิจัยพบว่า กัญชาไม่มีความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากผู้เสพ ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยไม่เสนอนโยบายกัญชาเสรี สิ่งที่จะเกิดขึ้นเรื่องกัญชาก็จะไม่ต่างกับเรื่องเหล้าและเบียร์ ที่มีนายทุนผูกขาด และประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ ถ้าปล่อยให้นายทุนผูกขาดแต่ผู้เดียวแบบนี้ถือว่า ประเทศนี้แย่มากๆ กับความคิดแบบนี้ ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า กัญชาสามารถปลูกในระบบเปิดได้ ไม่ต้องปลูกในระบบปิด ต้องไปสร้างด้วยงบประมาณถึง 10 ล้านบาทได้ หากให้ประชาชนปลูกครอบครัวละ 6 ต้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย คือ เราจะมีค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมเป็นเงินประมาณ 3 แสน 3 พันล้านบาท ซึ่งนี่ก็คือคำตอบของคำถามว่า จะเอาเงินมาจากไหน มาใช้กับนโยบายของพรรคภูมิใจไทย 12 เรื่อง ที่ต้องใช้เงินประมาณ 9 หมื่นล้าน ที่เหลืออีก 2 แสน จะนำไปลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เหลือ 5% เพื่อให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้ประโยชน์ในเรื่องกัญชา และเรากล้าที่จะแสดงว่าเรา คือ “พรรคกัญชา”