"ชัชชาติ" ช่วยลูกพรรคหาเสียงเชียงใหม่ ประชาชนมารอต้อนรับให้กำลังใจแน่น จวกรัฐบาลคุกคามสื่อ ปมปลดผู้ดำเนินรายการ ดีเบต ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ย้ำสื่อรัฐวิสาหกิจเป็นของประชาชนต้องมีความเป็นกลาง...

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 2 มี.ค. 62 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ กรรมการพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางขึ้นมาช่วย น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เขต 1 ลงพื้นที่ หาเสียงที่ตลาดวโรรส และตลาดต้นลำไย ถนนวิชยานนท์ ในตัวเมือง เชียงใหม่ โดยมีประชาชนมามอบช่อดอกกุหลาบสีแดงให้เป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง โดยนายชัชชาติ ได้ให้ผู้สมัครเดินแนะนำตัวกับพ่อค้า-แม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ และได้การต้อนรับจากประชาชนชาวเชียงใหม่เป็นอย่างดี ก่อนที่จะไปชิม "ปาท่องโก๋ โกเหน่ง" ร้านปาท่องโก๋ยอดฮิตในเชียงใหม่ ที่ขายมา 35 ปีแล้วที่ข้างตลาดต้นลำไย

นายชัชชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งเชียงใหม่เป็นเมืองหลักสำคัญในภาคเหนือที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเราก็อยู่ในพื้นที่มาตลอด วันนี้ได้ลงพื้นที่มาดูปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะปัญหาหลักคือฝุ่นหรือควันพิษนี้เป็นเรื่องที่จะต้องแก้โดยด่วน ที่ส่งปัญหาต่อสุขภาพของประชาชนและส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในระยะยาวด้วย เพราะต้องรีบหาทางแก้ไขครับ เพราะเชียงใหม่หัวใจหลักคือการท่องเที่ยวมีรายได้เป็นแสนล้านต่อปี ต่อคำถามพรรคเพื่อไทยจะสามารถปักธงในภาคเหนือได้มากน้อยขนาดไหน นายชัชชาติ บอกว่า เราดูจากโพลพรรคเพื่อไทยเราดีมากเลยหรือว่าดีที่สุดในทั้งหมดเลย ภาคเหนือนี้เข้มแข็งมากครับจะมั่นใจมากครับ 

...

ต่อคำถามที่กรณีบอร์ด ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ปลดผู้ดำเนินรายการดีเบตคนรุ่นใหม่ มีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าสื่อมวลชนเป็นเหมือนสถาบันสำคัญของระบบประชาชาธิปไตย เพราะสื่อมวลชนต้องให้ความเที่ยงธรรม และต้องให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นได้ เพราะการมาแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชนก็ต้องเป็นคำถามใหญ่แล้วว่า จะทำให้ความเชื่อถือมันลดลงไหม สื่อมวลชนเป็นสถาบันที่มีเกียรติ และสื่อมวลชนที่จะช่วยทำให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ทุกคนสามารถมีสิทธิ์ในการแสดงความเห็นได้โดยอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สื่อที่เป็นของรัฐหรือเป็นรัฐวิสาหกิจ มันไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งมันเป็นของประชาชนทั้งหมด ซึ่งต้องให้ความเป็นกลาง ส่วนน้องที่มาร่วมรายการดีเบต น้องๆ เขาก็มาด้วยความอิสระไม่มีใครบังคับ ผมว่าเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะให้เกิดขึ้นอีก ผมว่าการแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องอิสระของการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย ใครจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่เวทีในการแสดงความเห็นเป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อถามว่า ในเมื่อภาครัฐเข้ามาแทรกแซงสื่อจะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายชัชชาติ บอกว่าส่งผลลบต่อทางฝ่ายภาครัฐด้วย เพราะสมัยนี้แรงสะท้อนกลับมันยิ่งแรงคนเห็นความไม่เป็นธรรม ความอยุติธรรมยิ่งไม่ชอบ ส่วนตัวมองว่าคนไทยเราเกลียดความอยุติธรรม มันยิ่งเห็นอย่างนี้มันยิ่งเป็นผลลบ และไม่ค่อยฉลาดเท่าไรที่ทำเหมือนกับว่า มันยิ่งเป็นข่าวเป็นกระแสออกมา หากปล่อยให้ทุกคนมองด้วยวิจารณญาณของตนเองและให้ทุกคนมีเวทีในการแสดงความคิดเห็น เขาก็พูดตรงๆ ไม่ได้ว่าให้ใครคนใดคนหนึ่ง ในอนาคตต้องดูให้ละเอียดและรอบคอบมากขึ้น 

จากนั้นนายชัชชาติ และคณะทีมงานพรรคเพื่อไทย ก็ขึ้นรถแห่ไปรอบเมืองเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันนี้ ทีมผู้บริหารและคณะกรรมการพรรคตลอดจนผู้สมัคร จะกลับมาที่เวทีปราศรัย ณ สนามกีฬากลางเทศบาลนครเชียงใหม่.