"สนธิรัตน์" ฟ้องชาวสุรินทร์ "เจ๊หน่อย" ใจแคบเคยค้านบัตรคนจน งงเลือกตั้งกลับลำเอาด้วย แนะชาวบ้านเลือกของจริงปฏิเสธของเลียนแบบ อ้อนเลือก "พลังประชารัฐ" เป็นรัฐบาล แถม "ลุงตู่" เป็นนายกฯ ด้าน "สุริยะ" วอนอย่าเลือก "เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์" หวั่นติดวงจรขัดแย้งไม่จบสิ้น ขอโอกาสให้ พปชร.ทำงานเพื่อ ปชช.สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขณะที่ "มาดามเดียร์" ขึ้นปราศรัยครั้งแรก ย้ำนโยบาย พปชร.ทำได้จริง-ทำได้ทันที
เมื่อวันที่ 1 มี.ค.62 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสาน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้ากราบสักการะพระยาสังฆะบุรีศรีนครอัตจจะ เจ้าเมืองสังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เพื่อความเป็นศิริมงคล ก่อนขึ้นปราศรัยกับประชาชนที่มารอฟังกว่า 10,000 คน ที่สนามกีฬากลางเทศบาลตำบลสังขะ เพื่อช่วย นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ผู้สมัคร หมายเลข 2 เขต 6 หาเสียง ทันทีที่มาถึงเวทีปราศรัย แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทักทายพี่น้องประชาชนจากด้านหลังอย่างเป็นกันเอง โดยประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี มีการมอบดอกไม้ คล้องพวงมาลัย และผูกผ้าขาวม้า ให้กำลังใจอย่างเนืองแน่น
โดย นายสนธิรัตน์ กล่าวปราศรัยว่า ขอโอกาสฟ้องพี่น้องประชาชน มีแกนนำพรรคหนึ่งที่เป็นผู้หญิงพูดเก่ง มากล่าวหาว่าตนทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นการดูถูกว่าคนได้บัตรจน ถือว่ามีจิตใจคับแคบที่มาว่าตน ทั้งที่ความจริงต้องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งขณะนั้นพรรคดังกล่าวพยายามคัดค้าน แต่พอเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งก็กลับคำมาบอกว่าจะทำนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ขอเปรียบเทียบว่า หากจะซื้อเสื้อ จะเสื้อของจริงหรือของเลียนแบบ ดังนั้นหากพี่น้องประชาชนชอบนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพราะพวกตนเป็นคนคิดและทำมา ทั้งนี้ในวันที่ 24 มี.ค.ขอให้เลือกพลังประชารัฐทุกเขต เพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้พี่น้องประชาชน เพราะนอกจากจะได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังจะได้นายกรัฐมนตรี ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำพาประเทศไปข้างหน้า
...
ด้าน นายสุริยะ กล่าวปราศรัยว่า สาเหตุที่ประชาชนยังดักดานอยู่กับความยากจน เป็นผลมาจากความขัดแย้งของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ อย่างพรรคเครือข่ายของ นายทักษิณ ชินวัตร กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่มัวเอาเวลาไปต่อสู้กัน จนไม่มีเวลาบริหารประเทศ ทำประเทศติดอยู่กับวงจรความขัดแย้งไม่จบสิ้น ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้โอกาสพรรคใหม่อย่างพลังประชารัฐ พรรคทางเลือกในการเข้าไปทำให้พี่น้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผ่านนโยบายต่างๆของพรรค ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ตั้งกองทุนประชารัฐ ช่วยค่าเก็บเกี่ยวของชาวนาไร่ละ 2,000 บาท
สำหรับเวทีปราศรัยครั้งนี้ น.ส.วทันยา หรือ มาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยเป็นครั้งแรกด้วย โดยขอให้พี่น้องประชาชนชาว จ.สุรินทร์ ร่วมมือร่วมใจกันก้าวข้ามความขัดแย้ง ไปสู่การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน และเลือกพรรคพลังประชารัฐ ให้มีโอกาสในการเข้าไปสานต่อ รวมถึงผลักดันนโยบายเพื่อพี่น้องประชาชน เพราะพรรคพลังประชารัฐทำได้จริงและทำได้ทันที