"สนธิรัตน์" รอหนังสือ กกต.แจงกรอบ "บิ๊กตู่" หาเสียง มั่นใจพรรคได้ประโยชน์ ไม่กลัวถูกโจมตี เชื่อ "ประยุทธ์" อดทนสูง ปัดลอกนโยบายจำนำข้าวเพื่อไทย เตรียมถกเพิ่มค่าปลูกไร่ละ 1,500 ขณะ "สุริยะ" เผย โพลสุรินทร์ กวาด 7 ที่นั่ง หลัง ปชช.ชอบนโยบายข้าว และบัตรประชารัฐ

เมื่อเวลา 09.30 น.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง นายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสาน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 เขต ของจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์เจ้าเมืองพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง(ปุม) ผู้สร้างเมืองสุรินทร์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะร่วมกันโบกธงปล่อยขบวนรถหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ไปตามจุดต่างๆ ในแต่ละเขตของ จ.สุรินทร์

นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์กรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.อนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้ว่า ส่วนตัวเพิ่งทราบว่า กกต.อนุญาต ซึ่งทางพรรคต้องรอหนังสือจาก กกต.อย่างเป็นทางการ ว่ารูปแบบที่จะให้ พล อ.ประยุทธ์ หาเสียงมีรายละเอียดเป็นอย่างไร พรรคจะหารือกันเร็วๆ นี้ เพื่อวางแผนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมาช่วยพรรคได้อย่างไร โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง

"พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนของประชาชนอยู่แล้ว หากมาช่วยพรรคหาเสียง ก็เชื่อว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อพรรคเป็นอย่างยิ่ง แต่พรรคจะดำเนินการให้รอบคอบ ตรงความต้องการของประชาชนและหมาะสมทั้งข้อกฎหมายและเหมาะสมทางการเมือง" นายสนธิรัตน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากให้ พลเอกประยุทธ์ มาช่วยหาเสียงจะทำให้พรรคถูกโจมตีในปัญหาเดิมๆ หรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการโจมตีกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าท่านจะลงมาช่วยหาเสียงหรือไม่ลงมาช่วยหาเสียง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่พลเอกประยุทธ์ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง แต่ตนคิดว่าทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบกติกา และหลักการ

...

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้หลายพรรคโจมตี การปราศรัยที่จังหวัดสมุทรปราการซึ่งปราศรัยด้วยถ้อยคำหยาบคายและสร้างความขัดแย้งซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ ซึ่งนายสนธิรัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะมีคำพูดแค่ประโยคเดียว ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงกว่าตนเองเยอะ การปราศรัยดังกล่าวตนเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีเจตนาสร้างความคึกคักให้ประชาชนที่มาฟังปราศรัย ไม่มีเจตนาสร้างความขัดแย้งหรือมีนัยใดๆ หากฟังโดยภาพรวมก็จะเข้าใจ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการปราศรัยของตัวเองไม่ได้ใช้วาจาหยาบคายและระมัดระวังการใช้วาจาในการสร้างความขัดแย้ง เพราะวัตถุประสงค์ในการปราศรัยเพื่อชี้แจงต่อประชาชนเกี่ยวกับนโยบาย และเหตุใดต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นในแต่ละพื้นที่ก็จะมีบริบทและรูปแบบการปราศัยที่แตกต่างกันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิจารณ์นโยบาย เรื่องข้าวของพรรคพลังประชารัฐว่าลอกเลียนแบบนโยบายจำนำข้าว ของพรรคเพื่อไทย นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นการสร้างความเข้าใจผิดครั้งใหญ่มาก ว่าพรรคพลังประชารัฐกลับไปทำนโยบายจำนำข้าว ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะนโยบายของพลังประชารัฐ คือการชะลอการขาย เพื่อให้ผลผลิตของชาวนาไม่ถูกกดราคา กลไกที่พักใช้ไม่ได้แทรกแซงราคาตลาด ไม่มีการทำราคาชี้นำตลาด เป็นการเอาราคาตลาดย้อนหลัง 3 ปี เป็นตัวตั้ง เพื่อเข้าไปดูเรื่องโครงสร้างราคา และสินเชื่อชะลอก็เป็นสินเชื่อที่ราคาต่ำกว่าตลาดด้วยซ้ำไป ดังนั้นการที่บอกว่าพรรคพลังประชารัฐไปลอกนโยบายจำนำข้าวถือเป็นการสร้างความสับสนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงขอยืนยันว่าจะผลักดันราคาข้าวให้สูงถึง 18,000 บาท

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสานเสนอให้ช่วยค่าปลูกข้าวเพิ่มเติม คือไร่ละ 1,500 บาทจำนวน 20 ไร่รวม 30,000 บาทจากเดิม ที่พรรคออกนโยบาย ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว 2,000 บาทต่อไร่ จำนวน 20 ไร่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคจะนำประเด็นนี้ไปรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรค และจากนั้นจะนำเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายของพรรค ส่วนจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่นั้น พรรคจะดูนโยบายว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและทำได้จริงหรือไม่ นี่คือจุดยืนในการนำเสนอนโยบายของพรรค

นายสุริยะ กล่าวถึงความมั่นใจในการลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดสุรินทร์ว่า ตนได้ให้บริษัทจัดทำโพลสำรวจความเห็นของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ทั้งหมด 7 เขต เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยพบว่าพรรคพลังประชารัฐ จะได้ ส.ส. ทั้งหมด 7 ที่นั่ง เมื่อถามว่าสาเหตุใดที่ประชาชนชอบพรรคพลังประชารัฐก็ได้คำตอบว่า เรื่องของราคาข้าว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่ทำราคาได้สูงขนาดนี้ คือ 18,000 บาท รวมไปถึงเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ทำให้ชาวจังหวัดสุรินทร์ได้เงินไปใช้สอย ดังนั้นประชาชนจึงมั่นใจว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลก็จะสามารถสานต่อ และผลักดันเรื่อง ต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาปากท้องได้สำเร็จ

เมื่อถามว่าผลโพล ของนายสุริยะ เชื่อถือได้ใช่หรือไม่เนื่องจากพลโทสำนักอื่นๆ ก็มีผลสำรวจที่แตกต่างออกไป นายสุริยะ กล่าวว่า อาจเป็นของจังหวัดอื่น แต่ที่จังหวัดสุรินทร์ตนดูมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าได้ 7 ที่นั่ง ประกอบกับต้นได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนก็พบว่าสอดคล้องกับผลโพลที่ตนเองได้รับทราบข้อมูลมา

นายสุริยะ กล่าวว่า รูปแบบการปราศรัยและหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายหรือสร้างความขัดแย้ง รวมถึงใช้เกมใต้ดินหรือใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรค พลังประชารัฐ อย่างที่ถูกกล่าวหาอย่างแน่นอน เพราะยุคสมัยนี้หากเรายังไปใช้อำนาจรัฐ ก็จะถูกพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามจับจ้อง ซึ่งจะเกิดความเสียหายกับพรรคพลังประชารัฐ

จากนั้นนายสนธิรัตน์ นายสุริยะ นายอนุชา ขึ้นปราศรัย หาเสียงช่วยนายอนันต์ ปาลีคุปต์ ผู้สมัคร หมายเลข 8 เขต 1 จ.สุรินทร์ ที่ลานบริษัทไอคิว สี่แยกสลักได อ.เมือง