หนักหนาสาหัสจริงๆ เมื่อศึกภายในเริ่มระอุตั้งแต่ ต่างฝ่ายต่างออกมาหาเสียงป่าวประกาศนโยบายพรรค หวังชิงตำแหน่งทางการเมือง เรียกว่าดุเดือดไฟลุกกันตั้งแต่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง อยู่ดีๆ พรรคดังที่มีหัวหน้าพรรคเป็นกลุ่มนักการเมืองเก่า ซึ่งมีชื่อเสียงระดับประเทศ เกิดการทะเลาะขัดแย้งกันวุ่นวายไปทุกหย่อมหญ้า 

ล่าสุดมีการปล่อยข้อมูลวงใน ส่งต่อให้ลับเฉพาะคนในพรรค มีข้อมูลระบุว่า ...."เฝ้ามองจับตาดู*พรรค...*โดยเฉพาะเขตพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่เริ่มออกสตาร์ต ด้วยความมุ่งหวังว่าพรรคจะเติบโตและได้คะแนนเสียงมากเป็นรางวัล เพราะความเป็นเกาะกลาง แต่ไม่เอาเผด็จการ แต่เรามีสมาชิก **....*** ภาคใต้มากมาย ในขณะพรรคเก่าที่เป็นเจ้าของพื้นที่ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา มันจึงเป็นโอกาสทองของทุกพรรค แต่พรรค...มีราศีโดดเด่นกว่า แคนดิเดตที่เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ต่างก็ลงพื้นที่เพื่อช่วงชิงมวลชนตั้งแต่ระฆังยังไม่ตี โดยถือคติว่าใครลงมือก่อนย่อมนำหน้าเพื่อนไปหนึ่งก้าว ทุกคนยอมลงทุนด้วยทรัพย์ที่ตนมีไปก่อน ด้วยหวังว่าพรรคจะสนับสนุนให้โดยเร็ว

ทราบว่าถึงปัจจุบันวันนี้ พรรคสนับสนุนให้มา 70,000 บาท เป็นค่าสมัคร ส.ส. 10,000 ที่เหลือคือห้วงดำเนินงานของ ส.ส.ที่ผ่านมา จึงไม่ทราบว่าทางพรรคได้คำนึงถึงผู้สมัคร ส.ส.ว่าได้ใช้จ่ายไปจำนวนเท่าใดหรือไม่ (ค่าเช่าบ้านเปิดศูนย์ แผ่นพับแนะนำตัว แผ่นไวนิล รถแห่ อาหารการกินของผู้ช่วยหาเสียง ค่าน้ำมันรถของแกนนำต่างๆ ฯลฯ) เงิน 60,000 ขอบอกด้วยใจจริง เป็นเรื่องประจอกมากกับผู้ที่จะมาทำงานใหญ่ระดับประเทศ หากทางพรรคมีเป้าประสงค์ว่าให้ผู้สมัคร ส.ส.ลงทุนเอง พรรคจะสนับสนุนให้เท่าที่จำเป็น ก็น่าจะแจ้งให้ทุกคนทราบ **อย่าขึ้นต้นด้วยลำไม้ไผ่ สุดท้ายคือบ้องกัญชา**

ดังนั้นใครที่มีส่วนร่วมในคณะกรรมการบริหารพรรคควรที่จะเร่งรีบ กราบเรียนผู้มีอำนาจสั่งการโดยด่วน..หากศรัทธาเสื่อมไปแล้วจะกู้คืนกลับมิใช่เรื่องง่าย เตือนด้วยความเป็นห่วงในฐานะ สมช.ของพรรคคนหนึ่ง รวมทั้งยังเป็นแนวร่วม**.....**ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน.!!!

...

**เป็นอะไรที่ดุเด็ดพอสมควร ข่าวแว่วว่า ฝ่ายหนึ่งเก็บเงินค่าวิ่งกันจนกระเป๋าตุง ส่วนอีกฝ่ายก็จ่ายกับจ่าย แทรกลำดับปาร์ตี้ลิสต์ ทั้งเบียดทั้งยัดชื่อกันจนนาทีสุดท้าย แบบเรียกว่าระส่ำระส่ายจนน่าเป็นห่วงสถานการณ์พรรค สงสารสุดก็คงจะเป็นนายทุนใหญ่ โปรยเงินลงมาจะรู้ไหมว่ามันได้ไม่คุ้มเสีย ...เพราะสมาชิกพรรค หวังจะเข้ามากอบโกย ไม่ได้หวังตั้งใจเข้ามาเป็นผู้แทนรับใช้ประชาชน