วันนี้ (20 ก.พ.62) ชาวทวิตเตอร์ ติดเทรนด์ร้อนแรงเกี่ยวกับการเมืองอีกครั้ง กับแฮชแท็กที่ว่า #Savethanathorn หรือปกป้องธนาธร ภายหลังจากมีกระแสข่าวว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อาจโดนฝากขัง...
ขณะที่ ในวันนี้ นางสาวพรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้แถลงถึงความคืบหน้าคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค, นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค, และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ถูก คสช. แจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งความดำเนินคดีต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) จากกรณีจัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ในเพจอนาคตใหม่ – The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวกรณีพลังดูดของ คสช. เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561

...
ส่วนประโยคที่ นายธนาธร พูดแล้วดันไปเตะหู คสช.นั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “การกล่าวอ้างว่า คสช. มีการดูด ส.ส.” โดยทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ได้นำคำกล่าวของ นายธนาธร บางช่วงบางตอนมาไล่เรียงไว้ดังต่อไปนี้
- “เรื่องของการดูด ส.ส.เข้าไปพรรคใหม่ ที่มีชื่อคล้ายคลึงกับนโยบายรัฐ ต้องบอกว่าจากหลายข่าวที่ออกมา มีการใช้คดีเก่าๆ ของกลุ่ม ส.ส.ต่างๆ ที่เข้าร่วม โดยขู่ว่าถ้าไม่เข้าร่วม จะดำเนินคดีต่างๆ ที่ดำรงอยู่ เรื่องน้ีแสดงให้เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองได้” นายธนาธร กล่าว
- “ผมคิดว่าประเด็นนี้สำคัญมาก แต่ไม่มีการพูดถึง หาก คสช. ไปบอกว่า เฮ้ย ถ้าคุณไม่มาเข้า เราจะเล่นงานคดีที่ค้างๆ อยู่ของคุณ นั่นเท่ากับว่า กระบวนการยุติธรรมไทย มันพังไปหมดแล้ว ถูกเอามาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และนี่คือสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่อยากทำลาย” นายธนาธร กล่าว

- “ความยุติธรรมเกิดขึ้นเฉพาะกับคนรวย แต่กับคนจนไม่มีความยุติธรรมเหลืออยู่ในสังคม กรณีนี้แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อำนาจอยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม ทั้งๆ ที่อันที่จริงแล้ว ไม่ควรมีอะไรอยู่เหนือตราช่างยุติธรรม” นายธนาธร กล่าว
- “หากกระบวนการยุติธรรมไทย ตัดสินอะไรต่างๆ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความยึดมั่นในความยุติธรรม ประเทศไทยคงไม่ต้องเดินมาถึงจุดนี้” นายธนาธร กล่าว

นอกจากนี้ นายธนาธร ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังจากที่มีนักข่าวถามถึงปรากฏการณ์ดูด ส.ส. ซึ่ง นายธนาธร ให้คำตอบว่า
“ผมว่าเป็นเรื่องดีที่ ส.ส. จะแสดงความชัดเจนออกมาว่า จะเลือกอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย หรือเลือกอยู่ฝ่ายเผด็จการ นักการเมืองคนไหนต้องการที่จะมีส่วนสืบทอดอำนาจของ คสช. บอกมาเลยครับ ประชาชนจะได้เห็น ประชาชนจะได้ตัดสินใจได้ถูกต้อง ซึ่งการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ประชาชนไทยจะเป็นคนกำหนดอนาคตเองว่าจะอยู่กับระบอบรัฐประหาร และอยู่กับการสืบทอดอำนาจของ คสช. อีกต่อไปหรือไม่”
“ส่วนนักการเมืองที่ไปเข้าร่วมกับพรรคการเมืองที่มีการแสดงตัวชัดเจนว่า จะสนับสนุนระบอบ คสช. ซึ่งผมต้องเรียนว่า นักการเมืองเป็นอาชีพที่เกิดจากการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไม่มีประชาธิปไตย ไม่มีนักการเมือง ดังนั้น นักการเมืองที่ไปรับใช้เผด็จการ คือ นักการเมืองที่ทอดทิ้งอุดมการณ์ตัวเอง และทรยศต่อจรรยาบรรณวิชาชีพของตนเอง”

นับถอยหลัง 7 วัน ลุ้น “ธนาธร” โดนฝากขังหรือไม่
ล่าสุด นางสาวพรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า “เราได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน ว่า มีความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ต้องสรุปสำนวนคดีก่อนวันที่ 22 ก.พ. 2562 โดยในวันที่ 27 ก.พ. กรรมการบริหารพรรคทั้ง 3 คน จะเดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุด และขอให้สื่อมวลชนร่วมกันจับตาว่า กรรมการทั้ง 3 คนจะโดนฝากขังหรือไม่ กรณีดังกล่าวไม่ใช่แค่พรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นเหยื่อของ พ.ร.บ.คอมฯ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นเครื่องมือปิดปากประชาชน ไม่ให้วิจารณ์รัฐบาล อย่างไรก็ตาม เรายืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่ทำให้การดำเนินการทางการเมืองของพรรคยุติลง ทั้งการหาเสียงและเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง นี่เป็นการแสดงเห็นว่า ทำไมเราต้องเข้าไปแก้ พ.ร.บ.คอมฯ และตอกย้ำว่า ภายใต้รัฐบาลทหาร ประชาชน และพรรคการเมืองทั้งหลาย จะต้องอยู่กับการใช้อำนาจแบบไหน” นางสาวพรรณิการ์ กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามโฆษกพรรคอนาคตใหม่ว่า หากมีการฝากขัง จะทำอย่างไร นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า ถ้ามีการฝากขังจริงเป็นการแสดงให้เห็นว่า คสช.ต้องการมีอำนาจสูงสุด สถานการณ์แบบนี้คล้ายกับการเลือกตั้งในประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ได้นำไปสู่การยอมรับในสากลโลก การเลือกตั้งที่จะถึงนี้เป็นความหวังของทุกคน หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ก็เหมือนเป็นการทำลายความหวังของประชาชน และส่งผลในเรื่องความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อ คสช.
“หากเรื่องที่เราพูดเป็นเรื่องเท็จ ต้องมีประชาชนเป็นล้านคน และสื่อทุกฉบับก็ต้องตกอยู่ในข้อกล่าวหาเดียวกัน สุดท้ายเรื่องนี้จะก่อให้เกิดคำถามในสังคมต่อการใช้อำนาจของ คสช. เพราะพรรคการเมืองใหญ่ทุกพรรคต่างออกมาให้ความเห็น และนำเรื่องดังกล่าวมาพูดถึง แต่ไม่มีใครถูกดำเนินคดี แต่ในเรื่องนี้นั้น สำหรับ นายธนาธร ไม่ได้กังวลตั้งแต่มีการดำเนินคดีมาแล้ว” โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าว.