“ไพบูลย์ นิติตะวัน” กลายเป็นนักการเมืองที่ชาวโซเชียลพูดถึงมากที่สุดอีกคนหนึ่ง ภายหลังจากที่ได้โชว์ชั้นเชิงการพูดใน #ไทยรัฐดีเบต ไปเมื่อวันก่อน ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงชีวิตของนักการเมืองวัย 65 ปี ที่ชูหลักคำสอนทางพุทธศาสนาในสนามเลือกตั้ง หนุนประยุทธ์ จันทร์โอชา สุดหัวใจ และเรื่องราวชีวิตอันผาดโผนของผู้ชายชื่อ “ไพบูลย์”....

หลายสิบปีก่อน ไพบูลย์ เป็นนักธุรกิจไทยรุ่นแรกที่ลงไม้ลงมือจริงจังกับธุรกิจการเกษตรที่ภาคอีสาน จากนั้นบุกเบิกไปเช่าที่ดินของเกษตรกรชาวลาวที่แขวงจำปาสัก (สปป.ลาว) ปลูกมะเขือเทศ มันฝรั่ง และกาแฟ ในนามบริษัท ปากซองไฮแลนด์ จำกัด แต่การปลูกพืชผลของ ไพบูลย์ ก็ใช่ว่าจะธรรมดา เพราะเขาเล่นเอาเฮลิคอปเตอร์ราคาหลัก (หลาย) ล้าน มาหว่านปุ๋ยให้แก่พืชผล

จากนั้น บริษัทในเครือของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้ซื้อกิจการบริษัท ปากซองไฮแลนด์ จำกัด ของไพบูลย์ไป และได้เช่าพื้นที่ปลูกกาแฟเพิ่มเติมอีกหมื่นไร่

...

เมื่อขายกิจการในลาวแล้ว ไพบูลย์ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายของ “คุณหญิงเป็ด” จารุวรรณ เมณฑกา ในสมัยที่เธอเป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน จนทำให้ไพบูลย์เป็นที่รู้จักในแวดวงการเมืองมากขึ้น เพราะในช่วงเวลามรสุมของคุณหญิงเป็ด (เธอไม่ยอมออกจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานที่ไม่โปร่งใส) ไพบูลย์ หาแนวทางต่อสู้ทางข้อกฎหมาย จนคุณหญิงเป็ดได้กลับมานั่งเก้าอี้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินอีกครั้ง 

หัวหมู่ทะลวงฟันของ “กลุ่ม 40 ส.ว.”

ต่อมา ไพบูลย์ยังคงขาขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้รับตำแหน่งทั้งในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน, ทีโอที และศาลรัฐธรรมนูญ

กระทั่งได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาสรรหา และได้รับเป็นแกนนำ 40 ส.ว. จนหลายคนมองว่า เขาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันของ “กลุ่ม 40 ส.ว.” เพราะมีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดันให้ ประสพสุข บุญเดช เป็นประธานวุฒิสภา

ไพบูลย์ ทำหน้าที่ครบวาะ 3 ปี จนมีการสรรหาครั้งใหม่ แต่ชื่อของเขากลับหลุดโผ ทั้งๆ ที่ ณ เวลานั้น ชื่อของเขาเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ แต่หลังจากที่เขาชวดไปแล้วในครั้งนั้น เขาก็ยังต่อสู้จนได้กลับมาเป็น ส.ว.สรรหา อีกครั้ง

คีย์แมนคนสำคัญ ผู้ปิดเกมรัฐบาลยิ่งลักษณ์

แต่การกลับมาของเขาในครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะไพบูลย์ ได้ไปเจอประเด็นสำคัญที่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ซึ่งในครั้งนั้น เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมพบกรณีคุณถวิล เมื่อศาลปกครองสูงสุดตัดสินว่า แต่งตั้งโยกย้ายโดยมิชอบตามกฎหมาย จึงเห็นประเด็นนี้ น่าจะเข้าข่ายการกระทำผิดในรัฐธรรมนูญเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ จึงยกร่างคำฟ้องขึ้นอีก 2 วันถัดมา”

ไพบูลย์ เปรียบเสมือนมือสังหารนารี เพราะปมโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคง โดยมิชอบนั้น เป็นจุดตายที่ทำให้ ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้ยิ่งลักษณ์พ้นจากเก้าอี้นายกฯ และรัฐมนตรีอีก 10 คน ที่ให้ความเห็นชอบการโยกย้ายถวิลต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย

ในเหตุการณ์ที่ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยครั้งนี้ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ทำให้ “นารีหมดสภาพ”...

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น  ไพบูลย์ ได้เข้าร่วมชุมนุมต่อสู้กับ กลุ่ม กปปส. และ สุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อขับไล่รัฐบาลเพื่อไทย และเป็นผู้ที่พยายามจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก ในช่วงที่เกิดรัฐบาลสุญญากาศ แต่ยังไม่ทันได้เสนอชื่อ... “พล.อ.ประยุทธ์” ก็ยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเสียก่อน

จนเมื่อมีการรัฐประหาร ไพบูลย์ ได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ, กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และประธานปฏิรูปแนวทางและมาตรการพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) (ไพบูลย์ นับถือศาสนาพุทธ แต่มีข่าวลือว่า นับถือศาสนาอิสลามเพราะมีผู้ไม่หวังดีเข้าไปแก้ไขประวัติของเขาในเว็บไซต์วิกิพีเดีย จนเกิดความเข้าใจผิด)

หัวหอก ลุยเล่นงาน “พระธัมมชโย”

นอกจากนี้ ไพบูลย์ ยังเป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทที่ออกตัวแรง ในการตรวจสอบและเรียกร้องให้ดำเนินคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

โดยครั้งหนึ่ง ไพบูลย์ เคยระบุว่า “พระธัมมชโยในฐานะเป็นผู้สร้างวัดมาด้วยตนเอง และมีอายุสูงวัย ไม่มีพาสปอร์ต จึงยิ่งมั่นใจว่า ปัจจุบันยังคงหลบอยู่ในเขตวัดธรรมกายไม่จุดใดก็จุดหนึ่ง ในอาคารที่มีที่หลบซ่อนได้มากมาย เพราะการหลบอยู่ที่บริเวณวัดธรรมกายเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมีพื้นที่กว้างถึง 2,000 กว่าไร่ มีกลุ่มอาคารมากมาย พื้นที่หลายล้านตารางเมตร มีห้องเป็นพันๆ ห้อง เป็นเมืองเมืองหนึ่ง”

“พระธัมมชโย เป็นผู้สร้างอาณาจักรธรรมกายที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นผู้ทำลายอาณาจักรนี้ด้วยนํ้ามือของตัวเอง” ไพบูลย์ ระบุ

ต่อมา ไพบูลย์ ก้าวลงสู่สนามเลือกตั้ง ด้วยการเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป พร้อมชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครา

ในช่วงที่ผ่านมา ไพบูลย์ ยกป้ายไฟชูเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชนิดว่าโดดเด้งเด่นดังกว่าใคร จนทำให้หลายคนมองว่า เสียงเชียร์ของเขานั้น "ช่างอวยไส้แตก" พล.อ.ประยุทธ์ เสียจริง อย่างเช่นที่ ไพบูลย์ เคยกล่าวไว้ว่า “พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติครบถ้วน มีความสามารถ และซื่อสัตย์สุจริต และขณะนี้ยังไม่พบการทุจริตของ พล.อ.ประยุทธ์ และครอบครัว ดังนั้นจึงเหมาะสมที่สุด”

ไพบูลย์ ผู้น้อมนำคำสอนของพระพุทธเจ้า เขาว่ามาแบบนั้น
จะเชื่อ หรือจะชอบ ขึ้นอยู่กับหัวใจของคุณเป็นคนตัดสิน (ในคูหา)