"บิ๊กตู่" ขอประชาชนมีสติเสพข่าวช่วงนี้ ขึ้นเวทีดีเบตขอศึกษากฎหมายให้รอบคอบก่อน วอนอะไรจบแล้วขอให้จบกันไป อย่าปลุกขัดแย้งสร้างปัญหาอีก เมิน "เรืองไกร" ร้องบอกไม่มีสาระ...
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ก.พ.2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ช่วงนี้ที่มีปล่อยข่าวเท็จและข่าวลือเป็นจำนวนมาก ขอทุกฝ่ายอย่าไปหลงเชื่อทันที คิดถึงความถูกต้องและประเทศชาติให้มากขึ้น มีสติรับรู้ข่าวสาร เพราะการบิดเบือนทำประเทศจะเสียหาย ส่วนสื่อขอความกรุณาเผยแพร่ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ว่าวันนี้รัฐบาลได้แก้ปัญหาไปแล้วอย่างไร เพื่อให้ประชาชนเกิดหลักคิดที่ถูกต้องมีเหตุผลในการเลือกตั้ง มากกว่าการเลือกตั้งแบบเดิมๆที่มาจากความใกล้ชิดส่วนตัว มองประเด็นใหญ่ๆ ด้วย เมื่อได้ ส.ส. ได้รัฐบาลที่ดีมา มีธรรมาภิบาลจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำปัญหาที่ทุกคนอยากให้แก้มาดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนไม่ใช่ทำนี่มากเกินไป ทำนั่นน้อยเกินไป ทำให้งบฯ มีปัญหาทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบคำถามหลังพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกฯ บัญชีพรรค ทำให้กลายเป็นตัวเต็งนายกฯ คนต่อไปว่า ไม่รู้สึกดดันอะไร ทุกวันนี้ยังทำงานเต็มที่ฐานะนายกฯ และหัวหน้าคสช. ส่วนเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของพรรคดำเนินการ ส่วนนับจากนี้ตนต้องวางตัวอย่างระมัดระวังมากที่สุด ปฏิบัติทุกอย่างตามกฎหมายที่กกต.และกฎหมายอื่นๆ กำหนด ส่วนกิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาลดำเนินการต่อไป แต่อย่านำไปเป็นประเด็นทางการเมือง ถือเป็นคนละเรื่องกัน การเมือง การเลือกตั้งเป็นเรื่องอนาคต ส่วนที่ประชาชนอยากเห็นตนร่วมหาเสียงนั้น ต้องตอบว่า วันนี้สามารถพบตนได้ทุกช่องทางอยู่แล้ว เพราะทำงานทุกวัน ไม่เคยหยุดราชการ อยู่บ้านก็ทำงาน ส่วนที่มีเสียงเรียกร้องอยากเห็นตนร่วมดีเบตกับแคนดิเดตนายกฯ พรรคอื่นนั้น การร่วมดีเบตเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งกฎหมายเขียนอย่างชัดเจนว่า ทำได้หรือไม่ ควรหรือไม่ควร ตนต้องพิจารณาให้รอบคอบ และขอฝากข้อคิดในการดีเบต อย่าเชื่อหรือฟังคนที่พูดเก่งอย่างเดียว แต่ความจริงกลับปฏิบัติไม่ได้หลายอย่าง พูดให้นั้นให้นี่ดูข้อเท็จจริงด้วยตัวเลขนั้นทำได้หรือไม่ เป็นภาษีทั้งนั้น ส่ิงที่ตนพูดไม่ได้เข้าข้างใคร
...
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ วันที่ 8 ก.พ. ควรมีผู้รับผิดชอบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีความคิดเห็น เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ คนไทยทุกคนต้องระลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงให้แนวทางลงมายังรัฐบาล พระราชทานพระราโชบายมาถึงรัฐบาลว่ารัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีความสุข มีทางออก ทางเลือกทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น การแก้ปัญหาสังคมต้องสร้างระเบียบวินัยของคนในชาติ ซึ่งตนตีความถึงการเคารพกฎหมายด้วย ต้องทำให้ทุกคนไม่มีผลกระทบ คำนึงถึงชาติพันธุ์ ร่วมโครงการจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ ตรงนี้ได้มอบแนวนโยบายในที่ประชุมครม.ให้นำโครงการนี้ไปขับเคลื่อนให้ได้มากที่สุดในทุกภาคส่วน
นายกฯ กล่าวว่า ขอฝากถึงพี่น้องประชาชน อะไรที่จบแล้วขอให้จบกันไป อย่าให้มีปัญหาต่อไปอีกเลย แต่วันนี้ก็ยังไม่พ้น เพราะยังมีคนโพสต์เรื่องต่างๆ ในโซเชียล เราต้องลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด ฝากขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักด้วย นักการเมืองและพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ต้องปรับตัว ผมไม่ได้บอกว่าใครทำดีทำเลว แต่เราต้องปรับตัวเพื่อให้ประเทศเดินหน้า ด้วยความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องขอร้องทุกคน วันนี้ขอร้องคนทั้งประเทศ แม้มีเลือกตั้ง แต่ต้องมุ่งไปที่ว่าประเทศชาติจะปลอดภัย ประชาชนมีความสุข
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองเรียกร้องให้ยุติจัดรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ชั่วคราว เพื่อไม่เอาเปรียบทางการเมืองว่า จะเห็นว่าเนื้อหารายการเกี่ยวกับการบริหารราชการ ไม่มีพูดถึงการเมือง หรือหาเสียงให้ใครเลย ขอให้เข้าใจตามนี้ด้วย จำเป็นต้องให้ประชาชนได้เรียนรู้ รับรู้ปัญหาต่างๆ รัฐบาลแก้ไขกันอย่างไร วิธีการที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร จะเห็นได้ว่า 4 ปีที่ผ่านมาบางเรื่องใช้เวลาถึง 4 ปีแก้ปัญหา ไม่ได้แก้ด้วยคำพูด เมื่อถามว่านายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ร้องกกต.ให้ตรวจสอบคุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบระหว่างเดินออกจากวงสัมภาษณ์ว่า “ไม่มีสาระ”