การรับสมัครเลือกตั้งวันแรกเป็นการยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมของการก้าวย่างเข้าสู่ ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ถึงวันที่รอคอย แม้การเมืองไทยยังตัดเรื่องของ วิวาทะทางการเมืองไม่ได้ ก็จะคล้ายๆ กับการเมืองในต่างประเทศ แม้แต่ สหรัฐฯ หรือ อังกฤษ โดยเฉพาะ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องยกให้เป็นสุดยอดของการเปิดศึกวิวาทะระดับโลกเพราะฉะนั้นอาการเดือดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ออกมาโต้นักการเมืองชนิดเผ็ดร้อน ถือเป็นเรื่องธรรมดาในยุคนี้
ที่เกรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทนแรงเสียดทานทางการเมืองไม่ได้ ประเด็นนี้ถ้ามองในมุมกลับ นักการเมืองจะทนแรงเสียดสีจาก พล.อ.ประยุทธ์ได้แค่ไหน บุคลิกที่โดดเด่นของ พล.อ.ประยุทธ์ คือมีความยืดหยุ่น ยืดได้หดได้ ขอโทษก็ได้ คล้ายๆกับ ทรัมป์ ปัญหาคือนักการเมืองจะทำแบบ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หรือเปล่า แค่การขอโทษ ยังไม่เคยเห็นว่าฝ่ายการเมืองจะยอมรับได้
โฟกัส สนามเลือกตั้ง ครั้งนี้ถือว่าเป็นเดิมพันอนาคตนักการเมือง ถ้าผลคะแนนการเลือกตั้งออกมาไม่แลนด์สไลด์ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ชนะขาดแบบถล่มทลาย โอกาสที่การเมืองจะไม่มีเสถียรภาพเยอะมาก
ที่ว่า หาก พรรคพลังประชารัฐ ได้มาแค่ 126 เสียงก็สามารถผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯคนต่อไปได้ เมื่อไปรวมกับเสียง ส.ว. 250 เสียงในสภา เอาเข้าจริงจะผ่านด่าน 126 เสียงได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่ต้องไม่ลืมว่า รัฐบาลจะต้องมีเสียง ส.ส.เพื่อมีเสถียรภาพในการทำงานไม่น้อยกว่า 250 เสียง ซึ่งทางการเมืองก็ถือว่าเสียงปริ่มน้ำด้วยซ้ำ ถ้าจะให้ชัวร์ก็ต้อง 300 เสียงขึ้นไป
ลำพัง พลังประชารัฐและพันธมิตร จะหา 300 เสียงมาจากไหน ดังนั้นจึงต้องอาศัยพรรคที่เป็นตัวแปร อย่าง ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา เป็นต้น
ในขณะที่ เพื่อไทยและพันธมิตร ก็ไม่ชัวร์ว่าจะรวมกันแล้วได้ 300 เสียงขึ้นไปหรือไม่ ถ้าจะให้ชัวร์รวมกันแล้วจะต้องได้เสียงสนับสนุน 376 เสียง ก็ไม่พ้นพรรคตัวแปรสำคัญ อย่าง ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา หรือ อนาคตใหม่ อยู่ดี
...
เพียงแต่ว่า การโหวตนายกฯในสภาฝ่าย พลังประชารัฐ มีโอกาสมากกว่า มีเสียงแค่ 126 เสียงก็มีโอกาสแล้ว เลยมีการดักคอเอาไว้ว่า พรรคที่สมควรจะได้รับการโหวตเป็นนายกฯควรจะได้มี ส.ส.มากที่สุดหรือ 250 เสียง เพราะจะมีผลในขั้นตอนของการตั้งรัฐบาล
แต่สมมติว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสเป็นนายกฯจริงๆก็สามารถ ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ได้ จะทำงานได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง มีปัญหาขึ้นมา ก็มีทางออกให้ยุบสภาแล้วเลือกตั้งกันใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต
การเมืองไทยวันนี้ต้องมองกันแค่วันต่อวัน เพราะมีความเสี่ยงและปัจจัยลบมากมาย ล้วนแต่เกิดจากผลพวงของวิกฤติการเมืองในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อนักการเมืองเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ให้ได้.
หมัดเหล็ก