“สนธิรัตน์” โวยเลิกด่าตั้งพรรคเผด็จการ ชู “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯ ตามครรลองประชาธิปไตย ด้าน “อุตตม” อวยเต็มที่บัญชีนายกฯ ทำพลังประชารัฐไร้เทียมทานทันที หากท่านตอบรับ
วันที่ 2 ก.พ. พรรคพลังประชารัฐ เปิดสนามบางกอกอารีน่า หนองจอก ประกาศนโยบายและเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 350 เขต ซึ่งวันนี้ยังสามารถเปิดรายชื่อผู้สมัครได้เพียง 346 เขต ส่วนอีก 4 เขตยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดเรื่องคุณสมบัติ ประกอบด้วย พัทลุง เขต 2 / ภูเก็ต เขต 1 - 2 / และ ลำพูน เขต 2
ขณะที่ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ 150 คน ได้มีการเปิดตัวบนเวทีบางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายชื่ออย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ยังได้เปิด 3 รายชื่อ ที่พลังประชารัฐจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค / นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี / และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรคเราเข้ามาด้วยระบบประชาธิปไตย จัดตั้งพรรคใหม่ตามรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นหนึ่งใน 51 พรรคการเมืองใหม่ ที่ดำเนินการในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในร้อยกว่าพรรคการเมืองที่อาสาเข้ามารับใช้ประชาชน เราเชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตย และเห็นว่าสังคมที่ขัดแย้ง จำเป็นต้องมีพรรคที่พร้อมประสานความร้าวลึกของสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าให้ได้ แต่ด้วยบริบทความร้าวลึกของสังคมไทย ก็ไม่พ้นที่เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่ประชาธิปไตย ก็มีบางกลุ่มบางพวก หวงแหนประชาธิปไตยไว้แต่เพียงพวกตน อ้างตนขึ้นมาว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย ชี้นิ้วไปถึงพรรคอื่นที่อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการอ้างประชาธิปไตยเข้าสู่อำนาจ ว่าเป็นพรรคสนับสนุนเผด็จการ ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อใครบางคน และเข้ามาแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้เพื่อพวกพ้องของตัวเอง และประชาธิปไตยที่แท้ ไม่ใช่พวกพ่ายแพ้และพาพวกลงท้องถนน
...
นายสนธิรัตน์ บอกว่า จำได้หรือไม่ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการทำประชามติด้วยความเห็นชอบของประชาชน แต่มีอย่างน้อย 2 พรรคการเมืองใหญ่ ที่รณรงค์ให้คว่ำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ผลสุดท้ายมีคนลงมติเห็นชอบ 15.5 ล้านคน ดังนั้นอย่าอ้างความคิดเห็นของตน อย่าผูกขาดความเห็นของตน และโจมตีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่เคารพมติของประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีคำถามหนึ่ง สอบถามว่า เราจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรี แล้วขอความเห็นชอบระบบการเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีที่ผ่านการเลือกตั้ง ทั้งสภา ส.ส. และ ส.ว. ผลการของการตัดสินใจของประชาชน มีคนเห็นชอบในหลักการนี้ 13.9 ล้านคน ดังนั้นเลิกโจมตีนายกรัฐมนตรี ที่จะมาด้วยครรลองของประชามติจากประชาชน เลิกโจมตีในสิ่งที่ตัวเองคาดว่า จะทำไม่ได้ และชี้นิ้วไปสู่คนอื่นที่เขามีโอกาสรับใช้บ้านเมือง ประเทศชาติเพียงพอแล้วกับการใช้วาทกรรมแบ่งแยกประชาชน
เหตุการณ์ในปี 2556 มีพรรคการเมืองออกกฎหมายที่ประชาชนไม่ยอมรับ และเป็นจุดเริ่มของปัญหาบ้านเมือง และมีช่วงที่ประเทศไม่มีนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีขณะนั้นต้องออกจากตำแหน่ง ประเทศเราไม่รู้จะเดินไปทางไหน ประเทศเข้าสู่ภาวะสุญญากาศ และวันนั้นคือที่มาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และวันนั้นท่านไม่ได้ใช้กำลังรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ประเทศไปต่อไม่ได้ หากไม่มีวันนั้น เราคงไม่มีวันได้นั่งอยู่ในวันนี้ ดังนั้นอย่าใช้วาทกรรมว่า รัฐบาลที่ผ่านมาเป็นรัฐบาลเผด็จการ
หากว่าวันนี้ประเทศมีผู้นำที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่สามารถสานต่อภารกิจต่อไปได้ การฟื้นฟูประเทศในหลายปีก็จะเป็นการฟื้นฟูที่ว่างเปล่า เป็นการฟื้นฟูที่หมดประโยชน์ ช่วงเวลานี้สำคัญที่สุดและหวังว่า นายกฯ ประยุทธ์ จะตัดสินใจเพื่อบ้านเมือง ตัดสินใจมาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ นายกฯ ประยุทธ์ ท่านเป็นนายกฯ ที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตย ท่านต้องน้อมรับการตัดสินของประชาชน บ้านเมืองนี้ต้องการคนดี คนเก่ง เด็ดขาดกล้าตัดสินใจ และเป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ผู้นำบางคนที่ในพรรคก็ยังไม่ยอมรับ ดังนั้นพลังประชารัฐจะเลือกผู้นำ เสนอผู้นำ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุด
ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค กล่าวว่า วันนี้เราเลือกข้างแล้ว แต่ไม่ใช่ข้างที่สนับสนุนพวกอ้างประชาธิปไตยที่เป็นเผด็จการรัฐสภา และเราไม่ร่วมเข้าข้างพวกที่อ้างประชาธิปไตยแต่พากลไกไปตายบนถนน แต่เราเลือกข้างที่จะเป็นประชาธิปไตยของทุกคน ส่วนนโยบายพรรค เราให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย ภายใต้ 3 พันธกิจหลัก สานต่อนโยบายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่น บัตรประชารัฐ ที่จะขยายผลให้ได้รับสิทธิเพิ่มเติม รวมถึงสิทธิที่ทำกิน ส.ป.ก. 4-01 จะเร่งออกเอกสารสิทธิให้ราษฎรอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากนี้จะปรับคุณสมบัติจาก ส.ป.ก.4-01 ให้เป็น ส.ป.ก.4.0 ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิทำประโยชน์ในที่ดิน สามารถโอนสิทธิให้บุคคลอื่นที่มีคุณสมบัติทำประโยชน์แทนได้ พร้อมยืนยันว่า ทุกนโยบายไม่ใช่การขายฝัน ทำให้เกิดขึ้นได้จริงทุกเรื่องหากพรรคได้เป็นรัฐบาล
นายอุตตม กล่าวว่า เมื่อวานนี้ได้ไปเชิญพลเอกประยุทธ์ ตามมติของพรรค และถ้าท่านตอบรับ พรรคนี้จะไร้เทียมทานแน่นอน ส่วนการทำพื้นที่ หลังจากนี้เราจะกระจายกำลังลงสู่สนามเลือกตั้ง และเราจะไปพบกันที่รัฐสภา