“รัฐสวัสดิการ” น่าจะเป็นรัฐในอุดมคติของประชากรทั่วโลก เพราะเป็นรัฐที่ดูแลประชาชนทุกกลุ่ม “จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน” แต่มีเพียงบางประเทศในยุโรปที่ประสบความสำเร็จ ก้าวถึงรัฐสวัสดิการ เช่น สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ แต่รัฐบาล คสช. ก็ประกาศนโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการหลายเรื่อง เช่น นโยบายบัตรสวัสดิการรัฐ ที่มีส่วนช่วยสร้างความนิยมผู้นำรัฐบาล
ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ มีบางพรรคที่เสนอเรื่องรัฐสวัสดิการ เช่น พรรคอนาคตใหม่ แต่ยังไม่มีรายละเอียดพรรคที่ประกาศนโยบายใกล้เคียงกับรัฐสวัสดิการที่สุด น่าจะได้แก่พรรคประชาธิปัตย์ เน้นการแก้จน สร้างคน สร้างชาติ จะเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการรัฐ จาก 500 บาท เป็น 800 บาท ผู้ใช้แรงงานต้องมีรายได้ขั้นต่ำปีละ 120,000 บาท หรือเดือนละหมื่นบาท
เด็กไทยทุกคนต้องเรียนฟรีถึงระดับ ปวส. มีอาหารเช้าและอาหารกลางวันฟรีถึงระดับมัธยม นโยบายลักษณะนี้เคยถูกโจมตีเป็น “ประชานิยม” เป็นเรื่องต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ของ คสช. ที่ระบุว่าต้องมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการบริหารประเทศ ที่มุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง ที่อาจก่อความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจบัญญัตินี้อีกต่อไป แม้แต่รัฐบาล คสช. ก็อนุมัติโครงการลดแลกแจกแถม นำเงินแผ่นดินมาแจกประชาชนหลายกลุ่ม พรรคการเมืองอื่นๆ ก็อาจต้องงัดนโยบายประชานิยมออกมาสู้ เพราะเป็นนโยบายที่โดนใจชาวบ้านส่วนใหญ่ เพราะคนไทยรายได้ต่ำมีกว่า 15 ล้านคน มีคนชั้นกลางระดับล่างและระดับกลาง ที่หน้าที่การงานและรายได้ไม่มั่นคง
ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำรุนแรง ข้อมูลล่าสุดของธนาคารสวิสแห่งหนึ่งระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำอันดับ 1 ของโลก สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งเพราะระบบเศรษฐกิจไทย แทนที่รัฐจะมีบทบาทลดความเหลื่อมล้ำ แต่รัฐกลับซ้ำเติมปัญหา เพราะผู้คุมอำนาจในรัฐส่วนใหญ่เป็นตัวแทนกลุ่มทุนขนาดใหญ่ และนักการเมืองที่ร่ำรวย แก้ปัญหาแค่เป็นพิธีกรรม
...
ระบบเศรษฐกิจและสังคมไทย เป็นแบบรวยกระจุกจนกระจาย คนส่วนใหญ่มีการงานและรายได้ต่ำหรือไม่มั่นคง จึงควรได้รับการดูแลจากรัฐ เช่นเดียวกับยุโรปหลายประเทศ ที่มีนโยบายเน้นการประกันสังคมด้านการศึกษา การสาธารณสุข การมีเงินบำนาญ การประกันการว่างงาน ทุกคนยอมรับความเป็นพลเมืองที่เท่าเทียมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
แนวความคิดข้างต้นอาจเป็นรัฐในฝัน ไม่เป็นความจริงในประเทศไทย ที่ยึดมั่นนโยบายมือใครยาวสาวได้สาวเอา โดยหวังอย่างลมๆแล้งๆว่าผู้ร่ำรวยมั่งคั่งทั้งหลายจะแบ่งปันความรวยแก่กลุ่มคนระดับล่าง โดยไม่ต้องปฏิรูประบบภาษีให้เป็นที่ขัดใจ สังคมไทยจะก้าวสู่รัฐสวัสดิการไม่ได้ ถ้าแค่ลดแลกแจกแถมไปวันๆ แต่ขจัดความยากจนไม่ได้.