ฟันธงตรงกัน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรับนิมนต์ลงประกวดชายงาม ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรคพลังประชารัฐแน่นอน

แต่ก่อนรับเทียบเชิญเป็น “ว่าที่นายกฯในบัญชีพรรคการเมือง” พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบภารกิจให้ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายเนติบริกร

ไปปรึกษาหารือกับ กกต.ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร? ให้เกิดความชัดเจน

“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องปรึกษา กกต.ให้รอบคอบรัดกุม

เพราะเมื่อยินยอมใส่ชื่อตัวเองในโผ “ว่าที่นายกฯในบัญชีพรรคการเมือง” เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็น “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ในการเลือกตั้ง ส.ส.เต็มเปา

แถม พล.อ.ประยุทธ์ ยังคาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน และยังควบตำแหน่งหัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจพิเศษ ม.44 อยู่ในมือ

การใส่หมวกหลายใบพร้อมกัน ทำให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องระมัดระวังบทบาทตัวเองมากขึ้นอีกเท่าตัว

โดยเฉพาะการพูดจาจูงใจให้ประชาชนนิยมชมชอบพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าทางอ้อมหรือทางตรง จะทำไม่ได้อีกต่อไป

แต่พูดเชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเฉยๆ ทำได้ไม่ผิดกติกา

พล.อ.ประยุทธ์ จะลงพื้นที่ไปตรวจราชการต่างจังหวัด หรือจะไปประชุม ครม.สัญจร สามารถทำได้เหมือนเดิม

เพราะรัฐบาล คสช. มีสถานะพิเศษ ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ

แต่ถ้ามีแกนนำพรรค หรือผู้สมัคร ส.ส.ไปยืนแหย็มประกอบฉากอยู่ด้วย จะเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ทางการเมือง

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีสถานะเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” โดยตรง!!

พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำหนดให้ “เจ้าหน้าที่รัฐทุกคน” ต้องเป็นกลางทางการเมือง

...

ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษต่อพรรคการเมือง

ห้าม “เจ้าหน้าที่รัฐ” ให้การสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนผู้สมัครหรือพรรคการเมืองทุกกรณี

นี่คือกฎเหล็กที่ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะเป็น “เจ้าหน้าที่รัฐ” ต้องปฏิบัติตาม

ฉะนั้น การไปขึ้นเวทีปราศรัย หรือขึ้นไปโชว์ตัวในฐานะว่าที่นายกฯในบัญชีพรรคการเมือง ไม่ว่าในเวลาราชการ หรือนอกเวลาราชการ

จึงถือเป็นความผิดจังเบอร์!!

หรือการใช้เฟซบุ๊กนายกรัฐมนตรีสื่อสารกับแฟนคลับลุงตู่ เพื่อจูงใจประชาชนให้ลงคะแนนเลือก หรือไม่เลือกพรรคการเมือง

ก็เข้าข่ายความผิดเช่นกัน

อ้อ...ประเด็นที่ต้องสังวรให้จงหนักคือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนปากไว

ถ้าเผลอไปพูดพาดพิง หรือโจมตีพรรคการเมืองคู่แข่งได้รับความเสียหาย หรือเข้าข่ายเจตนาใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ

ถือเป็นความผิดร้ายแรง

กกต.มีสิทธิสั่งระงับการสมัครเลือกตั้งทันที

ปลาใหญ่จะตายน้ำตื้นตรงนี้แหละคุณโยม

สรุปว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจจะต่อวีซ่าอำนาจเป็นนายกฯในบัญชีพรรคการเมือง จะต้องระวังทุกฝีก้าว ไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย

ส่วนการออกทีวีจัดรายการเดี่ยวไมโครโฟนทุกคืนวันศุกร์ จะสามารถทำได้อย่างเดิมหรือไม่ “แม่ลูกจันทร์” ไม่แน่ใจ

เพราะมันยังสองแง่สองง่าม มันยังก้ำๆกึ่งๆระหว่างการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี

หรือการใช้สื่อทีวี เพื่อความได้เปรียบทางการเมือง

ควรมิควรประการใด ลุงตู่ตัดสินใจเองก็แล้วกัน.

"แม่ลูกจันทร์"